“ฐิติมา” เผยทูลเกล้าฯ ครม.แล้ว ปรับ “กิตติรัตน์” นั่งควบ รมว.คลัง “วรวัจน์” นั่ง รมต.สำนักนายกฯ ยินดีหากถูกปรับออกจากโฆษกรัฐบาล รับงานยาก ชี้เคยเปรยกับนายกฯ แล้วว่าอยากอยู่กระทรวงมากกว่า
นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าใครจะอยู่กระทรวงไหนบ้างและไม่อยากให้เปิดเผยในเรื่องนี้ ทั้งนี้เรื่องการปรับ ครม.เป็นที่เป็นข่าวนั้นจะมีบางท่านที่เข้าและบางท่านที่ออกไป รวมแล้วประมาณ 10 กว่าตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่จะมีการปรับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางฐิติมากล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี แต่ตนยินดีหากใครมาทำหน้าที่นี้ เพราะงานตรงนี้เป็นงานที่ยากซึ่งต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและต่างประเทศ ตนก็ไม่รู้ว่าใครจะมาช่วยทำงานนี้ให้ได้บ้าง แต่ตนจะทำงานไปจนถึงนาทีสุดท้ายเท่าที่ทำได้ โดยการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะปรับเปลี่ยน รัฐมนตรีหรือตำแหน่งใดก็แล้วแต่ ก็ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดของท่าน
เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากทำงานต่อหรือไม่ นางฐิติมากล่าวว่า งานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นงานที่ท้าทายมาก แต่คิดว่าการทำงานยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะว่าองคาพยพไม่สามารถสนับสนุนได้ดีนัก แต่ตนได้เข้าไปแก้ในระบบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันเยอะ คิดว่าหากครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนเอาคนใหม่เข้ามา ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น
ส่วนกระแสข่าวระบุว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางฐิติมากล่าว ไม่รู้ ตนยังไม่เคยได้ยิน ซึ่งตนจะถนัดในการติดตามงาน อาจจะไม่ใช่คนที่มาเจ๊าะแจ๊ะอยู่หน้าทีวีบ่อยๆ ถามต่อว่า อยากไปอยู่กระทรวงมากกว่าใช่หรือไม่ นางฐิติมากล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเคยบอกกับท่านนายกรัฐมนตรีไว้ แต่ท่านหาคนมาช่วยตรงนี้ไม่ได้ ตนเลยมาทำ แต่พอมาทำแล้วพบว่ามันยากจริงๆ ตนอยากจะรู้ว่าใครจะมาทำงานตรงนี้
นางฐิติมากล่าวต่อว่า ได้มีการทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม.แล้ว โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำลังตรวจสอบรายชื่อที่ถูกต้องอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า ในตำแหน่งของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะปรับไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช่หรือไม่ นางฐิติมากล่าวว่า ก็เป็นจริงอย่างที่เป็นข่าว ส่วนกรณีที่จะการปรับเปลี่ยนนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนรายงาน