xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ คน-เงิน-อำนาจพร้อม “แม้ว”ก็เดินหน้าสั่งลุย !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

เปิดหน้าเปิดตัวกันออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุด “ปู 2” รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เวลานี้บางคนกำลังอยู่ในอารมณ์ดีใจกำลังเลี้ยงฉลองและเดินสายขอบคุณผู้มีพระคุณที่เกื้อหนุนให้ได้ดิบได้ดี ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังอยู่ในช่วงทำใจ สับสนอึ้งพูดไม่ออกหลังจากตกเก้าอี้แบบไม่คาดหมาย เพราะถ้าเทียบกันกับคนที่เข้ามาใหม่หรือยังเหนียวแน่นอยู่ที่เดิมก็ไม่เห็นว่าตัวเอง “ห่วยกว่า” ตรงไหน มิหนำซ้ำดูแล้วยังเหนือกว่าทุกด้านเสียอีก ดังนั้นถ้าให้สรุปนาทีนี้จึงเห็นบรรยากาศออกมาในแบบสุขปนเศร้าระคนกัน

อย่างไรก็ดีหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการเรียบร้อยแล้วเราก็จะได้เห็นการเคลื่อนไหวและต้องจับตากันอย่างไม่ให้คลาดสายตา เพราะเชื่อว่าการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้มีเป้าหมายสำคัญที่ซุกซ่อนอยู่ แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยาก

รับรู้กันไปทั่วแล้วว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนที่มีบทบาทชี้นิ้วสั่งการมีอยู่เพียงคนเดียวคือ ทักษิณ ชินวัตร เพราะเขาเป็น “เจ้าของ” ดังนั้นถ้าใครอยากเป็นรัฐมนตรี หรือต้องการให้ใครมาเป็นรัฐมนตรี โยกใครเข้า ใครออกก็ต้องขึ้นกับเขาคนเดียว โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญที่มีผลต่อยุทธศาสตร์ทางธุรกิจและความมั่นคงส่วนตัวล้วนต้องผ่านการคัดเลือกมาอย่างเข้มงวด เน้นเฉพาะคนที่ไว้ใจได้ในลักษณะ “คนรับใช้ในบ้าน” สั่งได้ทุกอย่าง

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ตำแหน่งสำคัญล้วนแล้วแต่เป็นของ ทักษิณ ทั้งสิ้น โดยไล่ลงมาตั้งแต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากต้องเป็น “น้องสาว” ตัวเองคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ต้องไปสนใจว่าจะ “ด้อยประสิทธิภาพ” ถูกค่อนขอดว่าด้อยปัญญาแค่ไหนก็ไม่ต้องไปแคร์ เพราะถ้าพิจารณากันถึงประสิทธิภาพของรัฐบาลแล้ว แค่ “ปรับตัวน้องสาวตัวเอง”ออกไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ตำแหน่งเดียว แล้วหาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแทน แค่นี้เรื่องก็จบ บ้านเมืองก็มีอนาคตทันที

ถัดมาก็เป็นกระทรวงการคลัง ที่โยกเอา กิตติรัตน์ ณ ระนอง มาจากกระทรวงพาณิชย์มานั่งแทน ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาลคนเดิมที่ “ใจไม่ด้านพอ” ชอบอิดออดสั่งการไม่ได้ดังใจ และตามความหมายก็จะให้ กิตติรัตน์ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เป็น “คนถือกระเป๋าเงิน” อย่างสมบูรณ์แบบ

กระทรวงพลังงาน ก็ถึงเวลาเปลี่ยนหน้ามารับใช้กันใหม่ หลังจากคนเดิมคือ พิชัย นริพทะพันธุ์ ทำงานตามคำสั่งเรื่องการปรับโครงสร้างพลังงานไฟเขียวให้ขึ้นราคาน้ำมันและก๊าซกันไปอย่างบ้าเลือดกันไปแล้ว แต่เพื่อป้องกันถูกสังคมรุมด่า ทำให้รัฐบาลน้องสาวตัวเองอาจ “ซวนเซ”ไปด้วย ก็ต้องเปลี่ยนเกมเพื่อผ่อนกระแสกดดันออกไปนั่งพักข้างนอก

เพราะเมื่อพิจารณาจากคนใหม่ที่เข้ามาแทนมันก็เห็นภาพชัดยิ่งกว่าเดิม นั่นคือเห็นหน้าตาแล้วความหมายไม่ต่างจาก “คนรับใช้ในบ้าน” ไม่มีผิด เพราะการไปดึงเอา อารักษ์ ชลธาร์นนท์ จากบริษัทไทยคมฯ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ จะให้คิดเป็นอื่นได้อย่างไร โดยเฉพาะหากเกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานอันมีมูลค่ามหาศาล

กระทรวงกลาโหมก็เปลี่ยนแปลงโดยโยกเอาเพื่อนรัก ตท.10 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต มาจากกระทรวงคมนาคมมานั่งแทน เพื่อควบคุมดูแลด้านกลาโหม คุมเหล่าทัพ แต่เป้าหมายสำคัญที่เข้าใจกันดีก็คือ การแก้ไขพระราชบัญญัติกระทรวงกลาโหม เพื่อเปิดทางให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปล้วงลูกการโยกย้ายในกองทัพได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นการเกื้อหนุนสำหรับนโยบายวางกำลังทหารทางด้านชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกับกัมพูชาได้อย่างสอดคล้องกับผลประโยชน์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล

กระทรวงการต่างประเทศยังเป็นคนเดิมคือ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ไม่เปลี่ยนแปลงเพราะถือว่ารับใช้ทำงานเข้าตาแบบหน้ามืดตามัวไม่ต้องไปสนใจความถูกผิด สำคัญที่สุดคือถูกใจในเรื่องส่วนตัวเป็นพอ ต้องสรุปแบบนี้จริงๆเพราะที่ผ่านมายังไม่อาจหลับตานึกภาพได้เลยว่ามีผลงานอันน่าประทับใจสำหรับผลประโยชน์ของบ้านเมืองส่วนรวมบ้าง นอกเหนือจากเรื่องวิ่งเต้นให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้วีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นและหมาดๆก็เพิ่งคืนหนังสือเดินทางให้ไป ส่วนเรื่องอื่นๆก็มี เช่น การเจรจาเรื่องพลังงานกับกัมพูชาและพม่า แต่ก็ลับๆล่อๆมีพิรุธว่าเจรจาต่อรองธุรกิจให้ “นาย” เสียมากกว่า

ขณะเดียวกันยังส่งคนรู้ใจเข้ามาควบคุมดูแลสื่อของรัฐ โดยเฉพาะการดึงเอา นิวัฒน์(ธำรง) บุญทรง(ไพศาล) ที่เคยเป็นพนักงานบริษัทชินที่เคยส่งไปดูแลไอทีวี ไม่ต่างจากคนรับใช้ดั้งเดิมมานั่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งชัดยิ่งกว่าชัดว่ามีเป้าหมายที่ซ่อนเร้นอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญ เป็นงานใหญ่ที่ต้องทำไปพร้อมกันก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งนาทีนี้ไม่ต้องมาดัจริตโยกโย้บิดเบือนความหมายให้รำคาญบอกกันให้ชัดไปเลยว่าต้องการแก้ไขให้ ทักษิณ ชินวัตร พ้นความผิด พ้นมลทินทั้งปวง ส่วนที่เหลือจะอ้างอิงเรื่องประชาธิปไตยให้ดูเท่ๆก็ว่ากันไป แต่ประเด็นหลักคืออย่างแรกนั่นแหละสำคัญที่สุด และนับจากนี้เป็นต้นไปก็จะเคลื่อนไหวกันเต็มกำลัง เพราะได้กรุยทางทำทุกอย่างเอาไว้พร้อมสรรพ ทั้งในเรื่องมวลชนเสื้อแดงที่ใช้ “งบหลวง” กว่าสองพันล้านบาทมาตกรางวัลซื้อใจเอาไว้เป็นเกราะป้องกัน อีกทั้งยังสร้างความประทับใจด้วยการโยนเศษๆเก้าอี้รัฐมนตรีให้กับ “หัวโจกหัวอ่อน” บางคนให้ไปแล้ว

ดังนั้นถ้าให้พิจารณาจากยุทธศาสตร์ใหม่ของทักษิณ ที่เข้าใจตรงกันแล้วว่าเป็นเจ้าของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ น่าจะต้องการขับเคลื่อนไปพร้อมๆกันทั้งทางธุรกิจ-ความมั่นคง-ต่างประเทศ เป็นการกระชับอำนาจเข้ามาอย่างเบ็ดเสร็จ ขณะเดียวกันเป้าหมายสำคัญที่ถึงขึ้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศใหม่มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ ส่วนไปทางไหนก็ให้หลับตานึกภาพเอาเอง เพราะถือว่าเวลานี้ คนพร้อม-ทุนพร้อม-อำนาจพร้อม เต็มพิกัดแล้ว !!
ทักษิณ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น