มท.1 ไม่เกี่ยววางผังเมืองใหม่ ป้อง กยน.ทำเพื่อส่วนรวม เชื่อนายกฯ ว.5 นักธุรกิจไม่มีอะไรซับซ้อน บอกใครก็พบได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ทำไขสือตอบสื่อไม่รู้ประโยชน์ทับซ้อน แต่เชื่อคงมีเหตุผล เชลียร์ “ปู” ทำเพื่อประชาชนทุกลมหายใจ
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการปรับผังเมืองใหม่ของรัฐบาลตามแผนของ กยน.ว่า ผังเมืองเดิมสำนักนโยบายเมืองเป็นคนคิด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่เคยคิดวางผังเมืองแต่อย่างใด เนื่องจากผังเมืองของกระทรวงมหาดไทยในอดีตจะคิดถึงพื้นที่เกษตร พื้นที่พาณิชย์ พื้นที่การศึกษา แต่ว่าไม่เคยคิดผังเมืองเพื่อการป้องกันน้ำท่วม อันนี้คือเหตุผลหลักที่อธิบดีกรมผังเมืองก็จะมาเป็น กยน.ด้วย
เมื่อถามว่า ตัวผังเมืองถ้าใครรู้ข้อมูลถ้าเขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แล้วเขาจะได้ประโยชน์จากส่วนนี้หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า มันเป็นวิชาการ กรรมการผังเมืองก็ดี ตนคิดว่าอย่าไปดูแคลนกรรมการ และคนที่เขาคิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมให้ความเชื่อมั่นแก่เขาด้วย เพราะทุกคนก็รักบ้านเมือง ไม่มีใครอยากให้มีน้ำท่วมอย่างที่เกิดขึ้นในปี 54
เมื่อถามว่า แต่มีปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่นายกฯ ไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้เกิดคำถามและปัญหาขึ้นจะอธิบายอย่างไร นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่มีอะไรสลับสับซ้อน ใครๆ ก็สามารถไปพบนักธุรกิจได้ ตนก็ไปพบได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด
เมื่อถามย้ำว่า การไปพบนักธุรกิจอสังหาฯในระหว่างที่รัฐบาลกำหนด นโยบายสาธารณะที่อาจมีผลประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องที่ดินคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ความคิดของคนก็สามารถมองได้ แต่ตนมองคนในแง่สร้างสรรค์ในแง่บวกไม่เคยคิดถึงคนในแง่ลบ และในแง่ที่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ตนไม่เข้าใจคำถามและความรู้สึกของคนที่มาถามเลย
เมื่อถามย้ำว่า ทำไมนายกฯจึงไม่เลือกไปพบนักธุรกิจทางด้านอสังหาฯ ที่เขามีตัวแทนอยู่แล้ว แต่กลับเลือกไปพบนักธุรกิจรายใหญ่เพียงสองถึงสามราย นายยงยุทธกล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียด แต่คิดว่าการไปพบแบบนี้นายกฯ คงมีเหตุผลของท่านเอง เพราะเป็นผู้นำประเทศ ถ้าหากเราดูแคลนผู้นำประเทศ ว่าถ้าไปคุยกับใครแล้วเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ดีไม่งามก็จะเป็นการดูแคลนผู้นำประเทศเกินไป และไม่เฉพาะผู้นำประเทศ แต่อาจจะเป็นสตรีทั่วไปที่ไปคุยกับผู้ชายแล้วถูกเหมาว่าเป็นการไปคุยกันในเรื่องชู้สาว มันคงเกินเลยขอบเขตคุณธรรมจริยธรรม
เมื่อถามว่า ในมุมกลับนายกฯ ควรจะต้องมีความระมัดระวังในการพบปะเพื่อไม่ให้นำไปสู่ข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อนมากขึ้นหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ในเรื่องแบบนี้ทุกคนก็จะต้องระมัดระวังตัว คนระดับนายกฯก็ต้องมีการรอบคอบระมัดระวังเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า การที่นายกไปพบนักธุรกิจเพียง 2-3 ราย จะทำให้นักธุรกิจรายอื่นรู้สึกหรือไม่ว่า ไม่มีสิทธิเข้าหาหรือเข้าพบนายกฯ ได้เพราะไม่มีความสนิทสนม อย่างกลุ่มพฤกษาเรียลเอสเตท นายยงยุทธกล่าวว่า ตนก็ไม่แน่ใจว่าทางกลุ่มพฤกษาเขาจะพูดอย่างนั้นหรือไม่
เมื่อถามต่อว่าจะทำให้นักธุรกิจเกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลจะกำหนดกติกาเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรม นายยงยุทธกล่าวว่า ก็ต้องเข้าใจอย่างนั้นส่วนใครจะเข้าใจเป็นอย่างอื่นตนไม่ทราบ กลุ่มพฤกษาจะเข้าใจเป็นอย่างไร ตนก็ไม่ทราบและถ้ามีความเชื่อมั่นในตัวนายกฯ เมื่อท่านคิดทำอะไรแล้วก็ต้องมีเหตุมีผลและเพื่อส่วนรวม ตั้งแต่หาเสียงความคิดของนายกฯ ต้องการทำเพื่อประชาชนและเทศชาติอยู่ทุกลมหายใจไม่มีเรื่องส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องสักนิด