“วิทยา” รอดูนายกฯ ปรับ ครม.ยันเด้ง “ต่อพงษ์” ไม่กระทบงาน ชู “สุรวิทย์” เสียบแทนยิ่งดี เหตุเคยเป็นหมอ ด้านเจ้าตัวยิ้มร่า ลั่นเต็มใจหากได้เลื่อนขั้นตามข่าว ขณะ “กิตติรัตน์” ยังไม่รู้ได้นั่งควบคลัง ชมสื่อเดาแม่น เชื่อไม่มีปัญหา งานไม่สะดุด เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไตร่ตรองแล้ว แต่รับอยากไปทำกีฬามากกว่า
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข ถูกปรับออกจากตำแหน่ง ว่า ทราบจากข่าวเหมือนกัน ซึ่งก็ต้องรอดูว่า นายกฯ จะปรับเปลี่ยนอย่างไร เพราะอำนาจอยู่ที่นายกฯอยู่แล้ว ซึ่งตนก็เป็นกลไกหนึ่งในการทำงาน ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับจริงจะมีปัญหาในเรื่องรอยต่อของการทำงานหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่มี เพราะที่ผ่านมา นายต่อพงษ์ ก็ทำงานดี แต่ถ้าเป็น นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นข่าวว่าจะมาแทนในตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะ นพ.สุรวิทย์ เป็นหมออยู่แล้ว ก็เหมือนมีคนมาช่วยทำงาน ยืนยันว่า ไม่ว่าจะปรับเปลี่ยนใครก็ไม่กระทบกับการทำงานเดิมที่ทำอยู่ เพราะมีการมอบหมายให้แต่ละคนทำหน้าที่อยู่แล้วอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่เคยขอย้ายอยากไปกระทรวงโน้น กระทรวงนี้ เพราะไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเอง
ด้าน นพ.สุรวิทย์ ให้สัมภาษณ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสหลังจากมีข่าวถูกปรับไปเป็น รมช.สาธารณสุข ว่า ยังไม่ทราบว่าจะเป็นจริงตามข่าวหรือไม่ แต่ก็เต็มใจและยินดีหากผู้ใหญ่เห็นว่าตนควรจะไปอยู่ตรงนั้น และตนก็จะพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พร้อมขอกำลังใจจากสื่อด้วย ทั้งนี้ นายกฯ หรือผู้ใหญ่ท่านอื่นก็ยังไม่เคยบอกตนว่าจะให้ไปเป็น รมช.สาธารณสุข
“หากเป็นไปตามข่าวจริง ก็เต็มใจ และดีใจ เพราะถือว่าตรงกับที่ผมได้ร่ำเรียนและทำงานด้านนี้มา 17 ปี ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” รมต.ประจำสำนักฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการให้โบนัสหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาทำงานเข้าตา นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ก็รู้สึกดีใจที่มีคนชม และจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป ทั้งนี้ ช่วงเวลาการปรับก็อยู่ที่ดุลพินิจผู้ใหญ่มากกว่า เมื่อถามว่า ได้คุยกับ นายต่อพงษ์ บ้างหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ยัง เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นจริงตามข่าวหรือไม่ ยังไม่กล้าถามใครเลย
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ที่มีชื่อจะได้ควบตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.คลัง ว่า นายกฯ ยังไม่เคยคุยเรื่องปรับ ครม.ให้ฟัง ซึ่งทุกคนก็มั่นใจว่านายกฯจะจัด ครม.ได้อย่างรอบคอบ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสื่อเก่ง เพราะดูรายชื่อที่ปรากฏก็น่าจะเป็นจริงมาก แต่อยากให้รอผลอย่างเป็นทางการ
“สำหรับผม นายกฯต้องการให้ทำหน้าที่อะไรก็ยินดี และหากมีชื่อบุคคลใหม่ๆ หลายท่านเข้ามา ผมก็เห็นว่าเป็นผู้ที่ศักยภาพ ก็คงจะช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองได้ดี และหากรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิม หรือไม่ได้อยู่ใน ครม.ผมก็มั่นใจว่าท่านก็คงจะอยู่ในหน้าที่หนึ่งหน้าที่ใด ที่จะทำให้บ้านเมืองมีความเข้มแข็งก้าวหน้าได้” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า เหตุผลอะไรที่นายกฯเลือกให้ท่านไปดูแลกระทรวงการคลังควบรองนายกฯ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ แต่นายกฯให้ตนทำตรงไหนก็ทำได้
“เคยมีนักข่าวมาถามเหมือนกันว่าอยากทำอะไร ผมก็บอกว่าอยากไปรับใช้ท่านรองนายกฯชุมพล ไปทำเรื่องกีฬา จะไปช่วยคิดทำเรื่องเตรียมทีมฟุตบอล จะไปแข่งซีเกมส์อีก 2 ปีข้างหน้า จะได้เลิกตกรอบแรกเสียที ก็ยินดี อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดี” นายกิตติรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่า การได้เข้าไปดูแลกระทรวงการคลัง จะทำให้การบริหารงบประมาณเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นหรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ความจริงทั้งตนและ นายธีระชัย ที่ผ่านมา ก็ทำตามนโยบายรัฐบาลและหารือกันตลอด แม้ว่าจะมีข่าวเหมือนความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ความจริงไม่มีปัญหา ดังนั้นการไปรับตำแหน่งอะไร ตรงไหนก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาหากทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล งานไม่สะดุดแน่นอน เมื่อถามว่า การปรับครั้งนี้ดูเหมือนมีการปรับรัฐมนตรีในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดจะทำให้มั่นใจในการผลักดันโปรเจกต์ต่างๆ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อในการตัดสินใจของนายกฯว่ามีเหตุผล และไตร่ตรองแล้ว ซึ่งหากตนจะย้ายกระทรวงก็อาจจะเป็นเหตุผลว่าตนทำหน้าที่ในกระทรวงเดิมยังไม่ดีพอก็ได้ ดังนั้นหากคนใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าก็น่ายินดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่ปรับคิดว่าเหมาะสมแล้วใช่หรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การที่จะปรับเปลี่ยนอะไรบ้างเพื่อให้สามารถทำงานได้รวดเร็ว เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่ดีและการที่ รมต.บางท่านหากไม่ได้อยู่ต่อ แต่สิ่งที่ได้ทำมาก็จะเป็นประโยชน์แน่ ซึ่งที่พูดไม่ได้สนับสนุนให้ปรับ แต่เชื่อมั่นสิ่งที่นายกฯทำ
