รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ ระบุนักโทษที่กระทำผิดกฎหมายอาญา ม.112 หรือกลุ่มที่ถูกเกลียดชังทางความเชื่อ มักไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย ขณะที่การเข้าเป็นภาคีสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ยังติดข้อกฎหมายบางประการ
วันนี้ (2 ก.พ.) นายสุนัย จุลพงศธร สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและอำนาจหน้าที่ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ICC ) และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ICJ ) ถึงกรณีที่การเข้าเป็นภาคีสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศของไทยเกิดความล่าช้า โดยนายชาตรี อรรจนานันท์ ผู้อำนวยการกฎหมายกระทรวงต่างประเทศผู้มาชี้แจง กล่าวว่า การผลักดันให้ประเทศไทยเข้าไปเป็นภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศนั้นยังติดปัญหาเรื่องของประมวลกฎหมายอาญาบางมาตรา รวมถึงการที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาให้ออกพระราชบัญญัติตราเป็นกฎหมายต่อไป
ด้าน นายไพฑูรย์ สว่างกมล รองอธิบดี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการการทรมานและการปฏิบัติหรือลงโทษอย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมว่า ปัจจุบันทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีการอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่เนื่องจากอนุสัญญาดังกล่าวเป็นอนุสัญญาที่เกิดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเสนอแนวทางให้การปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดำเนินการโดยกองทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ปฏิบัติงานเพียงหน่วยงานเดียว เพราะจะมีความชำนาญในพื้นที่และคุ้นเคยกับพี่น้องประชาชนมากกว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งลงไปปฏิบัติงานเพิ่มเติม
สำหรับกรณีการทรมานนักโทษที่เป็นจำเลยสังคม อาทิ นักโทษที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาหมายตรา 112 หรือการกระทำผิดที่เกิดจากความเกลียดชังทางความเชื่อ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิยอมรับว่า กลุ่มของนักโทษเหล่านี้มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายและถูกทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพซึ่งยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ พยายามแก้ไขมาโดยตลอด โดยแนวทางการแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่กระทำได้ยาก เพราะการสร้างความเข้าใจให้เกิดการยอมรับความเห็นที่แตกต่างทางความเชื่อเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาสร้างความเข้าใจ โดยเบื้องต้นก็ได้มอบนโยบายให้กับผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (2 ก.พ.) นายสุนัย จุลพงศธร สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและอำนาจหน้าที่ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ICC ) และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ICJ ) ถึงกรณีที่การเข้าเป็นภาคีสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศของไทยเกิดความล่าช้า โดยนายชาตรี อรรจนานันท์ ผู้อำนวยการกฎหมายกระทรวงต่างประเทศผู้มาชี้แจง กล่าวว่า การผลักดันให้ประเทศไทยเข้าไปเป็นภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศนั้นยังติดปัญหาเรื่องของประมวลกฎหมายอาญาบางมาตรา รวมถึงการที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาให้ออกพระราชบัญญัติตราเป็นกฎหมายต่อไป
ด้าน นายไพฑูรย์ สว่างกมล รองอธิบดี กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงการปฏิบัติตามอนุสัญญาต่อต้านการการทรมานและการปฏิบัติหรือลงโทษอย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมว่า ปัจจุบันทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีการอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่เนื่องจากอนุสัญญาดังกล่าวเป็นอนุสัญญาที่เกิดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเสนอแนวทางให้การปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดำเนินการโดยกองทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ปฏิบัติงานเพียงหน่วยงานเดียว เพราะจะมีความชำนาญในพื้นที่และคุ้นเคยกับพี่น้องประชาชนมากกว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งลงไปปฏิบัติงานเพิ่มเติม
สำหรับกรณีการทรมานนักโทษที่เป็นจำเลยสังคม อาทิ นักโทษที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญาหมายตรา 112 หรือการกระทำผิดที่เกิดจากความเกลียดชังทางความเชื่อ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิยอมรับว่า กลุ่มของนักโทษเหล่านี้มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายและถูกทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพซึ่งยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ พยายามแก้ไขมาโดยตลอด โดยแนวทางการแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่กระทำได้ยาก เพราะการสร้างความเข้าใจให้เกิดการยอมรับความเห็นที่แตกต่างทางความเชื่อเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาสร้างความเข้าใจ โดยเบื้องต้นก็ได้มอบนโยบายให้กับผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
