xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” ป้องปู ว.5 ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เย้ย ปชป.หลงทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
รองนายกฯ เมิน FATF แบล็คลิสต์ไทยฟอกเงินก่อการร้าย ไม่บ้าจี้แก้ กม.ฟอกเงินเอาใจองค์กรระหว่างประเทศ ลั่นต้องคำถึงถึงประเพณีวัฒนธรรม ยันต้องนำเข้าสภา หวั่นเกิดความขัดแย้ง ป้อง “ปู” ว.5 นักธุรกิจอสังฯ โฟรซีซั่นส์ ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เย้ย ปชป.หลงทางส่งเข็มทิศตะเพิดกลับปักษ์ใต้

วันนี้ (21 ก.พ.) ที่โรงแรมนภาลัย จังหวัดอุดรธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการมาตรการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินตามที่องค์กรระหว่างประเทศกำหนดมาตรฐานพัฒนาและส่งเสริมนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงิน และการก่อการร้าย (FATF) ที่ตั้งเมื่อมี ค.ศ. 1989 ที่ประเทศฝรั่งเศส มีแนวคิดให้รัฐบาลไทยออกกฎหมายเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ และการฟอกเงิน และมีฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ ขอบอกว่าคนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ไม่ได้อ่านตำราเพราะเรื่องนี้ไทยเคยทำสนธิสัญญากับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการแก้ไขกฎหมายการก่อการร้ายในปี 2526 และต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกกฎหมายนี้และกำหนดความผิดฐานก่อการร้ายหรือการฟอกเงินเป็นมูลฐานที่ 8 ที่ ปปง.สามารถยึดทรัพย์ได้อยู่แล้ว

“คนที่พูดเรื่องนี้มันหลับตาถาม หลับตาคิด หลับตาพูด และตอนนี้ที่กำลังเสนอเร่งกฎหมายกันอยู่ ผมเห็นแล้วว่ามันมากเกินไป มันออกกฎหมายชนิดที่ยึดธนาคารได้เหนืออำนาจศาล เราออกกฎหมายให้คนไทยใช้ เราก็ต้องคำนึงถึงประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยด้วย ยืนยันว่าความผิดในเรื่องการก่อการร้าย ฟอกเงิน กฎหมายไทยสามารถเอาผิดได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาสอน ให้ไอ้พวกฝ่ายค้านไปทำหน้าที่ของตัวเอง เราก็จะทำงานด้วยความรัดกุม ไม่ใช่เร่งรัด” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยังคงเดินหน้ากล่าวหาโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้คงยังไม่จบ และพรรคประชาธิปัตย์มีสิทธิที่จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีไปชี้แจง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการที่ไปพบกับนักธุรกิจบางคนก็ถือว่าเป็นเรื่องเก่า ไม่เหมือนบางคนที่ไม่มีอาชีพ พอมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตก็ไปพูดที่นั่นที่นี่ เดินให้คนถ่ายรูปและชอบให้สัมภาษณ์ไม่คิดสร้างสรรค์ อย่างตนเคยเป็นตำรวจมาก่อนและวันนี้มาเป็นรองนายกฯ ก็มีเพื่อน มีลูกน้องเป็นตำรวจ เวลาประชุมสภามีเวลาว่างก็จะแวบไปกินข้าวเที่ยง-เย็น มันมีกฎหมายฉบับไหนบัญญัติว่าเวลามีประชุมสภาแล้วห้ามออกนอกสภาหรือ ออกนอกสภาไม่ได้ต้องเอาโซ่ล่ามไว้หรืออย่างไร เลอะเทอะ

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่รับน้ำ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า โครงการต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะให้ใครทำได้ง่ายๆ มันต้องมี มันต้องมีการประสานงานเปิดประมูลให้ชัดเจน ต้องประกาศให้ทั่วโลกรู้ และการที่นายกรัฐมนตรีไปพูดคุยเรื่องส่วนตัว คนมีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านก็ต้องไปคุยกับคนที่ทำธุรกิจว่าขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจเป็นอย่างไร นักธุรกิจมองการเมืองอย่างไร อย่างตนได้รับมอบหมายให้ปราบปรามยาเสพติดก็ต้องพูดคุยกับตำรวจ และคิดทำงานต่อเรื่องอย่างนี้ พรรคประชาธิปัตย์คิดเป็นหรือไม่ แต่เขาไม่มีอาชีพเพราะเป็นนักการเมืองจริงๆ เรื่องแบบนี้ไร้สาระและเขาจะแพ้เลือกตั้งมากขึ้น

เมื่อถามว่าสรุปแลวตัวละครในเรื่องนี้มีมากน้อยแค่ไหน เพราะมีการเปิดตัววันละคน รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไปพูดแทนไม่ได้เพราะไม่ได้ไปนั่งอยู่ด้วย แต่ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะถ้าจะทำอะไรที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทำไมต้องไปทำที่โรงแรมซึ่งเป็นที่สาธารณะ นายกฯ เดินไปมีคนรู้จัก 500 คน ตนเดินไปมีคนรู้จัก 499 คน ถ้านายเอกยุทธ อัญชันบุตร เดินไป มีคนรู้จักและเกลียดประมาณ 50 คน เรื่องนี้คงจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยมันไปกันไม่ได้เหมือนน้ำกับน้ำมัน นายเอกยุทธ์ก็เป็นพวกประชาธิปัตย์ และขอเตือนว่าถ้ายังมีพฤติกรรมอย่างนี้เดี๋ยวจะโดนอีก รัฐบาลคงไม่ไปทำอะไรตอบโต้กับพรรคประชาธิปัตย์ปล่อยให้เขาหลงทางกลับบ้านไม่ถูก สุดท้ายคงจะต้องให้เข็มทิศกลับไปอยู่ปักษ์ใต้อย่างเดียว ภาคอื่นไปไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น