รองประธานสภาฯ อ้าง กก.เร่งรัดสร้างสภาใหม่ เห็นพ้องย้ายจากเกียกกาย ไปที่อื่น แย้มไปสระบุรี ใช้ที่ราชพัสดุ น้ำไม่ท่วม อ้างหวังใช้เชื่อมรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช รอแค่ “สมศักดิ์” เคาะย้ายหรือไม่ ระบุต้องหาที่ใหม่เหตุกลัวน้ำท่วม ยันที่จ่ายเวนคืนไปแล้วก็เป็นที่ไว้รัฐสภาใช้สอยต่อได้ เชื่อสร้างเสร็จทันปี 58 แน่นอน แถมใช้งบน้อยกว่าเดิม หวั่นเสียค่าโง่รอบสองสร้างไม่ทันกำหนด
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถึงกระแสข่าวการสำรวจสถานที่เพื่อก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่แทนพื้นที่ย่านเกียกกายว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ เห็นพ้องกันว่า ควรย้ายสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่จากย่านเกียกกายไปอยู่สถานที่อื่นๆ ซึ่งที่เล็งไว้ตอนนี้อาจจะเป็นที่ กทม. หรือ จ.สระบุรี โดยใช้พื้นที่อย่างน้อย 1,000 ไร่ และมีเงื่อนไขว่าสถานที่ใหม่ต้องไม่มีการซื้อที่ดิน เพื่อป้องกันข้อครหา ดังนั้นจะใช้สถานที่ของที่ราชพัสดุเท่านั้น และต้องเป็นพื้นที่น้ำไม่ท่วม
นายเจริญกล่าวต่อว่า ทั้งนี้เหตุผลหนึ่งที่จะใช้พื้นที่ จ.สระบุรี เนื่องจากรัฐบาลจะมีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กทม.-นครราชสีมา หากก่อสร้างขึ้นมาจะใช้เวลาเดินทางมายังรัฐสภาใหม่แค่ 15 นาที ซึ่งสะดวกต่อการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รอเพียงความเห็นชอบจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะให้เปลี่ยนสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาใหม่หรือไม่ ส่วนสาเหตุที่ควรย้ายสถานที่ก่อสร้างเนื่องจากพื้นที่เดิมที่ย่านเกียกกายมีปัญหาเรื่องน้ำท่วม แม้บริษัทก่อสร้างยืนยันว่ามีการติดตั้งระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างแน่นหนา แต่ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่ข้างเคียงประสบปัญหาน้ำท่วมก็ไม่สามารถทำงานได้อยู่ดี หากยังใช้พื้นที่เดิมต่อไปก็จะทำงานท่ามกลางความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เหตุใดจึงไม่ไปหาพื้นที่อื่น เพราะในรูปแบบเดิมพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นระบบไฟฟ้า และโรงยิม หากเกิดน้ำท่วมขึ้นจะมีปัญหาการทำงานทันที
“ส่วนที่มีการจ่ายเงินค่าเวนคืนล่วงหน้าที่ดินไปบางส่วนแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นของรัฐสภา ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้ แต่หากจะทำงานอยู่บนความเสี่ยง ควรย้ายไปอยู่ที่ใหม่ดีกว่า เพราะสามารถสร้างเสร็จได้ทันตามกำหนดเดิม คือภายใน 900 วัน หรือภายในปี 2558 แต่หากยังใช้พื้นที่เดิมไม่มีทางสร้างเสร็จทันปี 2558 เพราะขณะนี้ทั้งโรงเรียน และหน่วยงานราชการยังไม่มีใครย้ายออกจากพื้นที่เลย การก่อสร้างต้องช้าออกไปอย่างน้อย 1 ปี หากยังใช้พื้นที่เดิมต้องเสียค่าโง่รอบสองแน่นอน เพราะขณะนี้บริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างเริ่มทำหนังสือมายังรัฐสภา เพื่อขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากยังไม่สามารถก่อสร้างได้ตามกำหนดเวลา” นายเจริญกล่าว
เมื่อถามว่า ตามที่ได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่แล้วหากย้ายจะเป็นการไม่เหมาะสมหรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยว เราต้องพูดกันด้วยเหตุและผล ขณะที่มีการออกแบบก่อสร้างเราไม่ได้เห็นว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้นถามว่าใครจะรับผิดชอบ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้รายงานความเห็นปรึกษาต่อประธานรัฐสภามาโดยตลอด โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่าหากต้องการได้พื้นที่สร้างอาคารรัฐสภาได้เร็วขึ้นน่าจะย้ายไปสร้างที่ใหม่ โดยแบบในการการก่อสร้างจะใช้แบบเดิม ซึ่งน่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างน้อยกว่าสถานที่ปัจจุบันด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่าการเปลี่ยนสถานที่ไปมาจะไม่เสียงบประมาณโดยใช่เหตุหรือไม่ นายเจริญกล่าวว่า ตอนนี้ต้องถือว่ายังไม่ได้ทำอะไร ถึงทำไปแล้วเราก็ถือว่าไปสร้างโรงเรียนใหม่ ถ้าเขาย้ายไปเอาก็เอาพื้นที่นี้ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ ขณะนี้ยังไม่เสียหายอะไร ต่อจากนี้คงจะหารือกับประธานรัฐสภาว่าจะเอาที่เดิมหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นที่เดิมจะล่าช้าปี 2558 ก็ไม่เสร็จ การจะขอให้ขยายเวลาก่อสร้างเป็น 1,200 วัน เราจะไม่เอาอย่างนั้น ถ้าเราปล่อยให้ดำเนินการไปแล้วมีปัญหาสร้างไม่ได้อาจเป็นการเสียค่าโง่เหมือนค่าโง่ทางด่วน
อย่างไรก็ตาม รายงานว่าก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีนายเจริญในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมเพื่อฟังการยืนยันจากบริษัทที่ปรึกษาถึงระบบป้องกันน้ำท่วมและการรักษาความปลอดภัย ซึ่งแม้บริษัทผู้ออกและที่ปรึกษาจะยืนยันว่าไม่มีผลกระทบ แต่นายเจริญเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจะต้องดูแลด้วยความรอบคอบ อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมอีกด้วยหากเปลี่ยนสถานที่ก่อสร้าง