xs
xsm
sm
md
lg

DSI รับเป็นคดีพิเศษ พบส่อฮั้วประมูลเครื่องซักผ้าวชิรพยาบาล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ดีเอสไอพบหลักฐานส่อเจตนาฮั้วประมูลจัดซื้อเครื่องซักผ้า วงเงิน 34 ล้านของวชิรพยาบาล พร้อมรับเป็นคดีพิเศษ ปัดสนองงานการเมือง ย้ำทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา อ้างอิงตามพยานหลักฐาน ท้าใครมีเบาะแสทำคดีไม่ถูกต้องร้องเรียนได้ ดีเอสไอพร้อมชี้แจง

วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงถึงกรณี นพ.ทวีวงษ์ จุลกมนตรี นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ นพ.อนวัช เสริมสรรค์ คณะแพทย์จากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ยื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องซักผ้า เมื่อปี พ.ศ. 2547 มูลค่า 34 ล้านบาทว่า พ.ต.ท.อมฤต บูรณะกิจเจริญ ผอ.ส่วนคดีอาญาพิเศษ 1 ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีมูลความผิดจริง จึงอนุมัติให้ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากโครงการประกวดราคาดังกล่าวส่อเจตนาในลักษณะการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 หรือฮั้วประมูล คือ 1. มีการใช้ชื่อการประกวดราคาว่า “เครื่องจักร จำนวน 1 ระบบ” ซึ่งเป็นการใช้คำที่เจตนาให้ผู้ประกอบการรายอื่นไม่ทราบว่าเป็นเครื่องจักรประเภทใด 2. เจตนาหลีกเลี่ยงไม่นำราคามาตฐานตามบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ของสำนักงบประมาณมาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย มูลค่าร่วม 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการอื่นๆ ของ รพ.วชิรพยาบาลอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและดำเนินการต่อไป

นายธาริตกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีการตอบโต้ว่าดีเอสไอดำเนินการเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องการเมืองว่าบ้านเราคงแยกกันไม่ออกระหว่างการทำงานของข้าราชการการเมือง กับข้าราชการประจำ โดยฝ่ายการเมืองมีหน้าที่ให้นโยบายและกำกับความเรียบร้อย ส่วนฝ่ายข้าราชการประจำมีหน้าที่ปฏิบัติงานตามนโยบาย ซึ่งตนยืนยันว่าดีเอสไอไม่ได้มุ่งที่จะดำเนินคดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยดีเอสไอทำงานตามหน้าที่ ตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเราไม่ได้ทำเพื่อการเมือง และไม่ได้ยุ่งกับการเมือง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมีเบาะแสการกระทำหรือดำเนินการที่ไม่ถูกต้องในการทำคดีพิเศษไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตามสามารถมาร้องเรียนมายังดีเอสไอได้ ถ้าเห็นว่าถูกต้องจะชี้แจง ถ้าไม่ถูกต้องก็จะดำเนินคดีเพราะถือเป็นข้อบกพร่อง

ด้าน พ.ต.ท.อมฤตกล่าวว่า โครงการจัดซื้อเครื่องซักผ้า มูลค่า 34 ล้านบาท เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นการร้องเรียนผู้บริหารระดับสูงในโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร และหมอในโรงพยาบาลเอง ซึ่งมองเห็นถึงความไม่ชอบมาพากล จึงร้องเรียนให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ โดยขณะนี้เชื่อว่าสามารถดำเนินการเป็นคดีพิเศษได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จ นพ.ไวกูณฐ์ สถาปนาวัตร แพทย์ศัลยกรรม ประจำ รพ.วชิรพยาบาลและตัวแทนแพทย์ประมาณ 10 คน ได้มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจอธิบดีดีเอสไอที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง ในโครงการต่างๆ ของ รพ.วชิรพยาบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น