“กรณ์” จี้รัฐบาลตอบคำถามนโยบายขายหุ้น ปตท. ระบุการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซเอ็นจีวี แอลพีจี และน้ำมัน เป็นการเตรียมการของรัฐบาลเพื่อขายหุ้น ปตท.ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ทำประชาชนให้เดือดร้อน ค่าครองชีพแพง
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีการรัฐบาลจะขายหุ้น ปตท.ให้กองทุนวายุภักษ์ เพื่อแปรรูปเป็นบริษัทเอกชนว่า ในกรณีของ ปตท.ถ้าแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชน ผู้ที่เข้ามาครอบครอง ปตท.จะต้องแสวงหากำไร ซึ่งในขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องค่ารองชีพ โดยเฉพาะราคาพลังงานหรือค่าไฟฟ้าอยู่ และถ้าต้นทุนราคาพลังงานสูงขึ้นก็จะทำให้ราคาสินค้าจะต้องปรับตัวสูงขึ้นด้วย
นายกรณ์กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลนี้ได้เตรียมการมาแล้ว เพื่อรองรับการขายหุ้นครั้งนี้ เช่น การปล่อยลอยตัวราคาก๊าซเอ็นจีวี ก๊าซแอลพีจี ด้านราคาน้ำมัน ก็จะจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ ปตท.ได้ประโยชน์ นโยบายได้เตรียมไว้แล้วเพื่อปลดล็อกให้ ปตท. ทำให้ประชาชนต้องจ่ายแพงขึ้น โดยไม่มีองค์กรอิสระเพื่อปกป้องผล ประโยชน์ของประชาชนในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงไม่ได้เหมือนตอนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
นายกรณ์กล่าวว่า จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยได้เข้ามามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง มีการทุจริตเชิงนโยบาย ทำประโยชน์ส่วนตน อย่างกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีความสนใจลงทุนในพลังงาน มีการลงทุนในอัฟริกาใต้ก็มีเรื่องฟ้องร้องเรื่องถ่านหิน ตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปประเทศพม่า ก็มีการไปคุยเรื่องพลังงาน รวมไปถึงการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดเข้ามามีบทบาทในกระทรวงพลังงานและ ปตท.จึงดูเหมือนว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รวมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ได้ตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะขายหุ้น ปตท.อยู่หรือไม่ และถ้ามีการขาย รัฐบาลจะมีนโยบายการกำกับ ดูแล การดำเนินการของ ปตท.อย่างไร รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการผูกขาดทางการตลาดของ ปตท.ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลจะต้องหาทางแก้ให้กับประชาชน
นายกรณ์เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่มีใครติดต่อมาหาตนเรื่องของกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาฯ ตามที่ประธานสภาฯ กล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ประธานสภาฯ ควรที่จะปกป้องประโยชน์ของประชาชน แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็มีความพยายามที่จะปิดปากฝ่ายค้าน และปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน เพราะฉะนั้นทางรัฐบาลควรที่จะรับรู้ข่าวสารที่จะออกมาแถลงข่าวเช่นนี้ ซึ่งก็คงจะต้อบคำถามตนผ่านสื่อมวลชนได้