นายกฯ ยอมเข้าชี้แจงงบประมาณต่อวุฒิสภา อ้างที่เข้าช้า เพราะมีภารกิจยุ่งทั้งวัน ยันให้ความสำคัญกับสภาฯ พร้อมย้ำจะใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (23 ม.ค.) การพิจารณาเรื่องด่วน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 2,380,000,000,000 บาท (สองล้านสามแสนแปดหมื่นล้านบาท) ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว โดยมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในการประชุมได้มีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ที่ได้ศึกษาควบคู่กับการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว
โดย นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 วุฒิสภา รายงานสรุปผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการต่อที่ประชุม โดยระบุว่า ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 รัฐบาลได้กำหนดตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์ อาทิ ยุทธศาสตร์การสร้างรากฐานการพัฒนาที่สมดุลสู่สังคม ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน เป็นต้น พร้อมกันนี้ ทางกรรมาธิการยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลระมัดระวังในการกู้เงิน เพื่อมาใช้ในการแก้ไขงบขาดดุลงบประมาณจำนวน 4 แสนล้านบาท เนื่องจากจะทำให้ยอดหนี้สาธารณะของประเทศสูงขึ้นร้อยละ 40.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แม้จะยังไม่ถึงเพดานสูงสุดที่กำหนดไว้ร้อยละ 60 ก็ตาม
ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อมีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนทักท้วงให้นายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงรายละเอียดการใช้งบประมาณต่อที่ประชุมวุฒิสภาด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจเยี่ยมชมการแสดงการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จึงได้มอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. คลัง เข้ารับฟังข้อเสนอแนะของสมาชิกวุฒิสภาแทน
ขณะที่ พล.อ.ธีรเดช ได้ขอให้สมาชิกอภิปรายไปเรื่อยๆ ระหว่างการประสานงานกับนายกรัฐมนตรี โดยในเบื้องต้นได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ายังไม่สามารถติดต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงได้ จะต้องติดต่อผ่านที่ปรึกษา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาด้วยตัวเอง โดยชี้แจงภารกิจตลอดทั้งวันที่ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยืนยันว่า ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการพิจารณาในชั้นของวุฒิสภา เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายฯ ในครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะงบประมาณส่วนหนึ่งนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งรัฐบาลได้ตัดงบประมาณของแต่กระทรวลง 10 เปอร์เซ็นต์ นำไปร่วมในงบกลางเพื่อเยียวยาให้กับผู้ประสบภัย พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการป้องกันปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการ
สำหรับภาพรวมการพิจารณาเรื่องด่วน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ของวุฒิสภา สมาชิกส่วนใหญ่เน้นไปที่การทวงถามถึงแนวทางบริหารจัดการงบกลาง ที่ใช้ในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมในอนาคต
นอกจากนี้ สมาชิกบางส่วนยังแสดงความกังวลถึงมาตรการการกู้เงินของรัฐบาล เพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขงบขาดดุลงบประมาณจำนวน 4 แสนล้านบาท โดยเกรงว่า จะทำให้ยอดหนี้สาธารณะของประเทศสูงขึ้นร้อยละ 40.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแม้จะยังไม่ถึงเพดานสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 60 ก็ตาม