โฆษก พท.รับบัญชาสั่งระดมพลลูกพรรค ห้ามแตกแถวถกร่างแก้ไข รธน.หวั่นฝ่ายค้านตีรวน พร้อมใช้เสียงข้างมากลากไป แหยงรายชื่อ 10 อรหันต์ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามร่างแก้ไข รธน.ฉบับ รบ.โวยยืนอยู่คนละฝั่งประชาธิปไตย ป้อง “ปู นกแก้ว” ไม่ต้องลาออก หากศาล รธน.ชี้ พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ ขัด รธน.วันพรุ่งนี
วันนี้ (21 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงหลังการประชุมพรรค ว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประธานในที่ประชุมและประธานวิปฝ่ายรัฐบาลขอความร่วมมือ ส.ส.ให้เข้าประชุมร่วมกัน เพราะร่างดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อจะให้มีองค์ประชุมให้ครบ ป้องกันการตีรวนของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ซึ่งจะกำหนดกรอบเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 8 ชั่วโมง โดยฝ่ายรัฐบาลจะเสนอร่างเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งตัวแทนเป็นคณะกรรมมาธิการร่วม ก็อาจจะมีการขอแก้ไขข้อบังคับ เพื่อจะสามารถดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ เรื่องที่สมาชิกมีความกังวลกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาตัดสิน พ.ร.ก.2 ฉบับในวันพรุ่งนี้ โดยอาจเป็นประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์อาจจะขยายผลจากการตัดสินในทางใดทางหนึ่งของศาล และกลัวว่า หากไม่ผ่านการพิจารณาจะทำให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก ฝ่ายกฎหมายได้เสนอว่าหากศาลใช้ดุลพินิจตีความว่า ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไข พ.ร.ก.2 ฉบับนี้ให้อยู่ในรูปของพระราชบัญญัติ และใช้เสียงข้างมากผ่านการพิจารณาเห็นชอบในที่ประชุมสภา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี และ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะการจะลาออกได้นั้นมีเพียงกรณีเดียว คือ รัฐบาลต้องเสนอ พ.ร.ก.2 ฉบับแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเท่านั้น พร้อมระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรนำคำตัดสินของศาลมาเป็นประเด็นทางการเมืองและดิสเครดิตรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ ระบุด้วยว่า การที่ นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา จำนวน 10 คน เพื่อเสนอแนะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ส่วนตัวมองแล้วไม่สบายใจ ที่มีชื่อของ นายนรนิติ เศรษฐบุตร อดีต ส.ส.ร.ปี 50 และอีกหลายคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย มองว่า การตั้งคณะที่ปรึกษาในครั้งนี้ แทนที่จะเป็นทางออกให้กับประเทศ กลับเป็นทางตัน ทั้งนี้ ต้องการให้พิจารณาหาผู้ที่มีความเหมาะสม และหลากหลาย ขณะเดียวกัน กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่องการสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ของกลุ่มกรีน มองว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่จะทำได้ แต่อยากให้ตรวจสอบกลุ่มกรีนด้วย เนื่องจากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายตรงข้าม และอาจเป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่าให้เป็นการตรวจสอบแบบสองมาตรฐาน