เขมรตู่ไทยทำอาร์พีจีร่วงหน้าวัดแก้วฯ ขณะที่แหล่งข่าวสายความมั่นคงชี้ น่าจะเป็นฝีมือของทหารเด็กเขมรฝึกใช้อาวุธ สอดรับ “ฮุนเซน” ย้ายบิ๊กทหารบนเขาวิหารไปคุมกองบัญชาการกองทัพ เหตุผวาข่าวลือรัฐประหาร ส่วนความเคลื่อนไหวทหารไทยค่ำวานนี้ถอนกำลังพ้นเขาวิหารอีกหลายคันรถ เชื่อเป็นการถอนกำลังเบ็ดเสร็จเหมือนครั้งที่ผ่านมา
วันนี้ (16 ก.พ.) เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ อ้างแหล่งข่าวสายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนายทหารใหญ่หัวหน้าชุดประสานงานของกัมพูชาบนปราสาทพระวิหาร แจ้งเมื่อวานนี้เหตุอาร์พีจีจำนวน 2 ลูก ตกที่บริเวณถนนคอนกรีตทางขึ้นเขาหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ โดยสงสัยว่าเกิดจากฝ่ายไทย แต่เมื่อสอบถามมายังฝ่ายไทยก็ไม่มีคำตอบให้ และหลังเกิดเหตุฝ่ายกัมพูชาก็ไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใดว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากทหารไทย เนื่องจากไทยไม่มีอาวุธป่าเถื่อนอย่างอาร์พีจี มีเพียงปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) ปืน ค. และเอ็ม 80 ขณะปัจจุบันไทยถอนทหารและอาวุธหนักลงมาหมดแล้ว เหลือเฉพาะกองกำลังผสมตำรวจตระเวนชายแดน-ทหาร
แหล่งข่าวยืนยันด้วยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เหตุอาร์พีจีตกหน้าวัดแก้วฯ เกิดจากทหารเด็กๆ ของกัมพูชาเอง ที่หัดยิงหัดใช้กันบนนั้นแล้วพลาด เนื่องจากก่อนขึ้นประจำการไม่ได้รับการฝึกที่จริงจังและเข้มงวด ได้รับการฝึกเพียงระเบียบคำสั่งพื้นฐาน นอกจากนี้ รายงานในทางการข่าวระบุด้วยว่า ปัจจุบันบนปราสาทฯ มีแต่เด็กน้อย ทหารตัวเก่งๆ รุ่นเก่าในพื้นที่ถูกดึงตัวไปช่วยงานคุ้มครองอารักขานายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี เพราะเกรงกระแสข่าวรัฐประหาร แม้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏชัด แต่ในทางเปิดเมื่อเดือนที่แล้ว ฮุน เซน ได้แต่งตั้ง พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งดูและพื้นที่ปราสาทพระวิหารมาอย่างยาวนาน ไปนั่งตำแหน่งเจ้ากรมจารกรรมทหารของกองบัญชาการกองทัพแห่งชาติกัมพูชา พร้อมให้ฮุน มาเนต ลูกชายนั่งตำแหน่งรองฯ จึงมีความเป็นไปได้ที่เจีย ดารา จะนำลูกน้องเก่าติดตัวไปช่วยงานด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวทางทหารฝั่งไทย มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ เวลาประมาณ 19.45 น. มีขบวนรถอาวุธเล็กซึ่งคาดว่าเป็น ปรส. ประมาณ 7-8 คัน กลับจากชายแดนเขาวิหารมุ่งหน้าเข้าเมือง จากนั้นประมาณ 20.00 น.ขบวนรถจีเอ็มซี 5 คัน บัส 1 คัน ขนทหารกลับลงมา ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. มีขบวนรถจีเอ็มซีขนสัมภาระอีก 6 คัน กลับลงมาจากบนเขา แหล่งข่าวคาดว่าเป็นการถอนกำลังมากกว่าจะเป็นการสับเปลี่ยนกำลัง เนื่องจากก่อนหน้าไม่มีการส่งกำลังขึ้นไปทดแทน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ โดยผลการประชุมได้ข้อตกลงให้เปิดด่านถาวรแห่งใหม่ สะตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมเดินหน้าสำรวจปักปันเขตแดน แต่ไม่ยุ่งพื้นที่เขาพระวิหาร