xs
xsm
sm
md
lg

เพราะพระราชาไม่ทอดทิ้งประชาชน ประชาชนจึงปกป้องพระราชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“…วันที่ 19 สิงหาคม 2489 วันนี้ถึงวันที่เราจะต้องจากไปแล้ว พอถึงเวลาก็ลงจากพระที่นั่งพร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระที่นั่งชั้นล่างนั้นแล้ว ก็ไปยังวัดพระแก้วเพื่อนมัสการลาพระแก้วมรกตและพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการทั้งไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์

พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง 200 เมตร มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฏว่าเป็นทอฟฟี่ที่อร่อยมาก

ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆ ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้จนชิดรถที่เรานั่งกลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง รถแล่นฝ่าฝูงคนไปได้อย่างช้าที่สุด

ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านมา ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆว่า “อย่าทิ้งประชาชน”

อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า ถ้าประชาชนไม่ทิ้ง ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้ง ประชาชนได้อย่างไร แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว…”

พระราชนิพนธ์บันทึกประจำวันบางส่วนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันเสด็จฯจากสยามสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ตลอดระยะเวลา 65 ปีแห่งการครองราชย์ ในหลวงของเรา ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม โดยแท้จริง ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของพสกนิกร ทรงมีพระราชดำริ พระราชดำรัส ชี้แนะแนวทาง ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ในปัญหาต่างๆที่เป็นความเดือดร้อนของแผ่นดิน แม้ในยามที่ทรงประชวร ก็ยังทรงงานเพื่อประชาชนของพระองค์

ตลอดระยะเวลา 65 ปี แห่งการครองราชย์ ในหลวงของเราไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เมื่อมีผู้คิดร้ายต่อสถาบัน ประชาชนจึงไม่ทอดทิ้งพระองค์ เช่นกัน

กระแสสังคม ที่ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งมีจุดมุ่ง

หมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ นับวันยิ่งเชี่ยวกราก รุนแรงขึ้น ทั้งการรวมตัวของประชาชนในนามกลุ่มต่าง การวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มนิติราษฎร์ อย่างรุนแรง และกว้างขวางในโลกไซเบอร์ บทความ คอลัมน์ ในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ คัดค้าน ตำหนิ ตักเตือน พฤติกรรมของกลุมนิติราษฎร์ ที่บัดนี้เปลือยตัวเอง ให้สังคมได้เห็นธาตุแท้ของตัวเองแล้ว

ความรุนแรง เชี่ยวกรากของกระแสต่อต้านกลุ่มนิติราษฎร์ ทำให้ แม้แต่พรรคเพื่อไทย ซึ่งใครๆก็รู้ว่า มีอุดมการณ์เดียวกับกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะต่างเป็นกลไกของระบอบทักษิณ เพียงแต่ใช้ยุทธวิธีที่แตกต่างกัน ต้องประกาศ ตัดหาง ปล่อยวัด กลุ่มนิติราษฎร์ อย่างไม่ไยดี มิตรร่วมรบ สหายร่วมอุดมการณ์

กระทั่ง นักคิด นักเขียนที่เป็นที่ยอมรับกันอย่าง เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่ร่วมลงชื่อ เป็น 1 ใน “ ครก. 112” ยังต้องถอย และประกาศถอนตัวอย่างมีสติว่า ไม่รู้ ไม่เห็นกับ ความคิด จุดยืนของ กลุ่มนิติราษฎร์ กระนั้นยังถูกโจมตีอย่างรุนแรง ในโลกไซเบอร์ จนแทบจะหมดสภาพ “ของบนหิ้ง ที่แตะต้องไม่ได้” ไปเลย

ถ้าใช้ภาษาของฝ่ายซ้าย สายลัทธิเหมาสมัยก่อน ต้องบอกว่า กลุ่มนิติราษฎร์ เป็นพวกวีรชนเอกชน ที่ไร้เดียงสา และสุ่มเสี่ยง จนทำให้เสียงานใหญ่ เมื่อ 35 ปีที่แล้ว ผู้นำขบวนการนักศึกษาหลายๆคน ก็เป็นแบบนี้ จนตกเป็นเหยื่อ การแทรกแซง ครอบงำ ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และนำมิตรสหายเดินเข้าสู่ทุ่งสังหาร ในมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ในเหตุการณ์ล้อมปราบอย่างเหี้ยมโหดของฝ่ายขวา เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2516

วันนี้ ผู้นำเหล่านั้น บางคนเป็นกองเชียร์อยู่ข้างหลัง เชียร์ให้เด็กรุ่นหลัง ก้าวตามรอยที่พลาดพลั้งของตนเอง

อัตตา ความไร้เดียงสา ทำให้กลุ่มนิติราษฎร์ อดไม่ได้ที่จะเปิดเผยถึงเป้าหมายในใจของตนเอง สังคมรับรู้ จากที่เคยหลบๆซ่อนๆ ชูประเด็น การคืนอำนาจให้ทักษิณ โดยการลบล้างผลการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 มาสู่การแก้ไขกฎหมาย อาญามาตรา 112 สุดท้ายด้วยอหังการ์ของเด็กน้อย ก็เปลือยตัวเองจนล่อนจ้อนว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ ถึงกับห้าม กษัตริย์ ตรัสกับประชาชน บังคับให้กษัตริย์สาบานตน

สุ่มเสี่ยงจนเสียงานใหญ่อย่างนี้ ทักษิณไม่เอาไว้หรอก

ถูกต้องแล้ว ที่กลุ่มนิติราษฎร์ วิจารณ์ว่า กระแสต่อต้านพวกเขาไม่ได้ยืนอยู่บนเหตุผลทางวิชาการ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักวิชาการ ไม่ถนัดในการพูดคุย เสวนา เถียงกันไปเถียงกันมา เพื่อหาทาง ตัดตีนให้เข้ากับเกือกที่ตัวเองอยากใส่ให้ได้ กระแสต่อต้านกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นกระแสที่เกิดขึ้นมาจากจิตสำนึกของคนไทย ที่มองเห็นภยันตรายที่กำลังคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ จิตสำนึกนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างงมงาย ลุ่มหลงในลัทธิเทวราชา แต่บ่มเพาะขึ้น จากการได้ยิน ได้เห็น ได้รู้ ว่า ในหลวงของเรา ทำอะไร จิตสำนึกนี้ ทำให้คนไทยลุกขึ้นมาปกป้องในหลวงของเรา อย่างที่กลุ่มนิติราษฎร์ก็คาดไม่ถึง

บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย เป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน ที่ต้องรอให้พวกนักเรียนนอก มาบอก และชี้แนะว่า บทบาทที่ควรจะเป็น คืออะไร คนไทยรู้ว่า ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม สถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกกำกับด้วยธรรมะ 10 ประการของพระราชา สถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงอยู่ได้ เพราะคุณงามความดีของตัวเองเท่านั้น จนเป็นที่เคารพรัก ศรัทธาของประชาชน ยามที่มีผู้มาล่วงเกิน คุกคามพระมหากษัตริย์ ประชาชนจึงลุกขึ้นมาปกป้องพระราชาของพวกเขา

กำลังโหลดความคิดเห็น