รมว.คลัง ตอบกระทู้ปฏิเสธนโยบายแปรรูป ปตท. โยนบาปสื่อปั้นกระแส ย้ำราคาก๊าซเอ็นจีวีต่ำที่สุดในโลก ซึ่ง คกก.นโยบายพลังงานแห่งชาติมีแผนขึ้นราคาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภค ปัดกลุ่มชินฯ จ้องฮุบธุรกิจพลังงาน ยันไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทุกอย่างโปร่งใส
วันนี้ (9 ก.พ.) นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กระทู้สดถามนายกรัฐมนตรีเรื่องนโยบายการขายหุ้น ปตท.ว่า ประชาชนมีความกังวลต่อข่าวรัฐบาลมีนโยบายจะแปรรูป ปตท.เพราะถือเป็นมีผลต่อชีวิตประชาชนเนื่องจากมีอำนาจผูกขาดตลาดพลังงานในประเทศไทย วันนี้ยังมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ประชาชนยังอุ่นใจที่ยังต้องเกรงใจเจ้าของที่แท้จริงคือประชาชนอยู่บ้าง และต้องเดินตามนโยบายภาครัฐ แต่วันนี้มีความสับสนไม่เข้าใจในช่วงที่ผ่านมาทำไมนโยบายพลังงานและบทบาทของ ปตท.ไม่สามารถดูแลประชาชนได้เหมือนในอดีต ทำไมถึงมีการลอยตัวก๊าซ ทำไมไม่รักษาระดับราคาดีเซลให้ต่ำกว่าลิตรละ 30บาทได้ และทำไมรัฐบาลไม่สามารถยกเลิกกองทุนน้ำมันได้ตามที่หาเสียงไว้ ทำไม ครม.มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซตามที่ ปตท.เสนอ ทำไมยกเลิกสิทธิประชาชนใช้ไฟฟ้าฟรี 4 ล้านครัวเรือนเสียสิทธิ นับแต่รัฐบาลมีนโยบายแปรรูป ปตท. เพื่อให้เป็นเอกชนเต็มรุปแบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อหากำไรอย่างเดียว โดยมีคำอธิบายว่าเพื่อลดภาระหนี้สาธารณะ จึงขอถามว่ารัฐบาลยังยืนยันที่จะแปรรูป ปตท.หรือไม่ และทำไมถึงคิวด่าการตกแต่งหนี้สาธารณะ จึงมีความสำคัญกว่าการดูแลค่าครองชีพประชาชน
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายแปรรูป ปตท. และข้อมูลที่ปรากฏในสื่อเริ่มต้นมาจากคำถามที่ตนพยายามเสาะหาว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ยืนยันว่าไม่เคยมีการประชุมระดับคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เป็นเพียงข้อถามของสื่อต่อผู้มีแนวคิดทางเศรษฐกิจ ต่อมานำมาถามตนในเรื่องนี้ ก็แสดงความเห็นว่าเป็นความคิดหนึ่งที่คิดได้ แต่ไม่ใช่ความคิดของรัฐบาล ถ้าจะดำเนินการขอให้นำไปถกเถียงให้เป็นประโยชน์ การที่รัฐบาลถือหุ้นเกินครึ่งเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะ ปตท.ประสบควาสำเร็จอย่างดี หลังเปลี่ยนสถานะเป็นมหาชน และมีการระดมทุนจนเข้มแข็งอยู่ทุกวันนี้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการดำเนินการในเรื่องนี้
ส่วนกรณีของก๊าซเอ็นจีวี มีการกำหนดราคากิโลกกรัมละ 8.50 บาท ซึ่งถือว่าต่ำสุดในโลกนี้ แต่ ปตท.ที่เป็นมหาชนก็มีหน้าที่ดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นที่เป็นเอกชนด้วย สาเหตุที่ไม่สามารถขยายสถานีบริหารให้ทั่วถึง เพราะต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้นด้วย หากธุรกิจไม่มีกำไรจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และกระทบต่อความเชื่อมั่นของการเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้ประชุมและมีแผนเพิ่มราคาก๊าซเอ็นจีวีอย่างเป็นขั้นตอน ไม่ให้ผู้ทำธุรกิจด้านรถโดยสารสาธารณะได้รับผลกระทบ รัฐบาลอยากให้ประชาชนได้ใช้ในราคาถูก แต่ถ้ามันผิดธรรมชาติจะมีผลเสียผลข้างเคียง ส่วนการใช้ไฟฟ้าฟรี แม้รัฐจะผลักภาระไปให้ภาคธุรกิจแบ่งรับไป แต่เขาก็มีหน้าที่ต้องแข่งขันในทางธุรกิจด้วย และรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการเพื่อเอื้อภาคธุรกิจโดยไม่นึกถึงผู้ใช้ไฟ แต่มีข้อมูลบ่งชัดนำไปสู่ความไม่ระวังของคนใช้รายย่อย ซึ่งรัฐบาลก็เข้าใจประชาชนที่มีรายได้น้อย ดังนั้นเรากำลังดำเนินนโยบายให้มีรายได้สูงขึ้น ดูแลตัวเองได้พอสมควรไม่เดือดร้อน ให้กลไกลต่างๆ ของราคามีความสอดคล้องกับตลาด
นายกรณ์ถามต่อว่า แม้รัฐบาลไม่เคยพูดเรื่องแนวคิดแปรรูป ปตท.ก็จริง แต่ผู้มีอาวุโสที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของรัฐบาล เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะโยงความคิดกับนโยบายรัฐบาลได้ ส่วนเหตุผลที่ปล่อยให้เอ็นจีวีปล่อยราคาสูงขึ้นเพื่อ ปตท.สามารถลงทุนในสถานีบริหารได้ รัฐบาลต้องใจถึงกว่านี้ ปตท.ได้ประโยชน์จากรัฐสาหกิจจากรัฐบาลหลายอย่าง จึงไม่ควรรอให้ประชาชนจอดรอเติมก๊าซหลายชั่วโมง เพียงข้ออ้างว่า ปตท.ยังไม่มีกำไรเพียงพอ จึงควรรีบขยายสถานีบริการเลย
นายกรณ์กล่าวว่า ประชาชนยังกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาลก็เคยมีประวัติไม่ดีกับเรื่องนี้มาก่อน มีการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับ ปตท.ไม่ค่อยดี และปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลานี้กลุ่มชินเข้ามามีบทบาทต่อภาครัฐในด้านนโยบายพลังงานหลังจากมีการแต่งตังผู้บริหารในกลุ่มชินมาเป็นกรรมการ ปตท. และรมว.พลังงาน อีกทั้งมีความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ ในการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานในต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่กังวลว่าจะส่งผลต่อการมีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนรอบสองเกิดขึ้นหรือไม่ โดยคราวนี้โยกจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมาเป็นพลังงาน จึงถามว่ารัฐบาลมีนโยบายอย่างไรจะป้องกันไม่ให้มีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้นอีก
นายกิตติรัตน์ชี้แจงว่า รัฐบาลเห็นถึงปัญหาที่ประชาชนต้องเข้าคิวรอ จึงมีการหารือที่จะเพิ่มสถานีบริการมากขึ้น โดยไม่ต้องกระทบต่อผู้ถือหุ้นเรื่องขาดทุน ส่วนเรื่องการตั้งบุคคลต่างๆ ต้องยอมรับว่าแต่ละคนต่างก็มีคุณสมบัติเคยทำงานในองค์กรต่างๆ การตั้งเข้าไปเป็นกรรมการไม่ได้ยึดหลักใครเคยทำหน้าที่อะไรมาก่อน แต่รัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมให้กับองค์กรที่เป็นธุรกิจ ดังนั้น การทำธุรกิจพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านของ ปตท.ก็สามารถทำได้เพื่อนำประโยชน์ของบริษัทและประเทศ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลส่งเสริม ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้ใดทั้งสิ้น ทุกอย่างมีความโปร่งใสภายใต้การบริหารงานของ ปตท.ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์