“ยิ่งลักษณ์” ถกนักธุรกิจไทยในอินเดีย คุยอุปสรรคการค้า ชี้ปัญหาขอวีซ่านาน-ทุนสำรองเลี้ยงชีพ-ที่ดินสร้างโรงงาน-ภาษีซ้ำซ้อน-ไฟฟ้าไม่เพียงพอและการบิน เสนอตั้งองค์กรประสาน 2 ชาติ ด้านนายกฯ รับปากคุยจัดหาเขตเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาลงทุนภาคอุตสาหกรรม
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ประเทศอินเดีย เมื่อเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้พบหารือกับนักธุรกิจไทยชั้นนำในอินเดีย ซึ่งประกอบด้วยภาคเอกชนไทยสำคัญ เช่น ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการเอเชียใต้ของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ประธานบริษัท SARAS Group ผู้จัดการบริษัท ไทยอินโดรามา จำกัด ผู้บริหารบริษัท AFS Freight Services Limited ผู้จัดการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารในอินเดีย และผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขามุมไบ
ในโอกาสนี้ได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะธุรกิจไทยที่ได้มีโอกาสมาพบหารือกันถึงภาพรวมและปัญหาอุปสรรคของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในอินเดีย ซึ่งการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในลักษณะ State Visit และการได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ที่อินเดียจะเชิญเพียงปีละหนึ่งประเทศเข้าร่วม ถือเป็นนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ไทย-อินเดียและนายกรัฐมนตรีจะได้ใช้โอกาสนี้ พัฒนาแนวทางความร่วมมือทั้งด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และการพบปะกับนักธุรกิจไทยในครั้งนี้จะได้รับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินธุรกิจในอินเดีย ซึ่งรัฐบาลจะได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแล เพื่อแก้ปัญหา รวมถึงการหยิบยกขึ้นหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดียในการพบหารือทวิภาคีด้วย
ทั้งนี้ ผู้แทนภาคเอกชนไทยต่างได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญถึงการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในอินเดีย และแสดงความพร้อมและความกระตือรือร้นที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคเอกชนไทย ซึ่งภาคเอกชนไทยได้หยิบยกปัญหาและอุปสรรค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการขอวีซ่าของแรงงานไทยที่จะมาทำงานในอินเดียที่ใช้เวลานานในการดำเนินงาน ปัญหาการจ่ายเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพและการรับผลประโยชน์ที่ได้รับคืนช้า ปัญหาการหาที่ดินเพื่อสร้างโรงงานและสถานประกอบการที่หาค่อนข้างยาก และเสนอให้รัฐบาลมีโครงการเจรจาจัดหาที่ดินในอินเดียและอำนวยความสะดวกจัดสรรให้กับนักลงทุนไทย ปัญหาการเสียภาษีซ้ำซ้อนและค่อนข้างสูง ปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอสำหรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงปัญหาสิทธิทางการบิน
ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรประสานงานระหว่างหน่วยงานไทยและอินเดีย เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่การดำเนินธุรกิจในอินเดีย โดยภายหลังการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนไทย นายกรัฐมนตรีได้สรุปประเด็นปัญหาโดยเห็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่จะนำไปเจรจาทันที โดยจะจัดหาเขตเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาโครงการการลงทุนสำหรับภาคอุตสาหกรรม ที่พัก และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การตั้งหน่วยงานประสานงาน โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการในโอกาสแรก รวมทั้งการจัดการประชุมคณะคณะกรรมการร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำงานร่วมกันให้เกิดผลโดยเร็ว ทั้งนี้ สำหรับประเด็นปัญหาอื่นๆ เช่น แรงงาน วีซ่า การท่องเที่ยว และการบินจะรับไปเจรจากับอินเดีย โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนในอินเดียและจะดูแลภาคเอกชนไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจและการลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีอุปสรรค
ภายหลังการหารือและพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจไทย นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางต่อไปยังราษฎร์ปฏิภาวัน เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ
