ประธานวิปฝ่ายค้าน เผย ที่ประชุมชี้รัฐมุ่งทำเพื่อคนๆ เดียวมากกว่าแก้ความเดือดร้อนชาวบ้าน จ่อตั้งกระทู้สดถาม รมว.พลังงาน ขึ้นราคาก๊าซ, เยียวยาน้ำท่วม จี้เจ้าตัวมาแจง อย่าหนีอีก ค้านย้ายสร้างสภาใหม่ ยันไปสระบุรี มีปัญหาเรื่องประสานงานแน่ โดย พระบรมฯ วางศิลาฤกษ์แล้ว
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านประจำสัปดาห์ ว่า ที่ประชุมได้มีความเป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชนภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม สาเหตุเพราะรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับแก้ไขปัญหาของคนๆ เดียวมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้นโยบายที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ เช่น การประกาศกระชากค่าครองชีพ โดยการยกเลิกกองทุนน้ำมัน กลายเป็นเพียงการโกหกประชาชน เพราะถึงวันนี้พบว่าค่าครองชีพสูงขึ้นกว่าเดิม และกองทุนน้ำมันยังไม่ได้รับการยกเลิก ขณะเดียวกัน ก็มีนโยบายในการขึ้นราคาก๊าซ สวนทางกับราคาผลผลิตพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำลง โดยเฉพาะยางพาราที่เหลือเพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น เช่นเดียวกับมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีปัญหาเกิดขึ้น อย่างการแจกคูปอง 2 พันบาทเพื่อนำไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความไม่โปร่งใส
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อประมวลสถานการณ์ทั้งหมดที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน จึงมีมติให้ตั้งกระทู้ถามสด นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อให้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงนโยบายการปรับราคาก๊าซเอ็นจีวี และแก๊สแอลพีจี รวมไปถึงมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมของกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ขอให้ นายพิชัย มาชี้แจงด้วยตัวเอง หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้านมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนกรณีที่ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ออกมาระบุว่า มีแนวคิดที่จะเสนอให้ย้ายสถานที่ก่อสร้างจากย่านเกียกกายไปที่อื่นนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดในการย้ายสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่จากเกียกกายไปยังสถานที่อื่น เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีการศึกษาเปรียบเทียบกันมาตลอด จนมีข้อสรุปว่า พื้นที่เกียกกายมีความเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ในต่างจังหวัด ที่จะส่งผลให้การเดินทางเข้าร่วมประชุมของหน่วยงานราชการต่างๆ มีปัญหา
“ถ้าย้ายรัฐสภาไปอยู่ในต่างจังหวัด เช่น จ.สระบุรี จริง จะทำให้มีปัญหาต่อการบริหารและประสานงานระหว่างข้าราชการ และส่วนงานทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปรัฐสภาควรอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล จึงเห็นว่า ผู้ที่รับผิดชอบควรจะเร่งรัดการก่อสร้างในพื้นที่เดิมเหมาะสมที่สุดแล้ว และต้องดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนเพื่อความโปร่งใส อีกทั้ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงเสด็จฯวางศิลาฤกษ์แล้วด้วย” นายจุรินทร์ ระบุ