xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” แฉ “นิติราษฎร์” หวังปฏิรูปการปกครอง แนะ ครก.112 ถอนตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
กลุ่มการเมืองสีเขียว แนะ “นักวิชาการ-นักเขียน” ถอนตัวจาก ครก.112 หลังถูก “นิติราษฎร์” หลอกใช้ ชี้ ทุกพรรคการเมืองไม่ตอบรับแก้ ม.112 ดันเข้าสภาฯไม่สำเร็จแน่ ฟันธงข้อเสนอ นิติเรด ไปไกลเกินถึงขั้นปฏิรูปการปกครอง

วันนี้ (29 ม.ค.) ที่โรงแรมจันทรเกษม ปาร์ค นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว (Green Politics) ได้กล่าวถึงขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของคณะนิติราษฎร์ ว่า ตนคิดว่า คนที่ไม่เห็นด้วยกับคณะนิติราษฎร์ย่อมมีข้อสงสัยว่า เหตุใดการเคลื่อนไหวของนักวิชาการกลุ่นนี้ ที่ยกระดับเป็นคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 หรือ ครก.112 จึงดื้อดึงดันทุรังที่จะเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่พรรคการเมืองทุกพรรคที่มี ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย มีทิศทางที่ชัดเจนว่า จะไม่แก้ไขมาตรา 112 หมายความว่า เมื่อมีการล่ารายชื่อประชาชนครบหมื่นรายชื่อที่กฎหมายกำหนดเพื่อยื่นร่างแก้ไขมาตรา 112 เข้าสภาฯ ประธานสภาฯก็คงไม่บรรจุเข้าสู่วาระการประชุม เพราะพรรคการเมืองเขาไม่รับ ถือว่าเป็นของเถื่อน ง่ายทุกสุด ก็คือ ยกเลิกการเคลื่อนไหวและยุติบทบาท

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมีความเห็นต่อความเคลื่อนไหวของ 7 อาจารย์คณะนิติราษฎร์ ว่า เลยจากสถานะความเป็นนักวิชาการไปแล้ว โดยที่ไม่เข้าใจว่าพยายามเล่นบทบาทใดอยู่ เพราะหากทั้ง 7 คนต้องการเป็นมากกว่านักวิชาการ โดยเป็นปัญญาชนสาธารณะ ต้องคำนึงว่าบทบาทและข้อเสนอต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกในสังคม หรือใหคนยกพวกตีกัน หากเป็นเช่นนี้แล้วต้องหยุด

นายสุริยะใส ยังได้เรียกร้องให้นักวิชาการ หรือนักเขียนที่ร่วมลงชื่อเป็น ครก.112 ทบทวนการเข้าร่วมรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 โดยกล่าวว่า ตนเชื่อว่า ผู้ที่มาร่วมลงชื่อเป็น ครก.112 ชุดแรก มีเจตนาที่ดี อาจเห็นว่าควรแก้ไขในบางจุด และคงไม่ทราบว่าเจตนาของคณะนิติราษฎร์ไปไกลเกินกว่าการแก้ไขมาตรา 112 นั่นคือ การปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่นเดียวกับกรณีของ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่ได้ออกมาแสดงความชัดเจนแล้วว่า แม้จะเห็นด้วยกับหลักการแก้ไขมาตรา 112 แต่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปสถาบัน

“คำถามจากผมที่มีไปถึงอาจารย์และนักเขียนที่ลงชื่อเป็น ครก.112 ว่า ท่านจะยอมอยู่ในขบวนการที่มีปลายทางมากกว่าการแก้ไขมาตรา 112 อย่างนั้นหรือ โดยส่วนตัวแล้วการแก้ไขมาตรา 112 ถือเป็นวิสัยที่ถกเถียงกันได้ อาทิ โทษที่รุนแรงเกินไป หรือควรให้มีการประกันได้ เป็นต้น แต่ทำไปทำมาข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ไปไกลเกินไป คือ เหมือนใช้มาตรา 112 เป็นบันไดขั้นที่ 1 สุดท้ายนำไปสู่การปรับปรุงหมวด 2 ในรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ และหากมีการนำชุดความคิดของคณะนิติราษฎร์เข้าไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยปรับหมวด 2 ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก จึงอยากให้คนที่ร่วมลงชื่อทบทวนและถอนตัว” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส ยังได้เรียกร้องให้คณะนิติราษฎร์ยุติการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้สถานการณ์บลุกลามปลายบานกลายเป็นเงื่อนไขของความแตกแยกรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เพราะสังคมจับได้คาหนังคาเขา ว่า เจตนาของนักวิชาการกลุ่มนี้ไม่ใช่ต้องการแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้น แต่เป็นเรื่องการปฏิรูประบอบการปกครอง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ควรให้สังคมมีสติ มีสมาธิและนิ่งกว่านี้ ถึงจะถกเถียงกันได้อย่างสันติวิธี การหยิบเรื่องนี้ขึ้นในขณะที่สังคมมีรอยร้าวมีความแตกแยกอยู่ คงหนีไม่พ้นการยกพวกตีกัน หรืออาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองอีกครั้ง” นายสุริยะใส กล่าว

ส่วนกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ขณะนี้มีขบวนการในการล้มรัฐบาลจากบุคคลหลายกลุ่มนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ถือเป็นสูตรสำเร็จของหลายรัฐบาล ที่เปิดประเด็นนี้ออกมาเพราะอยู่ในช่วงขาลง ยิ่งเปิดออกมาเร็ว ก็แสดงว่า รัฐบาลขาลงเร็วกว่าที่คิด หากรัฐบาลทำงานดีแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ก็คงไม่มีใครมาล้มได้ รัฐบาลที่ไปก่อนเวลาก็เป็นรัฐบาลที่บริหารงานล้มเหลว ดังนั้นการออกมาเปิดประเด็นนี้ก็เป็นลูกไม้ตื้นๆ ไม่ต่างจากเมื่อช่วงปลายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งเป็นการบิดเบือนความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล ไม่ต่างจากการเขียนเสือให้วัวกลัว หรือสร้างผีขึ้นมาตัวหนึ่งว่ากำลังหลอกหลอนและเล่นงานรัฐบาลอยู่ ทั้งที่จริงแล้ว คือ ตัวรัฐบาลเองที่ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้
กำลังโหลดความคิดเห็น