“เหลิม” ประกาศลั่นลานทุ่งศรีเมือง จะพา “ทักษิณ” กลับบ้านเร็วนี้ๆ แย้มดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภาหลังเสร็จศึกแก้ รธน. โวจะบู๊กับ ปชป.คนเดียว พร้อมท้า “มาร์ค” ดีเบตปมแก้ ม.291 ยันปรองดองได้ประโยชน์ทุกฝ่ายย้อนเหตุการณ์ถึง 18 ก.ย.49 เว้นคนที่สั่งฆ่าคนเสื้อแดงไม่ปรองดองเด็ดขาด แขวะ “สุเทพ” หน้าหมองหลังคดี 16 ศพจ่อเข้าชั้นศาล กร้าวบอกดีเอสไออย่าให้โมโหหากผังล้มเจ้าไม่เป็นความจริงให้จับ เชื่อมีขบวนการจ้องยุบ “เพื่อไทย” อีกหน หากมีจริงตั้ง “พรรคทักษิณ”
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่ลานทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี กลุ่มคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด นำโดย นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร ได้จัดเวทีมอบรางวัลประกวดคำขวัญต่อต้านยาเสพติด โดยเชิญ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มามอบรางวัล และจะประกาศให้จังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่สีขาว ทั้งนี้ บรรยากาศตลอดทั้งวันมีมวลชนคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียงทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ และมีบางส่วนที่กางเต็นท์ปักหลักค้างคืนมาตั้งแต่วานนี้เพื่อจะเฝ้ารอการปราศรัยของ ร.ต.อ.เฉลิม จากนั้นในเวลา 17.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยบุตรชาย นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาถึงบริเวณงาน
ก่อนที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะขึ้นปราศรัย โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนเริ่มหาเสียงตั้งแต่ปี 2552 ว่าจะทำนโนบาย 4 เรื่อง คือ 1. ยาเสพติด 2. ทุจริต 3. ปากท้อง และ 4. การรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านแน่นอน ตนเปิดหน้าชก เดินหน้าชน อะไรจะเกิดก็เกิด ตนไม่กลัว เพราะความกลัวเป็นเหตุของความเสื่อม โดยหลังการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ตนก็จะเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดอง ที่ตนร่างไว้แล้วใน 6 มาตราเข้าสู่สภาฯ โดยตนจะเป็นผู้อธิบายในสภาฯ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์มาทั้งพรรค ตนจะสู้คนเดียว ทั้งนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าวรับรองว่าได้หมดทุกคน ย้อนไปถึงตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.49 โดยยกเว้นคนที่สั่งฆ่าคนเสื้อแดง ตนไม่ปรองดองด้วยเด็ดขาด
“เร็วๆ นี้จะพาท่านทักษิณกลับบ้าน ถ้าลง กทม.แล้วมีปัญหาก็ให้มาลงสนามบินอุดรธานี โดยก่อน พ.ร.บ.ปรองดองจะเข้าสภา ผมจะเป็นคนมาบอกพี่น้องประชาชนให้เตรียมตัวนับ 1 นับ 2 และนับ 3 เครื่องบินจะลงทันที เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองผมก็จะอธิบายคนเดียว ให้ประชาธิปัตย์ยกมาสู้ทั้งพรรค ผมก็ไม่กลัว จะสู้เอง” รองนายกฯ กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมยังได้กล่าวถึงคดีผู้เสียชีวิต 16 รายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ว่า อีกไม่เกิน 30 วัน คดี 16 ศพจะเข้าสู่ชั้นศาล โดยจะมีการไต่สวนว่าใครตาย ใครฆ่า และใครสั่งให้ฆ่า ความจริงจะปรากฏ โดยโทษเบาที่สุดของคนสั่งฆ่าคือประหารชีวิต ฝากไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ช่วงนี้หน้าตาหมองคล้ำเป็นพิเศษ ให้หาสบู่ล้างหน้าให้ขาวขึ้นด้วย รวมไปถึงคดีผังล้มเจ้าที่ตนย้ำมาตลอดว่าเป็นเท็จ เขียนขึ้นมากันเอง ตนได้บอกให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปแล้วว่า หากผังล้มเจ้าเป็นความจริงให้จับ หากไม่จริงต้องประจาน อย่าทำให้ตนโมโห
สำหรับประเด็นการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนได้ท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกทีวีดีเบต แต่เกรงว่านายอภิสิทธิ์จะไม่กล้า แต่หากรับคำท้า ตนจะกลับไปถึง กทม. จะจองโรงแรม จัดเวทีขายบัตร คงได้กำไรมาก เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการมองในมุมที่ต่างกัน รัฐบาลย้ำมาตลอดว่าจะเสนอแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 77 คน และนักวิชาการอีก 22 คน รวมเป็น 99 คน ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้แล้วเสร็จใน 180 วัน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการลงประชามติภายใน 60 วัน โดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของเนื้อหา ยืนยันว่าจะนำประชาชนเป็นจุดเชื่อมโยง ไม่ได้บอกว่าจะแก้ไขอะไรอย่างไรเลย
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะยึดที่นั่ง ส.ส.ทั้งภาคอีสาน แล้วให้พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยไปกอดคอกันตาย ทั้งนี้จะเริ่มจากยึดพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ให้ได้ ก่อนที่จะกระชับพื้นที่ไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อยู่เฉยๆ นอกจากนี้ ตนเชื่อว่าขณะนี้มีขบวนการที่จะยุบพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังจากที่เคยยุบพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนมาแล้ว หากแน่จริงขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยอีก ตนก็จะตั้งพรรคใหม่ใช้ชื่อว่า พรรคทักษิณผู้สื่อข่าวรายงาน ร.ต.อ.เฉลิมใช้เวลาในการปราศรัยประมาณ 40 นาที โดยมีบางช่วงต้องหยุดชะงักลง เพราะมีเสียงรบกวนจากเวทีข้างเคียง ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ที่ได้ทำการปักหลักชุมนุมมาก่อนหน้านี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่ในพื้นที่ต้องเข้าไปขอความร่วมมือให้งดใช้เสียงในช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิมปราศรัย สำหรับมวลชนคนเสื้อแดงที่เข้ารับฟังนั้นมีประมาณ 1,000 คน ไม่เต็มพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ เนื่องจากนายขวัญชัยได้ประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 30,000 คน ทั้งนี้ บริเวณลานทุ่งศรีเมืองได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากกำลังตำรวจที่เผ่าระวังตามจุดต่างๆแล้ว ยังได้มีการนำเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มาเตรียมการไว้ในพื้นที่ด้วย