xs
xsm
sm
md
lg

"จำลอง" ย้ำจุดยืนพันธมิตรฯ หนุนทหารปกป้องแผ่นดินไทย-จี้รัฐเลิกอ่อนแอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"จำลอง" เผย จุดยืนพันธมิตรฯ หนุนทหารปกป้องแผ่นดินไืทย พร้อมจี้รัฐบาลเลิกทำตัวอ่อนแอ ปล่อยเขมรย่ำยี ชี้ ทหารทุกคนมีสิทธิ์ปกป้องประเทศและอธิปไตยของตัวเองตามสิทธิ์ รธน. ด้าน"ประพันธ์" จวก เอ็มโอยู 43 ทำคนไทยตาย-เปิดช่องเขมรล้ำแดนไทย ขณะที่ "ปานเทพ" ปลุก "บัวแก้ว" ตื่นซัดแถลงการณ์เขมร


วันนี้ (5 ก.พ.) ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ได้ประกาศนัดระดมผู้ ชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับการชุมนุมกดดันรัฐบาล ทำให้มีผู้ชุมนุมหลั่งไหลมาสมทบจากทั่วประเทศทำให้มีความคึกคักเป็นพิเศษ รวมทั้งบนเวทีปราศรัยสะพานมัฆวานได้มีการแกนนำพันธมิตรฯผลัดกันขึ้นโจมตี รัฐบาลอย่างหนักหน่วงที่ไม่ยอมรับเงื่อนไข 3 ข้อของพันธมิตรฯ จนเป็นเหตุสำคัญทำให้เกิดสงครามขึ้น ทั้งนี้ได้มีผู้บริจาคเงินทั้งน้ำดื่มและอาหารแห้งเพื่อช่วยเหลือการชุมนุม มากขึ้นด้วย และได้เตรียมขยายพื้นที่การชุมนุมโดยเริ่มปิดสี่แยกมิสกวันเพื่อรองรับผู้ชุมนุมมีมากในช่วงเย็นวันนี้

ต่อมาเวลา 10.00 น.ที่่ผ่านมา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ นายประพันธ์ คูณมี และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ร่วมแถลงข่าว โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ปะทะระหว่างกองกำลังทหารไทยและกัมพูชา ได้โทรศัพท์มาถึงตนและแจ้งว่าทหารทุกนายที่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทยมีขวัญ กำลังใจดีมาก ซึ่งตนบอกไปว่าประชาชนทุกคนต้องการให้กำลังใจทหาร โดยจะรวบรวมเงินที่ได้รับบริจาคในกองทุนทวงคืนปราสาทพระวิหารและมูลนิธิยาม เฝ้าแผ่นดิน โอนเงินไปยังกลุ่มพันธมิตรฯในอำเภอกันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อจัดซื้ออาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ไปมอบให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาชายแดน

ทั้งนี้ เมื่อตอนเกิดปะทะ มีชาวบ้าน 4 ตำบลได้รับความเดือดร้อนคือตำบลภูมิซรอน ตำบลเสาธงชัย ตำบลลุง และตำบลภูผาหมอก ซึ่งชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ที่อาคารสองหลังที่อำเภอกันทรลักษณ์และในสนามหญ้า เต็มไปหมด โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ได้จัดตั้งโรงครัวทำอาหารเลี้ยง

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำตามข้อเรียกข้อ 3 ข้อของพันธมิตรฯปัญหาจะไม่เกิดขึ้นบานปลายกลายเป็นสงครามทำให้ได้รับความสูญเสียของประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งจนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ไม่คิดที่จะทำอะไรเป็นเพราะความไม่ฉลาดและขี้กลัว จนตนรู้สึกอายมากที่สุดตั้งแต่เป็นคนไทยและเป็นทหารมาจนแก่ ที่มีผู้นำรัฐบาลที่อ่อนแอ ขี้ขลาด และนายทหารบางคนที่ห่วยๆ ยอมจำนนทุกอย่างต่อนายฮุนเซน ยอมจนให้ทหารกัมพูชายิงทหารไทยก่อนทั้งที่เป็นพื้นที่ 4.6 ตางรางกิโลเมตร ที่นายกรัฐมนตรีไทยออกมาบอกตลอดเวลาไทยไม่เสียดินแดน ทั้งที่ความจริงแล้วไทยได้เสียดินแดนไปนานแล้วในด้านพฤตินัย แต่มาเสียทั้งนิตินัยในตอนที่กระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงชัดเจนไปทั่วโลก พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเขมร ซึ่งยืนยันว่าหากไม่ทำข้อเรียกร้องทัน จะเสียดินแดนตามแนวตะเข็บชายแดนตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานีจนถึงจังหวัดตราด รวมแล้ว 1.8 ล้านไร่ เพราะกัมพูชาได้ระบุว่าปราสาทที่อยู่ในไทยเป็นของกัมพูชาทั้งหมดโดยผ่าน แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนรวมถึงดินแดนข้อพิพาทในทะเลอ่าวไทย ที่มีพลังงานมหาศาล

ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ระบุให้แกนนำพันธมิตรฯ ไปอยู่ชายแดนจะได้รู้ว่าความ เดือดร้อนของชาวบ้านเมื่อเกิดสงครามเป็นอย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนไม่ใช่ไม่เคยไปรบไปผ่านสมรภูมิมาทั้งลาวและเวียดนาม การพูดแบบนี้เหมือนเด็กทะเลาะกันมาแดกกันเองเหมือนเด็กๆแทนที่จะเอาเวลาไปปก ป้องอธิปไตยของประเทศซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของทหาร ซึ่งรัฐธรรมนูญได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ที่ระบุว่า ทหารจะต้องทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน รักษาดินแดนและปกป้องอธิปไตยของไทยโดยการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม ที่ผ่านมากัมพูชาได้ลุกล้ำพื้นที่ไทยมาโดยตลอด โดยไม่สนใจข้อตกลงในเอ็มโอยู 43 ซึ่งการปะทะสองประเทศไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทั่วโลกที่มีปัญหาชายแดนก็มีการใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยกันทั้งนั้น และหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญก็สูงศักดิ์กว่าเอ็มโอยู 43 กรณีนี้รัฐบาลจะต้องใช้กำลังทหารในการผลักดันออกพื้นที่แล้วมาเจรจาทีหลัง และรัฐบาลต้องใช้ความกล้าหาญสั่งให้ทหารผลักดันรื้อวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ชุมชน ตลาดของเขมรออกไปทันที

“ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความง่อนแง่น และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม อย่ามาเสียเวลาเจรจากับพันธมิตรฯไร้สาระเพราะล้มเหลวทุกครั้ง เอาเวลาที่มีไปทำหน้าที่ตัวเองให้สมศักดิ์ศรีของประเทศไทยที่มีแสนยานุภาพ เหนือกว่าทุกด้านต่อกัมพูชา หากต้องการสงครามจริงๆแสนยานุภาพของกองทัพไทยสามารถไปได้ถึงกรงพนมเปญ ภายใน 5 นาที ถามนายฮุนเซน จะเอาไหม ถ้าไม่เอาก็ต้องเอาพื้นที่ที่ลุกล้ำคืนไทยมาทั้งหมด ถ้ารัฐบาลและกองทัพไม่มีบทบาทที่แข็งกร้าวต่อเขมรซะที จะลุกลามมาถึงปราสาททั้งหมดในไทย จะรบก็ต้องรบเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อรักษาแผ่นดินไทยอย่าไปคิดว่า ทหารต้องเสียชีวิต การตายในหน้าที่ทหารทุกคนต้องรู้อยู่แล้วหากกลัวสงครามก็อย่ามาเป็นหทาร” พล.ต.จำลอง กล่าว

ด้าน นายประพันธ์ กล่าวว่า การยิงปะทะทหารกัมพูชาเริ่มก่อนเพราะหวาดระแวงว่าทหารไทยจะไปขัดขวางการสร้างถนนเข้าสู่ปราสาทพระวิหารจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งทำให้เกิดสูญเสียชีวิตชาวบ้านขึ้นเป็นเพราะเอ็มโอยู 43 ที่เปิดช่องให้กัมพูชารุกพื้นที่ไทย ทันทีที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้ยกขึ้นฟ้องต่อสหประชาชาติว่ากองกำลังทหารไทยบุกรุกพื้นที่ 4.6 ตรม.ของกัมพูชา แต่ผิดกับกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลและผู้นำทหารไทย ยังไม่คิดที่จะตอบโต้อย่างไร ซึ่งกองทัพไทยและรัฐบาล ไม่มีสิทธิจะไปเจรจากับกัมพูชาเพื่อจะให้มีการหยุดยิง ถามว่าจะไปเจรจาทำไมในเมื่อกัมพูชาลุกล้ำไทยมาแล้ว กองทัพมีหน้าที่ผลักดันให้เขมรออกจากพื้นที่ไปก่อนจะทำให้ไทยมีอำนาจต่อรอง ทันทีและสามารถทำได้ทุกวิธีทางเพราะกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทยหลายครั้ง แต่รัฐบาลไทยยังเดินหน้าให้ข้อมูลที่ผิดๆกับประชาชนและบิดเบือนข้อมูลว่าไทย ยังไม่เสียดินแดน เรียกร้องให้คนไทยออกมาร่วมชุมนุมแสดงพลังกดดันให้รัฐบาลยกเลิกตามข้อเรียก ร้องของพันธมิตรฯจะหยุดสงครามได้เพราะกัมพูชาจะต้องกลับสู่โต๊ะเจรจาได้โดย ที่ไทยจะไม่เสียเปรียบ

ขณะีที่ นายปานเทพ กล่าวว่า บทบาทของทางการไทยจะต้องเร่งออกแถลงการณ์ประนามการกระทำของกัมพูชาที่ได้ สั่งให้ทหารยิงเข้ามาในเขตไทยซึ่งเป็นละเมิดเอ็มโอยู 43 นับครั้งไม่ถ้วนแล้วและรัฐบาลไทย จะต้องประกาศยกเลิกเอ็มโอยู 43 ทันที และยื่นเรื่องคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกในตัวปราสาทเขาพระวิหารซึ่ง กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ตอบโต้พร้อมกับยืนยันพื้นที่ 4.6 ตรม.เป็นของไทยอย่างเป็นทางการเพื่อประกาศไม่ให้นานาชาติเข้ามาแทรกแซงตาม ข้อเรียกร้องของกัมพูชา เพราะประเทศไทยสามารถยึดกฎบัตรของสหประชาชาติที่ใช้สิทธิปกป้องอธิปไตยของ ประเทศของตนเองและป้องกันไม่ให้สหประชาชาติมาแทรกแซงปัญหาเขตแดน อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไทยไม่ทำตามจะเกิดการปะทะที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นการสู้ รบอาจจะลามมาถึงนครราชสีมา เพราะมีปราสาทขอมอยู่หลายแห่ง

ส่วนกรณีนายกฯบอกพร้อมเปิดการเจรานั้น ขอยืนยันว่า แกนนำไม่ได้รับการติดต่อการนายกฯหรือใครๆ การพูดเช่นนี้เป็นเพียงพูดให้ดูดี และเป็นเพียงวาทะกรรม ทั้งนี้ในเวลา 20.00 น.ทาง พธม.จะประกาศยกระดับการชุมนุมโดยจะขอฉันทามติจากกลุ่มผู้ชุมนุมค่ำวันนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น