รองโฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ขอชื่อลงพื้นที่ “ทัวร์สร้างความสุข สร้างความหวัง” สั่งคนร่วมคณะไม่ต้องเยอะ ก่อนแจงอีเวนต์เดือ นก.พ. จี้ รมต.บอกปลัดเช็กเมลตรวจสอบงาน พร้อมส่ง “กิตติรัตน์-เฉลิม-วรวัจน์” แจง พ.ร.ก.กู้เงินแทนทุกเวที กำชับคลัง-สภาพัฒน์-กฤษฎีกาดูถ้อยคำแจงศาล รธน.
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สำหรับลำดับการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีในการติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.นี้ ว่ามีการซ้ำซ้อนกับรัฐมนตรีคนใดหรือไม่ หรือต้องการจะเปลี่ยนไปจังหวัดไหนหรือไม่ โดยเฉพาะโครงการที่นายกฯจะออกเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนตะลอนทัวร์ ขณะที่นายกฯ แย้งว่า ไม่อยากให้ชื่อว่าตะลอนทัวร์ แต่อยากให้ใช้ชื่อว่า “ทัวร์สร้างความสุข สร้างความหวัง” เลขาฯ ครม.แจ้งต่อว่า ดังนั้น ในการประชุม ครม.ในครั้งหน้าในวันจันทร์ที่ 13 ก.พ.จะได้พิจารณาในเรื่องสำคัญๆ และขอให้เป็นวาระจรให้น้อยที่สุด เพราะจะต้องออกเดินทางไปทัวร์พบปะประชาชน โดยจะพยายามให้การประชุมครม.แล้วเสร็จก่อนในเวลา 12.00 น. จากนั้นนายกฯ กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า รัฐมนตรีหลายท่านอยากให้นั่งรถตู้หรือร่วมขบวนการกัน ส่วนผู้ติดตามควรจะไปล่วงหน้าหรือตามหลังไป ไม่ควรจะร่วมคณะเยอะจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรได้
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีแจ้งที่ประชุมว่า ในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.นี้ ได้มีการ์ดเชิญรัฐมนตรีทุกคนร่วมงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ขอให้ทุกคนร่วมงาน และในเดือนกุมภาพันธ์มีกิจกรรมพบประชาชนในระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.เป็นการออกไปติดตามผลงานพบปะประชาชนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และในวันที่ 20 ก.พ.นายกฯ จะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ จากนั้นในวันที่ 21-22 ก.พ.จะมีการประชุม ครม.สัญจรจังหวัดอุดรธานี นอกเหนือจากนั้น รัฐบาลจะงานโอทอปพิเศษ โดยขออนุญาตทางศูนย์ศิลปาชีพนำสินค้ามาแสดงและขาย ภายใต้ชื่องาน “ศิลปาชีพประทีปนำไทย โอท็อปกว้างไกล เทิดไท้องค์ราชชินี” โดยมีนายกฯ เป็นประธาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นแม่งาน นายกฯ จะเปิดงานช่วงเช้าในวันที่ 21 ก.พ. จากนั้นนายกฯ จะเดินทางไปประชุม ครม.วันที่ 21 ก.พ. โดยนายกฯ และรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ก่อน และในวันที่ 22 ก.พ.จะเป็นการประชุม ครม.สัญจร
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ในที่ประชุม นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า ได้จัดทำบัญชีรายชื่อคลองทั้งหมด 48 คลองของกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว โดยกรุงเทพฯ รับผิดชอบ 18 คลอง ส่วนที่เหลือกองทัพบก กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบริหารจัดการ และให้รายงานความคืบหน้ากลับมาที่นายยงยุทธ จากนั้นท่านยงยุทธจะนำรายงานต่อที่ประชุม ครม.
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณให้ส่งตรงข้อมูลตัวเลขไปที่ผู้ประสานงานรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง และส่งไปที่เมลรัฐมนตรี โดยดูได้ที่กระทรวงที่รับผิดชอบมีโครงการต้องขอให้งบประมาณเท่าไร เหลือเท่าไร อยู่ระหว่างการพิจารณาเท่าไร เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นการเคลื่อนไหวของงบประมาณจากสำนักงบประมาณเพื่ออนุมัติลงมา เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีต้องไปกำชับปลัดกระทรวง เพื่อประสานงานเช็คเมล์ติดตามงาน ตรวจสอบงานของตัวเอง และกระทรวงอื่นด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้มอบให้นายนิวัติธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดถึงโครงการที่ยังไม่มีรายละเอียด โดยนายนิวัติธำรงได้นำเสนอว่า ขณะนี้มีงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาทที่ยังไม่ได้ลงไปในรายละเอียด มีโครงการบางส่วนที่ค่อยไปเกือบจะรายละเอียด แต่บางส่วนก็ยังขาดรายละเอียด ซึ่งมีเวลาอีกไม่กี่วันที่นายกฯ จะลงพื้นที่ก็จะเดินทาง เพราะฉะนั้นกรอบวงเงินงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ตอนนี้มีการอนุมัติไปแล้ว 7 หมื่นกว่าล้านบาท ขาดอยู่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีแต่หัวโครงการแต่ไม่มีรายละเอียด
“เมื่อนายกฯ ลงพื้นที่ก็จะมีคนเข้ามาถามเรื่องพวกนี้ เราต้องสามารถอธิบายได้ ถ้าตรงไหนอยู่ในเส้นทางที่จะไป แล้วงบฯไม่ชัดเจนก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะที่เราไปต้องมีการอธิบายความกับเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งก่อนที่จะปรับควรจะมีการปรับเปลี่ยนก่อนที่จะเจอปัญหา ณ หน้างาน และอีกปัญหาที่อาจจะพบคือ การอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม 5 พันบาท สำหรับกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่ทางรัฐบาลอนุมัติได้แค่เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะมีคนมาพบถามถึงเงิน 5 พันบาท เพราะฉะนั้นเร่งรัดที่จะอนุมัติจ่ายออกไป” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวว่า นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องในสภาว่า ขณะนี้เรื่องของ พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับลงมาที่วุฒิสภาแล้ว วุฒิสภาก็จะพิจารณาให้โดยใช้เวลา 1 วัน ให้นายกฯ มอบหมายให้ใครไปร่วมประชุมกับวุฒิสภาด้วย รัฐมนตรีท่านไหนเมื่อนายกฯมอบหมายก็จะได้สามารถไปได้ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอาจจะมอบให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังไปชี้แจง ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การชี้แจงต่อวุฒิสภาตนขอเสนอตัว เนื่องจากตนนั้นเรตติ้งสูง โดยเฉพาะการชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายแทนนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตามมติวาระสภา ทางเลขาธิการ ครม.สรุปอีกครั้งว่า เรื่องขอการชี้แจงข้อกฎหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม นายกิตติรัตน์ และนายวรวัจน์ ทุกเวที
“เลขาฯ ครม.ยังได้กำชับให้กระทรวงการคลัง ได้ทำถ้อยคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 ก.พ. แล้ววันที่ 15 ก.พ.ต้องเข้าให้ถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเอกสารที่จะนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กฤษฎีกาต้องเข้าไปดูพร้อมกัน ก่อนที่จะส่งเอกสาร ซึ่งทาง ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมามีนักวิชาการที่เขียนละเอียดมากเรื่อง พ.ร.ก.เงินกู้ มันจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่าจะไม่เร่งด่วน เพราะต้องเร่งด่วนอยู่แล้ว” นายอนุสรณ์กล่าว
