แกนนำแดง เลือดขึ้นหน้า ท้าใครค้านเงินเยียวยาแดงหัวละ 7 ล้าน ลองไปตายดูบ้าง ยกหางต่างชาติชดเชยมากกว่านี้ ไม่อายปากอย่าเปรียบเทียบทหาร-ตร.ตายเพราะหน้าที่ อ้างถือเป็นแนวทางปรองดองที่เหมาะสม ชี้ มีพวกพยายามสร้างกระแแสให้สับสน กรณีแก้ รธน.-อาญา ม.112
วันนี้ (12 ม.ค.) นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ให้สัมภาษณ์ถึงข้อท้วงติงจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองของรัฐบาล ว่า ความจริงจำนวนเงินที่รัฐบาลอนุมัติมาไม่ใช่ตัววัดว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ถ้าคนที่คัดค้านเห็นว่ามากไป หรือไม่เหมาะสม ก็ลองมาตายดูก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเรียกร้องให้เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในภาคใต้ด้วยนั้น นายพายัพ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วย หากจะมีการชดเชยให้ทหาร หรือผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ภาคใต้ แต่จำนวนเงินจะใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ ตนไม่สามารถบอกได้ ซึ่งไม่อยากให้เปรียบเทียบกัน เพราะเหตุการณ์ในภาคใต้ เป็นเรื่องของการตายในหน้าที่ แต่กรณีเหตุการณ์ชุมนุมเป็นเรื่องของเจตนาที่รัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้ผู้ชุมนุมตาย จำนวนเงินมากแค่ไหน คงไม่คุ้มกับชีวิตของคนที่เสียไป หรือบางคนที่ต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญไป และหากไปดูในต่างประเทศเขาชดเชยให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่า การเยียวยาครั้งนี้ของรัฐบาล จุดประสงค์เพื่อให้เป็นต้นทางของการปรองดองของคนในประเทศ คิดว่า จะสามารถทำให้ความปรองดองเกิดขึ้นได้หรือไม่ แกนนำ นปช.กล่าวว่า เชื่อว่า อย่างน้อยก็ทำให้ความกดดันของผู้ที่ได้รับการเยียวยาลดลง และการเยียวยาครั้งนี้ก็เป็นการเยียวยาคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะที่รัฐบาลกำลังทำให้เกิดความปรองดอง แต่ก็มีเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามา โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 112 จะทำให้สวนทางกับการปรองดองหรือไม่ นายพายัพ กล่าวว่า กรณีของมาตรา 112 เป็นเจตนาของคนที่พยายามทำให้ประชาชนสับสนมากกว่า ทั้งที่ต้องแยกกัน คือ มาตรา 112 ตามรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในแต่ละจังหวัด ให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ส่วนมาตรา 112 กฎหมายอาญา เป็นเรื่องของการหมิ่นสถาบัน ซึ่งพยายามนำมาโยงกันจนสับสนไปหมด เพราะการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันนั้น พรรคเพื่อไทย และ นปช.ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขอยู่แล้ว ไม่ควรหยิบยกมาพูดด้วยซ้ำ แต่หากใครจะคิดหรือดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล