xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษกรัฐบาลอ้าง “ปู” พบนักธุรกิจหาข้อมูลบริหารประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกรัฐบาลอ้างนายกฯ พบนักธุรกิจที่โฟร์ซีซั่นส์ เพื่อหาข้อมูลกับนักธุรกิจ เพื่อนำมาใช้ในการบริหารประเทศ เรียกร้องฝ่ายค้านอย่าตั้งแง่ พร้อมสวน “อภิสิทธิ์” กล่าวหาทัวร์นกแก้วเลือกปฏิบัติ ชี้ลุ่มน้ำปิง-วังมีเขื่อนจัดการน้ำดีแล้ว น่าเป็นห่วงด้านลุ่มน้ำน่านที่ไม่มีเขื่อน จึงต้องเน้นเชื่อมเส้นทางเข้าแม่น้ำยม

วันนี้ (18 ก.พ.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ และมีการตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯ ของฝ่ายค้านว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการหาข้อมูลจากทุกภาคส่วน หรือนักธุรกิจกลุ่มต่างๆตลอดเวลา เพื่อนำมาใช้ในการบริหารประเทศ อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังมีวาระงานที่ค่อนข้างรัดตัว เมื่อมีบางช่วงที่ไม่ติดภารกิจสำคัญอื่น การไปพบปะกลุ่มนักธุรกิจเพื่อหาข้อมูลก็สามารถทำได้อยู่แล้ว จึงไม่อยากให้จ้องจับผิดมองในทางลบตลอด เพราะจะทำให้ประเทศไทยไม่ไปไหน โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่ควรทำงานหรือวิพากษ์วิจารณ์ให้อยู่ในร่องในรอย

“เราเป็นคนไทย อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ต้องมองในภาพบวก ท่านที่มีหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ก็ควรทำงานตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่เป็นสาระมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง ฝากวิงวอนให้ฝ่ายค้านทำงานอยู่ในร่องในรอย อย่านอกลู่นอกทางจนเลอะเทอะ รวมไปถึงการให้เกียรติสุภาพสตรีด้วย” นายชลิตรัตน์กล่าว

สำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการลงพื้นที่ทัวร์ลุ่มน้ำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.ที่ผ่านมา เดินทางไปเฉพาะพื้นที่เป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า เป็นความกรุณาที่นายอภิสิทธิ์ตั้งข้อสังเกต โดยต้องอธิบายว่า ด้วยเงื่อนเวลาที่มีข้อจำกัด และพื้นที่ต้นน้ำมีความกว้างขวางมาก ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถตรวจงานได้ทุกจังหวัด หรือทุกจุด อีกทั้งการบริหารจัดการน้ำทางลุ่มแม่น้ำปิง และลุ่มแม่น้ำวัง มีเขื่อนและระบบที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว โดยลุ่มแม่น้ำปิงมีเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ขณะที่ลุ่มแม่น้ำวังก็มีเขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมา จ.ลำปาง อยู่แล้ว

นายชลิตรัตน์กล่าวอีกว่า รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำน่าน ที่ยังมีช่องว่าง โดยเฉพาะทางด้านลุ่มน้ำน่านที่ไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่รองรับ จึงต้องมีการสร้างเส้นทางน้ำทำการเชื่อมโยงกับด้านลุ่มน้ำยม เพื่อสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบ เหล่านี้คือเหตุผลที่คณะของนายกฯมาติดตามงานในพื้นที่ดังกล่าว ที่ต้องไปลงพื้นที่จุดอ่อนไหวเพื่อทำพื้นที่ต้นน้ำให้มีการบริหารจัดการที่แข็งแรงขึ้น ยืนยันว่าไม่มีนัยทางการเมือง หรือการเลือกปฏิบัติตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น