xs
xsm
sm
md
lg

ศป.นัดไต่สวน คดี ครม.มีมติขึ้นราคา LPG-NGV ไม่ชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฟ้องนายกฯ-รมว.พลังงาน ต่อ ศาล ปค.เหตุมีมติตามข้อเสนอ กพช.ขึ้นราคาก๊าซ LPG-NGV ระบุเป็นคำสั่งไม่ชอบ เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จี้เพิกถอนมติ ครม.วันที่ 4 ต.ค.54 ขณะที่ศาลสั่งไต่สวนฉุกเฉิน 16 ม.ค.บ่ายโมง พิจารณาสั่งระงับการขึ้นราคาหรือไม่

วันนี้ (13 ม.ค) นายเฉลิมพงษ์ กลับดี รับมอบอำนาจ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, น.ส.บุญยืน ศิริธรรม, น.ส.เรณู ภู่อาวรณ์ และ นายกำชัย น้อยบรรจง ประชาชนซึ่งใช้ใช้บริการก๊าซ ยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี, รมว.พลังงาน, คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และ บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.เรื่อง กระทำการโดยมิชอบ กรณี ครม.มีมติเมื่อวันที่ 4 ต.ค.44 เห็นชอบตามมติ กพช.ในการประชุมครั้งที่ 5/2544 วันที่ 30 ก.ย.54 ในการปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG และก๊าซธรรมชาติ NGV โดยนโยบายดังกล่าวขยายเวลาการตรึงราคาก๊าซ LPG ภายในครัวเรือน จนถึงสิ้นปี 2555 และขยายเวลาตรึงราคาภาคขนส่งจนถึงวันที่ 15 ม.ค.55 เพื่อเตรียมจัดทำบัตรเครดิตพลังงาน และปรับเปลี่ยนการติดตั้งก๊าซ LPG ในรถแท็กซี่เป็น NGV ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.55 และจะเริ่มปรับขึ้นราคาขายปลีก LPG เดือนละ 0.75 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 0.41 บาทต่อลิตร

ส่วนราคาขายปลีกก๊าซ NGV ขยายเวลาตรึงราคา ระดับราคา 8.50 บาทต่อกิโลกรัม และการชดเชยอัตรา 2 บาทต่อกิโลกรัมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.54 - 15 ม.ค.55 เพื่อเตรียมจัดทำบัตรเครดิตพลังงาน และปรับเปลี่ยนการติดตั้งก๊าซ LPG ในรถแท็กซี่เป็น NGV และให้ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV เดือนละ 0.50 ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 16 ม.ค.55 - เดือน ธ.ค.55 โดยให้ทยอยปรับลดเงินชดเชยลงเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม จำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-เม.ย.55

ทั้งนี้ การปรับราคาก๊าซทั้งสองจนถึงสิ้นปี 2555 จะทำให้ราคาขายปลีกก๊าซ NGV เพิ่มขึ้นอีก 6 บาทต่อกิโลกรัม จากราคา 8.50 จะเป็น 14.50 บาทต่อกิโลกรัม เท่ากับร้อยละ 70 จากราคาเดิม ส่วนก๊าซ LPG จะเพิ่ม 4.92 บาทต่อลิตร จากราคา 11.14 บาท จะเป็น 16.06 บาทต่อลิตร เท่ากับร้อยละ 44 ของราคาเดิม โดยการปรับโครงสร้างราคาจำหน่ายก๊าซดังกล่าว เป็นการอนุมัติขึ้นราคาภาคขนส่งและอุตสาหกรรมบางส่วน และอาศัยข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน จึงเป็นคำสั่งหรือมติที่ไม่ชอบ มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม สร้างภาระให้ประชาชนเกินสมควร ใช้ดุลพินิจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีโดยไม่คำนึงผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่ง บมจ.ปตท.ก็เป็นเจ้าของกิจการมีบริษัทในเครือหลายแห่งที่ประกอบกิจการด้านปิโตรเคมีด้วย

จึงขอให้ศาล มีคำพิพากษาเพิกถอน 1.มติ ครม.วันที่ 4 ต.ค.54 ที่เห็นชอบมติ กพช. ครั้งที่ 5/2554 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.54 2.เพิกถอนมติ กพช.วันที่ 30 ก.ย.54 3.ขอให้ศาลสั่งให้นายกฯและครม. เปิดเผยต้นทุนที่แท้จริงของราคาเนื้อก๊าซ รวมถึงให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากข้อมูลของ รมว.พลังงาน ซึ่งมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อกำหนดราคาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และ 4.นายกฯ และ ครม.รับฟังความคิดเห็นจากองค์กร หรือผู้แทนผู้บริโภค ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการรถยนต์ รถยนต์สาธารณะ ภาคการขนส่ง รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อประกอบการตัดสินใจทุกครั้งก่อนมีการดำเนินการ ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญฯ ปี 2550 มาตรา 61 อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิฯ ยังขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้ระงับการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV ที่เริ่มวันที่ 16 ม.ค.55 ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี ซึ่งศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 76/2555 เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป

ต่อมา น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากที่ยื่นฟ้องแล้ว ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อเวลา 17.00 น.ให้ไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องขอในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น.ซึ่งผู้ฟ้องทั้งหมดจะเข้าร่วมการไต่สวน และเตรียมจะเชิญ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.รวมทั้งนักวิชาการร่วมไต่สวนด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งนัดไต่สวนแล้ว ตนอยากฝากถึงรัฐบาลว่า ให้ชะลอการปรับขึ้นราคาที่จะเริ่มวันที่ 16 ม.ค.ตามกำหนดการปรับโครงสร้างไว้ก่อนจนกว่าศาลมีคำสั่งออกมา โดยอย่าเพิ่งปรับขึ้นราคาก๊าซในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 16 ม.ค.ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น