สวนดุสิตโพลล์ เผยประชาชนร้อยละ 36.88 เชื่อแจกเงินติดสินบนวิธีทุจริตไทย ร้อยละ 42.80 รู้เรื่องโกงจากสื่อ ร้อยละ 36.17 แนะตั้งกก.สอบตรงไปตรงมา แก้จ่ายใต้โต๊ะ ร้อยละ 54.92 ไม่มั่นใจองค์กรปราบคอรัปชั่น ร้อยละ 53.71 เชื่อโกงผุดเพิ่มเพียบ
วันนี้ (14 ม.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,209 คน ในหัวข้อการทุจริต คอรัปชั่น พบว่า รูปแบบ การทุจริต คอรัปชั่น ของประเทศไทยที่ประชาชนคิดว่ามีมากที่สุด 36.88% เห็นว่า การให้เงิน ติดสินบน 28.80% เห็นว่า เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง 17.84% เห็นว่า ให้เครื่องประดับ ของมีค่า 16.15% เห็นว่า การให้บ้าน รถ ที่ดิน และ 0.33% มีความเห็นอื่นๆ เช่น พาไปเลี้ยงอาหาร ,ให้ตั๋วเครื่องบิน ,เที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ขณะที่ การรับรู้ของประชาชนเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น 42.80% รับรู้จากข่าวของสื่อมวลชน 32.38% รับรู้จากการบอกเล่า และ 24.82% พบเห็นด้วยตนเอง
เมื่อถามถึงการทุจริต คอรัปชั่นที่ประชาชนพบเห็นมากที่สุด พร้อมวิธีการแก้ไข 36.17% ตอบว่า การติดสินบน ให้เงินใต้โต๊ะ โดยวิธีการแก้ คือ มีคณะกรรมการตรวจสอบที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ตรงไปตรงมา ,คนในสังคมควรจะเลิกพฤติกรรมเช่นนี้ ฯลฯ 19.08% ตอบว่า การซื้อเสียงในช่วงที่มีการเลือกตั้ง วิธีการแก้ คือ ประชาชนจะต้องไม่รับเงินหรือยอมให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง , กกต. ต้องเข้มงวด เอาจริงเอาจัง , มีบทลงโทษรุนแรง ฯลฯ 17.45% ตอบว่า การวิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อตำแหน่ง วิธีการแก้ คือ เกณฑ์ในการประเมินจะต้องโปร่งใส ยุติธรรม ,ควรวัดกันที่ความสามารถและคุณสมบัติต่างๆที่กำหนด ฯลฯ 14.56% ตอบว่า การรีดไถ /เก็บส่วย วิธีการแก้ คือ ตัวประชาชนเองจะต้องไม่เห็นแก่ความสะดวกหรือยอมจ่ายเงินตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ ,หากพบเห็นหรือเจอด้วยตนเองควรแจ้งต้นสังกัดที่ดูแลทันที ฯลฯ และ 12.74% ตอบว่า การทุจริตโครงการต่างๆ วิธีการแก้ คือ กระบวนการต่างๆต้องมีความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ,มีคณะกรรมการคอยควบคุม ดูแลตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ฯลฯ
เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามทุจริต คอรัปชั่น 54.92% ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะนิสัยคนไทยยึดติดอยู่กับเงินและอำนาจ ,จนท.ของรัฐอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายทำการทุจริต,ภาครัฐไม่เด็ดขาด ฯลฯ 27.29% ไม่มั่นใจเลย เพราะ การทุจริต คอรัปชั่นเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกของสังคมไทย ,มีการรณรงค์ ปราบปรามมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ผล ฯลฯ 14.54%ค่อนข้างมั่นใจ เพราะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการการตรวจสอบที่เข้มงวด ,รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน ไม่ปกปิดข้อมูลข่าวสารกับประชาชน ฯลฯ และ 3.25% มั่นใจว่าปราบปรามได้แน่นอน เพราะหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างจริงจังและช่วยกันตรวจสอบการทำงานต่างๆให้มีความโปร่งใสมากขึ้น ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าแนวโน้มการทุจริต คอรัปชั่น ในประเทศไทยต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? 53.71% มีแนวโน้มการทุจริต คอรัปชั่นเพิ่มขึ้น เพราะ สภาพเศรษฐกิจของประเทศไม่แน่นอน ,กฎหมายของไทยมีช่องโหว่ ,มาตรการในการตรวจสอบการทำงานต่างๆยังไม่เข้มงวดและมีคุณภาพพอ ,การใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ฯลฯ 29.35% เหมือนเดิม เพราะ การทุจริต คอรัปชั่นมีแทบทุกวงการ อีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันทำให้เกิดการแข่งขันและเอาตัวรอดกันมากขึ้น,คุณธรรม จริยธรรมที่เสื่อมถอย และการขาดจิตสำนึกในหน้าที่ของคนไทย ฯลฯ และ 16.94% มีความหวังว่าการทุจริต คอรัปชั่นจะลดลง เพราะปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญและมีการรณรงค์เรื่องการทุจริต คอรัปชั่นมากขึ้น ,ภาครัฐมีนโยบายที่จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน , สังคมในวันนี้ตระหนักว่าการทุจริต คอรัปชั่นเป็นปัญหาร้ายแรงที่สามารถทำลายประเทศชาติให้ย่ำแย่ได้ ฯลฯ
วันนี้ (14 ม.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,209 คน ในหัวข้อการทุจริต คอรัปชั่น พบว่า รูปแบบ การทุจริต คอรัปชั่น ของประเทศไทยที่ประชาชนคิดว่ามีมากที่สุด 36.88% เห็นว่า การให้เงิน ติดสินบน 28.80% เห็นว่า เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง 17.84% เห็นว่า ให้เครื่องประดับ ของมีค่า 16.15% เห็นว่า การให้บ้าน รถ ที่ดิน และ 0.33% มีความเห็นอื่นๆ เช่น พาไปเลี้ยงอาหาร ,ให้ตั๋วเครื่องบิน ,เที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ขณะที่ การรับรู้ของประชาชนเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น 42.80% รับรู้จากข่าวของสื่อมวลชน 32.38% รับรู้จากการบอกเล่า และ 24.82% พบเห็นด้วยตนเอง
เมื่อถามถึงการทุจริต คอรัปชั่นที่ประชาชนพบเห็นมากที่สุด พร้อมวิธีการแก้ไข 36.17% ตอบว่า การติดสินบน ให้เงินใต้โต๊ะ โดยวิธีการแก้ คือ มีคณะกรรมการตรวจสอบที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ตรงไปตรงมา ,คนในสังคมควรจะเลิกพฤติกรรมเช่นนี้ ฯลฯ 19.08% ตอบว่า การซื้อเสียงในช่วงที่มีการเลือกตั้ง วิธีการแก้ คือ ประชาชนจะต้องไม่รับเงินหรือยอมให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง , กกต. ต้องเข้มงวด เอาจริงเอาจัง , มีบทลงโทษรุนแรง ฯลฯ 17.45% ตอบว่า การวิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อตำแหน่ง วิธีการแก้ คือ เกณฑ์ในการประเมินจะต้องโปร่งใส ยุติธรรม ,ควรวัดกันที่ความสามารถและคุณสมบัติต่างๆที่กำหนด ฯลฯ 14.56% ตอบว่า การรีดไถ /เก็บส่วย วิธีการแก้ คือ ตัวประชาชนเองจะต้องไม่เห็นแก่ความสะดวกหรือยอมจ่ายเงินตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ ,หากพบเห็นหรือเจอด้วยตนเองควรแจ้งต้นสังกัดที่ดูแลทันที ฯลฯ และ 12.74% ตอบว่า การทุจริตโครงการต่างๆ วิธีการแก้ คือ กระบวนการต่างๆต้องมีความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ,มีคณะกรรมการคอยควบคุม ดูแลตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ฯลฯ
เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามทุจริต คอรัปชั่น 54.92% ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะนิสัยคนไทยยึดติดอยู่กับเงินและอำนาจ ,จนท.ของรัฐอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายทำการทุจริต,ภาครัฐไม่เด็ดขาด ฯลฯ 27.29% ไม่มั่นใจเลย เพราะ การทุจริต คอรัปชั่นเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกของสังคมไทย ,มีการรณรงค์ ปราบปรามมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ผล ฯลฯ 14.54%ค่อนข้างมั่นใจ เพราะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการการตรวจสอบที่เข้มงวด ,รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน ไม่ปกปิดข้อมูลข่าวสารกับประชาชน ฯลฯ และ 3.25% มั่นใจว่าปราบปรามได้แน่นอน เพราะหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างจริงจังและช่วยกันตรวจสอบการทำงานต่างๆให้มีความโปร่งใสมากขึ้น ฯลฯ
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าแนวโน้มการทุจริต คอรัปชั่น ในประเทศไทยต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? 53.71% มีแนวโน้มการทุจริต คอรัปชั่นเพิ่มขึ้น เพราะ สภาพเศรษฐกิจของประเทศไม่แน่นอน ,กฎหมายของไทยมีช่องโหว่ ,มาตรการในการตรวจสอบการทำงานต่างๆยังไม่เข้มงวดและมีคุณภาพพอ ,การใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ฯลฯ 29.35% เหมือนเดิม เพราะ การทุจริต คอรัปชั่นมีแทบทุกวงการ อีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันทำให้เกิดการแข่งขันและเอาตัวรอดกันมากขึ้น,คุณธรรม จริยธรรมที่เสื่อมถอย และการขาดจิตสำนึกในหน้าที่ของคนไทย ฯลฯ และ 16.94% มีความหวังว่าการทุจริต คอรัปชั่นจะลดลง เพราะปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญและมีการรณรงค์เรื่องการทุจริต คอรัปชั่นมากขึ้น ,ภาครัฐมีนโยบายที่จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน , สังคมในวันนี้ตระหนักว่าการทุจริต คอรัปชั่นเป็นปัญหาร้ายแรงที่สามารถทำลายประเทศชาติให้ย่ำแย่ได้ ฯลฯ
