“ถาวร” แฉ รมช.เกษตรฯ ล็อกสเปกจีน ทำราคายางตกต่ำ

ส.ส.สงขลา สับ รบ.ปู ไม่จริงใจแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ แฉ รมช.เกษตรฯ บินลงนามล็อกราคาขายยางให้จีน ทำเกษตรกรเดือดร้อน ราคาดิ่งเหลือ 80 บาท ต่อ กก.จี้ พยุงราคา กก.ละ 120 บาท ทวงค่าเยียวยาให้เหยื่อไฟใต้ อัด รบ.อ้างเหตุเยียวยาพวกตัวเอง

วันนี้ (10 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า ปัญหาราคายางตกต่ำจากยุค ปชป.เป็นรัฐบาลมาต่อเนื่อง 4 เดือนแล้ว จากราคาในยุค ปชป. กิโลกรัมละ 150 บาท ปัจจุบันลดลงเหลือ 80 บาท เพราะรัฐบาลไม่จริงใจและจริงจังในการแก้ปัญหา โดยเดิมทีมีการทำความตกลงกัน 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ในฐานะประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก และส่งออกมากสุด ในเรื่องการต่อรองราคาและสต๊อก ซึ่งจะทำให้เกษตรกรขายได้ราคาเหมือนการรวมตัวของกลุ่มประเทศโอเปค แต่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มนี้ และรัฐบาลไม่เคยหยิบยกคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติมาตอรองราคา ทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคา

“แต่ที่สำคัญอย่างมาก คือ เมื่อปลายปี 2554 นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางไปประเทศจีน เพื่อลงนามขายยางพาราล่วงหน้าให้บริษัทในจีน จำนวน 1.8 แสนตัน ในราคากิโลกรัมละ 105 บาท โดยมีการทำเอ็มโอยู ว่า จะขายให้อีก 3 แสนตันด้วย และทราบว่า มีความบังเอิญที่ไปพบกับบริษัทซื้อขายยางของไทยที่เดินทางไปพอดีด้วย ทั้งนี้ ยาง 1.8 แสนตัน เท่ากับร้อยละ 16 ของปริมาณส่งออก ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะขายยางล่วงหน้า จะไม่มีการกำหนดราคา เพราะจะเอาราคาตลาดโลกเป็นเกณฑ์ เมื่อกำหนดราคาไว้ที่ 105 บาท พ่อค้าคนกลางจะได้โอกาสกดราคาไม่ให้เป็นตามราคาตลาดโลก และโดยปกติแล้วช่วงปลายปี-เดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงที่ราคายางขึ้นสูง เพราะกรีดได้น้อย แต่รัฐมนตรีกลับไปเซ็นกำหนดราคาขายไว้แล้ว ดังนั้น ขอให้รัฐบาลพิจารณาข้อเสนอของเกษตรกรที่ต้องการที่กิโลกรัมละ 120 บาท และแก้ปัญหาให้ชาวสวนยางเหมือนกับกลุ่มแท็กซี่และรถบรรทุกด้วย อย่าคิดว่า ภาคใต้ไม่มีคะแนนเสียงแล้วไม่สนใจ ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถนำภาษีที่เก็บจากเกษตรกรผู้ขายยาง ซึ่งมีอยู่ 2 หมื่นล้านบาทเศษ มาค้ำประกันราคาได้โดยออกเป็นมติ ครม.” นายถาวร กล่าว

นายถาวร ในฐานะ รมว.ยุติธรรม เงา ปชป.แถลงว่า กรณี ครม.อนุมัติเงินเยียวยา 2,000 ล้านบาท ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ว่า มติ ครม.ดังกล่าวตีกรอบไว้เฉพาะผู้ชุมนุมปี 2547 เป็นต้นมา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมติ ครม.ที่รัฐบาลก่อนๆ ได้จ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาด้วย เพราะเป็นเรื่องแนวคิดต่างทางการเมืองเชิงลึกเช่นกัน ที่สำคัญ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในยุครัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งเสียชีวิตมาแล้ว 4,825 ราย บาดเจ็บ 8,561 ราย กรณี 32 ศพ ที่มัสยิดกรือเซะ และ 87 ศพที่ตากใบ จะเพิ่มให้หรือไม่ รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมการเมืองเดือนพฤษภา 2535 โดยเฉพาะผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากการตัดตอนยาเสพติด 2,500 ศพ ชัดเจน เช่น น้องฟลุค, นายนิคม และนางกัญญา อุ้นแก้ว สองสามีภรรยาที่ จ.นครราชสีมา ที่ถูกหวย 6 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดและยิงเสียชีวิต เป็นต้น

“ประเด็นคือ รัฐบาลนี้จะช่วยเหลือคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนของตัวเอง แต่อ้างเหตุการณ์อื่นๆ ในอดีต ผมไม่อิจฉาหรือคัดค้าน ชีวิตคน พันล้านก็แลกไม่ได้ แต่อยากให้รัฐบาลใจกว้างให้กลุ่มอื่นด้วย ถามกลับว่า การเยียวยาแบบนี้ในเรื่องสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมของรัฐบาลนี้มีให้แค่กลุ่มตัวเองหรือ” นายถาวร กล่าว