“สถาบันพระปกเกล้า” ออกแถลงการณ์ให้กลุ่มนักวิชาการที่เคลื่อนไหวแก้ไขมาตรา 112 ให้หยุดเคลื่อนไหว, ให้สถาบันต้นสังกัดควบคุมพฤติกรรม และให้สังคมร่วมติดตามตรวจสอบใกล้ชิด พร้อมยกระดับตอบโต้จากเบาไปหาหนักหากยังไม่ยอมหยุด
นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ นายกสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานแถลงการณ์คณะกรรมการสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าเรื่องการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ของคณะกลุ่มบุคคลที่ได้อ้างความเป็นนักวิชาการและเสนอต่อสาธารณะในการแก้ไขมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และนำไปสู่การละเมิด พาดพิงวิพากษ์วิจารณ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันของชาติให้เกิดความเสียหาย และกระทบกระเทือนต่อจิตใจประชาชนทั่วทุกหมู่เหล่า และขยายวงไปสู่ความขัดแย้งและแตกยกของผู้คนในสังคม
ดังนั้น สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าในฐานะศูนย์รวมของนักศึกษาปัจจุบัน และศิษย์เก่าของสถาบันพระปกเกล้า และมีวัตถุประสงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและสร้างความห่วงใยต่อพฤติกรรมและการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ก้าวเลยความเป็นนักวิชาการที่แสดงออกอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างมีจรรยาบรรณ อย่างที่วิญญูชนพึงแสดงออกและพึงกระทำ คณะกรรมการสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าจึงขอเรียกร้องต่อสาธารณะ ดังนี้
1. ให้คณะบุคคลดังกล่าวได้ยุติการกระทำที่ละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ขอให้สถาบันการศึกษาต้นสังกัดของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ได้ดำเนินการควบคุมพฤติกรรมและการกระทำที่สร้างความแตกแยกแก่สังคมและประเทศโดยรวม และพิจารณาถึงการกล่าวอ้างตำแหน่งทางวิชาการของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงของประเทศไปแสวงหาผลประโยชน์ให้เกิดแก่กลุ่มตนเองและพวกพ้องแห่งตน ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
3. ขอเรียกร้องให้สาธารณะสังคมได้โปรดติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มคณะบุคคลดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด
คณะกรรมการสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าจึงแถลงมายังสังคมและประชาชนให้ทราบโดยทั่วกัน และขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ปกป้องเทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังไม่มีการยุติการกระทำดังกล่าวจะมีการเรียกร้องอย่างไรต่อไป นายมหรรณพกล่าวว่า ทางสมาคมฯ จะทำการตอบโต้จากเบาไปหาหนักซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของศรัทธา เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าถ้ายังมีการเสนอเรื่องนี้เข้าสู่รัฐสภาจะทำอย่างไร นายมหรรณพกล่าวว่า ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของสภาฯ แต่เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอยู่แล้ว และอยากให้ทุกองค์กรและหน่วยงานตระหนักถึงภัยที่จะตามมา เพราะนี่เป็นเพียงการเคลื่อนไหวครั้งแรกของสมาคม