เอเอฟพี - จีนวิจารณ์สังคมมะกันว่า “ฟอนเฟะ” เต็มไปด้วยอาชญากรรม ความรุนแรง การเหยียดผิว เหยียดเพศ และต้นตอปัญหาอีกมากมายฯ ยังหาญกล้ามาวิจารณ์สังคมจีนว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอีก
เมื่อสายวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) รัฐบาลจีนได้ออกรายงานฯ มาตีโต้รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มะกันใช้โจมตีจีนเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.)โดยในรายงานของจีนฉบับนี้สาธยายเหตุการณ์นองเลือดที่สหรัฐฯไปทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน พ่วงรายงานการทรมานนักโทษและเชลยสงครามอันแสนทารุณโหดร้าย เช่นการใช้น้ำราดลงไปที่ตัวและบริเวณหน้าของนักโทษให้หายใจไม่ออกและยอมรับสารภาพในที่สุด (waterboarding) พร้อมชี้ว่า ระบบการเมืองของสหรัฐฯ เอง เป็นทาสรับใช้ผลประโยชน์ทางการเงินเท่านั้น
รายงานฯ ของจีนและสหรัฐฯ เหมือนกระดานหกที่โต้กันไปมาในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทั้งสองชาติ โดยรายงานของจีนปีนี้ชี้ว่า “สหรัฐฯเหมือนคนตาบอดที่ไม่ยอมมองเรื่องความเลวร้ายด้านสิทธิมนุษยชนของตนเอง แถมไม่เคยพูดถึงเลยด้วยซ้ำ”
สำหรับรายงานสิทธิมนุษยชนของสหรัฐที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็วิจารณ์กรณีที่จีนลงโทษและจับกุมบรรดานักเคลื่อนไหวที่วิจารณ์สังคมจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลจีนเกรงว่าจะเป็นกระแสให้เกิดการปฏิวัติเฉกเช่นที่เกิดในโลกอาหรับ
รายงานฯ จากกระทรวงการต่างประเทศมะกันชี้ว่า แนวโน้มสิทธิมนุษยชนในจีนเป็นลบ เนื่องจากจำกัดเสรีภาพในการแสดงความเห็น การปราบปรามทิเบตและซินเจียงอย่างหนักหน่วงฯ
นางคลินตัน กล่าวเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ว่า “สิทธิมนุษยชนในจีนกำลังเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เรา (สหรัฐฯและพันธมิตร) ยังคงกังวลเกี่ยวกับผลสำรวจในรายงานสิทธิมนุษยชนฯ ในจีน เนื่องจากตั้งแต่เดือนก.พ. ประชาชนหลายสิบคนรวมทั้งนักกฎหมายของประชาชน นักเขียน ศิลปิน ปัญญาชนและนักเคลื่อนไหวถูกกักตัวและคุมขัง”
ฮิลลารี คลินตัน ยกกรณีของไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินปากกล้า ผู้มีส่วนช่วยออกแบบสนามกีฬาแห่งชาติเพื่อแข่งโอลิมปิกส์จีน 2008 หรือที่เรียกว่า “รังนก” ว่า เขาถูกกักตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. แถมยังถูกตั้งข้อหา อาชญากรรมทางเศรษฐกิจด้วย
ปีนี้ก็เช่นเดียวกับทุกปี รายงานของจีนก็เรียกร้องให้สหรัฐฯ กลับไปดูการละเมิดของตนเองเสียก่อนที่จะมาวิจารณ์ประเทศอื่น
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนก็ออกมาตอบโต้ว่า “สหรัฐฯ ควรหยุดพฤติกรรมก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ด้วยการใช้รายงานด้านสิทธิมนุษยชนมาเป็นเครื่องมือ”
รายงานสิทธิมนุษยชนของจีนวาดภาพฝันร้ายในสังคมมะกันที่เกิดอาชญากรรมรุนแรง ตำรวจทรมานนักโทษบ่อยครั้ง และการใช้ปืนพกส่วนบุคคลก็ควบคุมไม่อยู่
“ในอเมริกานั้น ความรุนแรงที่เกิดกับประชาชนพลเมืองและการละเมิดสิทธิการเมืองนั้น เกิดมาจากรัฐบาลมะกันเอง แถมยังหนักหน่วงเสียด้วย”
จีนตอกกลับมะกันได้อย่างที่มะกันวิจารณ์จีน พ่วงติดมาด้วยการประณามศาลยุติธรรมของมะกันที่ตัดสินคดีผิดพลาด ตลอดจนการจำกัดสิทธิการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในมะกันเองด้วย
นอกจากนั้นรายงานยังได้วิจารณ์ผลกระทบที่เกิดกับพลเรือนในอิรักและอัฟกานิสถานด้วย
นอกจากจีนจะถูกวิจารณ์แล้ว รายงานฯ ของมะกันก็ระบุด้วยว่า “บางทีคนจีนหลายสิบล้านอาจจะต้องถูกส่งเข้าโรงพยายาลโรคจิต เนื่องจากถูกข้อจำกัดหนักหน่วง เช่น ห้ามชุมนุมกัน ห้ามท่องเที่ยว หรือแม้แต่พิธีกรรมทางศาสนา ฯ”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตำรวจปักกิ่งได้คุมตัวสมาชิกโบสถ์คริสเตียน กว่า 160 คน หลังไม่อนุญาตให้ปฏิบัติกิจนอกโบสถ์ นับเป็นการระงับการชุมนุมของสมาชิกคริสเตียนของโบสถ์แห่งนี้ ครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปีมานี้