ญาติพี่น้องสุรินทร์เศร้าเตรียมรับศพ“ช่างเครื่อง” แบล็กฮอว์ก ตก

สุรินทร์ – ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านพากันมาให้กำลังใจ พร้อมเตรียมสถานที่จัดงานศพ “จ.ส.อ.สมคิด” ช่างเครื่องบินแบล็กฮอว์กตก ชายแดนพม่าที่บ้านเกิด อ.สังขะ สุรินทร์ ด้านน้องชาย เศร้าพี่ชายเสียชีวิตแต่ภูมิใจตายในหน้าที่ชายชาติทหาร



วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 63 ม. 8 บ.หนองคันชั่ง ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง อายุ 31 ปี ช่างเครื่องประจำเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก ประสบเหตุตกเสียชีวิตพร้อมคณะทั้ง 9 คน ขณะบินออกปฏิบัติภารกิจที่บริเวณเขตรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ด้านอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากพล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 แถลงข่าวยืนยัน ในช่วงบ่ายวันนี้

โดยภายในบ้านเกิดของ จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ที่ บ.หนองคันชั่ง ต.พระแก้ว อ.สังขะ ดังกล่าว มีชาวบ้านหลายสิบคนเดินทางมาให้กำลังใจ นายบัณฑิต วงษ์ตาแสง น้องชายของ จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ที่หลังทราบข่าวว่าพี่ชายเสียชีวิตได้ร้องให้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ต่างหวังว่า จ.ส.อ.สมคิด จะปลอดภัยมีชีวิตรอดกลับมา

อย่างไรก็ตามหลังจากทราบข่าวการยืนยันของแม่ทัพภาคที่ 1 ว่าทั้ง 9 คนในเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์กที่ประสบเหตุเสียชีวิตทั้งหมด บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ กางเต็นท์ พร้อมโต๊ะเก้าอี้ เพื่อเตรียมจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ทันทีที่ถูกนำศพมาส่งถึงบ้านเกิด

สำหรับ นายทองใบ วงษ์ตาแสง อายุ 66 ปี และ นางอุบล วงษ์ตาแสง อายุ 49 ปี พ่อและแม่ของ จ.ส.อ.สมคิด ได้เดินทางไปติดตามการช่วยเหลือและค้นหาบุตรชายที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว หลังทราบข่าวว่าเครื่องบินแบล็กฮอว์ก ที่บุตรชาย เป็นช่างเครื่องเดินทางไปด้วยขาดการติดต่อไป ซึ่งวันนี้หลังได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของลูกชาย นายทองใบ ได้โทรศัพท์ มาบอก นายบัณฑิต ลูกชายอีกคนและเพื่อนบ้านที่รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านเกิดให้ช่วยกันเตรียมสถานที่จัดงานศพดังกล่าว

ขณะที่ นายบัณฑิต วงษ์ตาแสง น้องชาย จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ช่วงเครื่องประจำ เฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก ผู้เสียชีวิต ได้นำรูปพี่ชายรับพระราชทานปริญญา จาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อปี 2549 รวมทั้งรูปสวมชุดราชการทหารต่างๆ ออกมาทำความสะอาดและคัดเลือกเพื่อเตรียมไว้ตั้งหน้าศพ

นายบัณฑิต วงษ์ตาแสง กล่าวด้วยความโศกเศร้า ว่า พี่ชายเป็นคนขยันรับผิดชอบ และเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน และมักจะกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องเสมอ ล่าสุดเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา แม่ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับพี่ชาย โดยพี่ชายได้ถามสารทุกข์สุขดิบครอบครัวพร้อมบอกว่าจะกลับมาเยี่ยมบ้านในสิ้นเดือนนี้ และบอกว่าในวันที่ 19 ก.ค.นี้จะต้องขึ้นเครื่องบินแบล็กฮอว์ก เพื่อไปรับศพทหารที่เฮลิคอปเตอร์ประสบเหตุตกก่อนหน้านี้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันครอบครัวก็ทราบว่าเครื่องบินที่พี่ชายร่วมขึ้นไปด้วยขาดการติดต่อไป

ทุกคนต่างภาวนาว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงชีวิต ประกอบกับทหารได้ระบุว่าไม่พบสัญญาณดาวเทียมจากเครื่องแบล็กฮอว์กที่ตกจึงพากันโล่งอกในระดับหนึ่ง แต่ความหวังเริ่มริบหรี่ จนพ่อและแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ญาติจึงพาเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อเฝ้ารอการค้นหาช่วยเหลือลูกชาย

“แต่ในที่สุดในช่วงบ่ายวันนี้ทุกคนต้องโศกเศร้าเมื่อทราบว่า ทั้ง 9 คนในเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเสียชีวิตทั้งหมด อย่างไรก็ตามรู้สึกภูมิใจในตัวพี่ชายคนนี้มาก อย่างน้อยเขาได้ตายในหน้าที่ของชายชาติทหาร” นายบัณฑิตกล่าวทั้งน้ำตา

ทั้งนี้ จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ช่างเครื่องประจำเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก ประสบเหตุตกเสียชีวิต จบจากโรงเรียนนายสิบทหารบก รุ่นที่ 3 / 2542 กองร้อยนักเรียนนายสิบที่ 3 กองพันนักเรียนนายสิบที่ 1 กรมนักเรียน และ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รับราชการทหาร ตำแหน่งช่างเครื่อง ที่ กองบินปีกหมุน จ.ลพบุรี แต่งงานแล้วมีบุตรสาว 2 คน อายุ 3 ขวบ 1 คน และ อีกคน อายุ 1 ขวบครึ่ง อยู่ที่กองบินปีกหมุน จ.ลพบุรี