มติ ปชป.ค้านแก้ รธน. ลั่นไม่ยกมือหนุนแน่ จี้รัฐเร่งเครื่องแก้น้ำท่วม

ที่ประชุม ครม.เงาประชาธิปัตย์ ซัดรัฐเน้นแต่งตั้งมากกว่ารายละเอียดงาน จี้เร่งเครื่องได้แล้ว ขอแบบจำลองพยากรณ์น้ำเสร็จก่อนสิ้น ก.พ. แนะตั้งทีมส่วนหน้ารับมือน้ำ ชี้เลี้ยงปิดจ็อบไม่เหมาะ ฉะรัฐไม่จริงใจเยียวยาไฟใต้ ยันค้านแก้รัฐธรรมนูญ ห่วง พท.คว้าเก้าอี้ ส.ส.ร. ลามแก้หมวดกษัตริย์ ตัดอำนาจองค์กรอิสระเพื่อ “นช.แม้ว” ลั่นไม่ยกมือผ่านแน่

วันนี้ (8 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุม ครม.เงาว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงมาตรการป้องกันอุทกภัยของรัฐบาล และสรุปว่ารัฐบาลยังเน้นตั้งตัวบุคคลมากกว่าสาระการทำงาน โดยรายละเอียดโครงการยอดเงินกู้ก็ยังไม่ชัดเจน จึงขอให้รัฐบาลเร่งเครื่องการแก้ไขปัญหาได้แล้ว เพราะน้ำจะมาในเดือนพฤษภาคม และปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศมีจำนวนสูงกว่าปีที่แล้วมาก จึงขอรัฐบาลเร่งจัดทำปฏิทินการทำงานได้แล้ว โดยในสิ้นเดือนนี้แบบจำลองพยากรณ์น้ำต้องแล้วเสร็จ และต้องเปิดเผยพื้นที่ที่ทำฟลัดเวย์และ จัดทำปฏิทินการทำงานการเยียวยา เพราะยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงความล้มเหลวของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ในการทำหน้าที่ส่วนหน้าที่ขาดความโปร่งใสมีการแบ่งแยกสี ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องตั้งหน่วยงานส่วนหน้าขึ้นมาดูแลรับมือกับน้ำท่วมอีกครั้ง แต่ไม่อยากให้มีสภาพเละเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต อีกทั้งการจัดงานเลี้ยงของรัฐบาลในวันศุกร์นี้ ที่ประชุม ครม.เงามีความเป็นห่วง เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม และรัฐบาลยังจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยไม่ครบ แต่กลับมีการเตรียมเลี้ยงปิดจ๊อบแล้ว

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงมาตรการการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการดำเนินงานของรัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ ครม.มีมติการย้อนหลังถึงช่วง 1 ต.ค 54 เท่านั้น เท่ากับไม่รวมเหตุการณ์ที่กรือเซะ และตากใบ ที่ประชุมจึงกังวลใจในความไม่จริงใจในการออกเกณฑ์มาตรการเยียวยาปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลนี้

โฆษก ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ยังแถลงว่า ที่ประชุมมีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าง เป็นเอกฉันท์ว่า พรรคไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ และจะไม่ยื่นร่างประกบ เพราะกังวลใจอย่างมาก และห่วงว่าโครงสร้างของ ส.ส.ร.ใหม่ 99 คน มีข้อบ่งชี้ว่าสุดท้ายจะมีการเข้าไปครอบงำของพรรคการเมืองขนาดใหญ่คือพรรคเพื่อไทย และกังวลใจว่าจะลามไปถึงการแก้ไขหมวดกษัตริย์ และตัดทอนอำนาจองค์กรอิสระและตอบโจทย์เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะไม่ยกมือสนับสนุนในวาระ 1 ด้วย แต่จะร่วมในการพิจารณาในรายละเอียด แต่ไม่ยกมือให้ผ่านและจะไม่มีการวอล์กเอาต์ ส่วนจะร่วมตั้งกรรมาธิการหรือไม่ขอดูท่าทีในวาระ1 ก่อน

“พรรคเห็นว่าขณะนี้สังคมยังมีความขัดแย้งสูง จึงไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ เพราะจะยิ่งสร้างความขัดแย้งมากขึ้น แต่ควรแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนดีกว่า และจากการตรวจร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยแม้จะไม่ได้เอ่ยถึงการแตะต้อง 3 ประเด็นที่จะสร้างปัญหา แต่มีการโยนหน้าที่แก้ไขไปให้ ส.ส.ร.ทั้ง 99 คน แม้กำหนดให้ ส.ส.ร.22 มาจากการแต่งตั้ง แต่สภาฯ เป็นผู้เลือก หนีไม่พ้นระบบโควตาและการครอบงำแน่นอน เพราะสะท้อนชัดว่าว่าใครกุมเสียงข้างมาก” นายอรรถวิชช์กล่าว