“กลุ่มกรีน” แปลกใจ “ยิ่งลักษณ์” แจง ว.5 ผ่านเฟซบุ๊กหลังเหตุการณ์ผ่านมานานกว่าครึ่งเดือน ชี้ให้เห็นนายกฯมีปัญหาตอบข้อสงสัยสังคมแบบฉับพลัน ระบุเลือกใช้วิธีสื่อสารทางเดียวเลี่ยงตอบคำถามต่อหน้าสาธารณะชนส่อมีลับลมคมในการเจรจาเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ พร้อมตั้ง 3 ข้อให้นายกฯตอบ
วันนี้ (24 ก.พ.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว หรือกลุ่มกรีน กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ว่า ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่าเป็นคนคิดและเขียนเฟซบุ๊กเองกับมือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 ประเด็น ส่วนตัวมองว่า นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีปัญหาด้านจริยธรรมตามที่ถูกร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ยังมีปัญหาด้านการตอบข้อสงสัยของสังคมแบบฉับพลัน เพราะหากบริสุทธิ์ใจจริงต่อเหตุการณ์ที่ตนเองได้กระทำลงไป การตอบคำถามสังคมต่อกรณีโฟร์ซีซั่น ควรที่จะกระทำตั้งแต่วันแรกๆ ที่เป็นประเด็น มิใช่ปล่อยเวลาเนิ่นนานจนสังคมเริ่มสงสัยกับพฤติกรรมลับลมคมใน ส่อไปในทิศทางเอื้อข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่พวกพ้องนักธุรกิจใหญ่ มากกว่ามุ่งเน้นการบริหารราชการแผ่นดินของผู้นำประเทศ พึงควรจะกระทำ
“การชิงชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กก่อนที่จะเข้าชี้แจงประเด็นนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินที่รอคำชี้แจงของนายกฯอยู่นั้น ก็ถือเป็นสิทธ์ที่นายกฯพึงทำได้ และน่าจะเป็นมิติใหม่ผู้นำประเทศแถลงหรือชี้แจงเรื่องราวด้านจริยธรรมผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยเน้นการสื่อสารทางเดียวจบแล้วจบกัน โดยเลี่ยงที่จะตอบคำถามต่อหน้าสาธารณะชนต่อหน้าผู้สื่อข่าวอย่างที่พึงกระทำ”
นายจาตุรันต์ กล่าวว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองให้มีประสิทธิภาพเป็นไปในทิศทางที่ดี บริหารงานอย่างโปร่งใส ยังต้องเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและมุ่งสร้างปลูกฝังจริยธรรมอันดีให้กับเยาวชนและคนในประเทศ ไม่ให้มีเรื่องลับลมคมในให้สังคมคลางแคลงใจถึงจุดยืนที่กล้าประกาศตัวต่อสภาต่อหน้าประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดินว่า จะทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมมุ่งทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมของประเทศชาติ แต่ภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันนี้กลับกันอย่างสิ้นเชิงสังคมเริ่มสงสัยว่านักธุรกิจใหญ่กลุ่มนี้ คือตัวแทนของคนทั้งประเทศอย่างนั้นหรือ จึงเลือกที่จะไปพูดคุยแบบลับๆไม่เปิดเผยชื่อตัวตนคนที่บอกว่ามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หรือกลัวว่าถ้าเปิดเผยรายชื่อนักธุรกิจใหญ่ทั้งหมดแล้วสังคมต้องตกตะลึงกับบุคคลเหล่านั้น
“สิ่งที่กลุ่มกรีนต้องตามต่อคือเรื่องคำชี้แจงผ่านระบบกฎหมายรัฐธรรมนูญไทยที่บัญญัติไว้ให้ประชาชนมีสิทธิ์ร้องเรียนปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่าอนายกฯจะให้ความสำคัญเข้าชี้แจงตามกระบวนกฎหมายรัฐธรรมนูญมากกว่าหรือน้อยกว่าการชี้แจงผ่านแค่สังคมออนไลน์ ที่ใครก็สามารถเขียนให้ดูเป็นคนที่มีจริยธรรมสูงส่งแค่ไหนก็ได้ แต่สวนทางกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง”
นายจาตุรันต์ ยังได้ตั้งคำถาม 3 ข้อถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่า คำถามที่ 1 เหตุใดถ้าจะกำหนดนโยบายที่เป็นประโยชน์ของประเทศ ตามที่ท่านกล่าวอ้าง จึงเลือกที่หารือลับกับนักธุรกิจใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียว แทนที่จะเปิดระดมความคิดเห็นจากนักธุรกิจภาคเอกชนขนาดเล็กด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือ ข้าราชการระดับสูงด้านการเคหะ ซึ่งดูแลด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนผู้ยากจนเป็นหลัก และเชื่อว่า มีความรู้ความสามารถไม่น้อยกว่านักธุรกิจใหญ่แค่กลุ่มเล็กๆ 5-6 คน และนายกฯเป็นคนนัดหารือลับด้วยตนเองหรือใครเป็นนายหน้าเป็นคนชักนำให้เกิดภารกิจลับครั้งนี้ คำถามที่ 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ยินดีที่จะเปิดเผยถึงคำชี้แจงที่จะชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ เหมือนที่แสดงความกล้าหาญชี้แจงในเฟซบุ๊กได้หรือไม่
คำถามที่ 3 จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกสอบจริยธรรมจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ในขณะที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีการสนับสนุนแก้ไขในหมวด 13 มาตรา 279 ว่าด้วยเรื่องจริยธรรมของข้าราชการการเมือง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่
