รองโฆษก ปชป.เรียกร้องสื่อเลิกให้ราคา “นิติราษฎร์” รังแต่จะสร้างความแตกแยก จี้ “รัฐบาลปู” เร่งดำเนินการเอาผิด อย่าปากว่าตาขยิบ ระบุ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงชัด ฉะโฆษก พท.กุข่าวลงขันล้มรัฐบาล แนะหยุดสร้างจินตนาการของตัวเอง ถ้าไม่มีประเด็นก็ไม่ควรพูด
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวผลักดันแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ของกลุ่มนิติราษฎร์ ว่า ส่วนตัวเห็นว่าสังคม และสื่อมวลชนควรเลิกที่จะสนใจข้อเสนอ และแถลงการณ์ใดๆ ของกลุ่มนิติราษฎร์ได้แล้ว เพราะนอกจากจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมใดๆ แล้ว ยังสร้างความแตกแยกให้กับสังคม และประเทศชาติมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ไม่อยากเห็นสื่อมวลชนเป็นเครื่องมือให้กลุ่มนักวิชาการโนเนม ที่ไม่เคยมีผลงานที่เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อประเทศชาติ มาใช้สถานการณ์ดึงสถาบันที่เป็นที่เคารพเทิดทูนของคนไทยทั้งประเทศ สร้างชื่อเสียงและราคาให้กับตนเอง เพราะถ้าสื่อมวลชนยังคงสนใจ และนำเสนอข่าวของกลุ่มนิติราษฎร์อยู่ ก็คงจะได้รับรู้ข้อเสนอแปลกๆ และสร้างความแตกแยกให้กับประเทศอย่างไม่จบสิ้น เหมือนเด็กดื้อเอาแต่ใจตนเอง ร้องจะเอาของเล่น ถ้าผู้ใหญ่ไม่ไปสนใจเดี๋ยวเด็กก็เลิกไปเอง”
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับท่าทีของรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว แม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และแกนนำรัฐบาลหลายคนจะออกมายืนยันว่า ไม่สนับสนุนการแก้ไข ม.112 พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า ไม่เพียงพอ เพราะรัฐบาลต้องแสดงความเดือดเนื้อร้อนใจ และเป็นผู้นำกับท่าทีต่อกรณีดังกล่าว มากกว่านี้ในฐานะฝ่ายบริหาร เพราะมีนักวิชาการหลายท่านออกมาชี้แนะว่า สามารถดำเนินคดีจัดการกับกลุ่มนิติราษฎร์ได้ จากกรณีที่ได้แถลงการณ์ต่างๆ ที่หมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลต้องออกหน้าเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ด้วยการกระทำไม่ใช่เพียงแค่พูดปัดๆ แบบขอไปทีว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนิติราษฎร์ อย่าทำเหมือนปากว่าตาขยิบ จะให้ภาระในการดูแลทุกอย่างเป็นของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียวไม่ได้ต้องช่วยๆ กันทุกฝ่าย
“ขอย้ำว่า เรื่องนี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ เนื่องจากสถานะประมุขของรัฐ กำลังถูกท้าทายจากการกระทำที่เป็นขบวนการอย่างมีระบบ มิฉะนั้น คนทั่วไปจะคิดได้ว่ารัฐบาลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำเหล่านี้ เพราะทั้งคนเสื้อแดงที่เป็นเนื้อเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาล รวมถึงกลุ่มนิติราษฎร์ที่ข้อเสนอเอื้อประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างมีแนวทางที่เหมือนกัน คือ มุ่งที่จะแก้ไข และยกเลิก ม.112”
นายสกลธี กล่าวเตือนสังคมว่า อย่าไปหลงกลกับเกมแก้ ม.112 เพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้อาจเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่ง ที่ขบวนการจ้องยึดประเทศใช้ออกมาเบี่ยงประเด็น และโยนหินถามทางในเรื่องอื่นที่กำลังจะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ การแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการกลาโหม และการมุ่งนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังคงมีความพยายามอยู่ ตรงตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่า ปี 2555 นี้ บ้านเมืองไทยคงจะหาความสงบสุขได้ยาก
ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาอ้างว่า มีกลุ่มบุคคลลงขันกันเป็นจำนวนหลายพันล้านบาทเพื่อล้มรัฐบาลนั้น นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นเป็นเรื่องไร้สาระที่สังคม และสื่อมวลชนไม่ควรไปให้ราคาและสนใจ เหมือนกรณีกลุ่มนิติราษฎร์ เพราะทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยมักชอบสร้างเรื่องราวจากจินตนาการอยู่บ่อยครั้ง ถ้าทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยมีข้อมูลหลักฐานจริงตามที่กล่าวอ้าง ก็ขอท้าให้เปิดออกมาให้พี่น้องประชาชนได้เห็นได้ดูกัน เพราะบ่อยครั้งที่ชอบออกมาพูดคลุมเครือ ตีกินหาพื้นที่ข่าวรายวัน จึงขอแนะนำทีมโฆษกของพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าไม่มีประเด็นอะไรจะแถลงก็หยุดพักบ้างก็ได้ เพราะนอกจากจะไม่เป็นสาระใดๆ ต่อพี่น้องประชาชนแล้วยังสร้างความสับสนต่อสังคมอีกด้วย