นราธิวาส - 4 คนร้ายกระหน่ำยิง นายมุคตาร์ กีละ หัวหน้าพรรคประชาธรรม เสียชีวิต ส่วนคนร้ายถูก ชรบ.ยิงสวนขณะหลบหนีตาย 2 พบประวัติโชกโชน ร่วมสังหารครูจูหลิง และยิงพนักงานรถไฟตาย 4 ศพ
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดารัตน์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ร.ต.ท.นัฐวิทย์ บำเพ็ญศรี รองสว.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายมุคตาร์ กีละ อายุ 47 ปี หัวหน้าพรรคประชาธรรม และเป็นผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 3 อยู่บ้านเลขที่ 173/2 บ้านลูโบ๊ะกาเยาะ ม.5 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตหน้าบ้านเลขที่ 267 ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านพักและคนร้ายถูกชุด ชรบ.และ อส.ประจำที่ว่าการ อ.ระแงะ ยิงเสียชีวิต 2 รายโดยเหตุเกิดในช่วงคืนที่ผ่านมาเวลา 22.45 น.
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม 16 ของคนร้ายตกอยู่ที่ถนนหน้าบ้านพักจุดเกิดเหตุกว่า 10 ปลอก พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนศพ นายมุคตาร์ ทางญาติได้นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
นอกจากนี้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นป้อมจุดตรวจของชุด ชรบ.บ้านลูโบ๊ะเยาะ เจ้าหน้าที่พบกองเลือดจำนวน 2 จุด บนถนนที่ชุด ชรบ.และ อส.ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต 2 คน หลังจากก่อเหตุยิงนายมุคตาร์ เสียชีวิตแล้ว คือ 1.นายดอรอโอ๊ะ ปีเยาะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.4 บ้านกูจิงลือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีหมาย ป.วิอาญา 4 คดี โดยเฉพาะร่วมสังหารโหดครูจูหลิง ปงกำมูล เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค.49 และร่วมกับพวกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถไฟเสียชีวิต 4 นาย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.51 โดยข้างศพเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่คนร้ายบุกปล้นจากฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ 1 กระบอกตกอยู่
ส่วนคนร้ายศพที่ 2 คือ นายซาฮีรัน วาดะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 ม.4 บ้านกูจิลลือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย พ.ร.ก.คดีร่วมกับพวกยิง ผช.ธ.ก.ส.สาขาอำเภอรือเสาะเสียชีวิตเมื่อปี 50 ซึ่งมีอาวุธปืนอาร์ก้า.ตกอยู่อีก 1 กระบอก โดยศพคนร้ายทั้ง 2 คนทางญาติได้รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
สอบสวนทราบว่า หลังจากที่ นายมุคตาร์ กินน้ำชาที่บ้านเพื่อนฝั่งตรงข้ามบ้านพักแล้วเสร็จ ได้ขอตัวเดินกลับบ้านพัก ทันใดนั้นได้มีคนร้าย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดเยื้องกับบ้านของนายมุคตาร์ คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า ยิงใส่นายมุคตาร์ กว่า 10 นัดซ้อนจนล้มลงเสียชีวิตคาที่ แล้วคนร้ายทั้ง 4 คนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีไปทางป้อมจุดตรวจ ชรบ.ที่ อส.และ ชรบ.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงถูก อส.และ ชรบ.ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่กลุ่มคนร้าย จนคนร้ายทั้ง 2 คน ที่นั่งซ้อนท้ายเสียชีวิตและตกจากรถจักรยานยนต์ ส่วนคนร้ายที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน สามารถหลบหนีไปได้
ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่ก่อความไม่สงบ ที่นายมุคตาร์ได้ร่วมกันต่อต้านกับชาวบ้านเรื่อยมา จนตัดสินใจลงรับสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 3 เพื่อเป็นตัวแทนเสียงประชาชนในสภาในการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้คลี่คลายถูกจุดและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านกูจิงลือปะ เพื่อไล่ล่าและกดดันคนร้ายอีก 2 คน ที่สามารถหลบหนีมาได้ให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
สำหรับ นายมุคตาร์ เป็นบุคคลในแวดวงการเมืองของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคสันติภาพไทย ซึ่งมี นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเป็นหัวหน้าพรรค และได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี พ.ศ.2548 แต่ไม่มีผู้สมัครได้รับเลือก
ต่อมาพรรคสันติภาพไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเปิดสาขาพรรคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด แต่นายมุคตาร์ก็ยังไม่ถอดใจ ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไปในนามกลุ่มสันติภาพ
ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 นายมุคตาร์ ได้เข้าร่วมกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย กระทั่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 นายมุคตาร์ ได้ตั้งพรรคใหม่ชื่อพรรคประชาธรรม ชูจุดขายว่าเป็นพรรคของคนมลายูแท้ๆ และขอโอกาสเป็นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่สันติสุข เพราะปัญหาชายแดนใต้ต้องแก้โดยคนในพื้นที่เอง แม้เขาและผู้สมัครของพรรคจะไม่ได้รับการเลือกตั้งเลยอีกครั้ง แต่พรรคประชาธรรม ก็สร้างกระแส “พรรคการเมืองของคนมลายู” ได้อย่างคึกคักไม่น้อย ก่อนจะจบชีวิตในวัย 43 ปีดังกล่าว