xs
xsm
sm
md
lg

ประเทศไทยปี 55 ปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่ผลงานยิ่งลักษณ์!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ว่าระดับเซียนการเมืองจะฟันธงไว้ล่วงหน้าทำนองว่า การเมืองไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เนื่องจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีเสียงสนับสนุนในสภาท่วมท้นก็ตาม ทำให้ดูเหมือนว่ามีความมั่นคงแน่นปึ้ก คงไม่มีใครมาโยกคลอนได้

หากมองกันด้วยตัวเลขมันก็น่าจะเป็นแบบนั้น คงไม่มีใครกล้าเถียง แต่ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมามันก็มีเหตุการณ์ไม่คาดหมายเข้ามาจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจนหลายคนคาดไม่ถึง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็มีทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน แต่ทั้งสองปัจจัยดังกล่าวล้วนมีความเชื่อมโยงกัน

ยกตัวอย่างกรณีรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดความทะนงตัวว่า ตัวเองมีเสียงสนับสนุนในสภาท่วมท้น หรือคิดแบบเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เมื่อตัวเองชนะเลือกตั้งเข้ามาด้วยเสียงข้างมาก นั่นย่อมหมายความว่า ชาวบ้านเขามอบฉันทามติให้เข้ามาทำอะไรก็ได้ รวมไปถึงความหมายในเรื่องการ “ทำผิดกฎหมาย” ในบางเรื่องก็ได้ โดยอ้างว่า “นี่คือเสียงข้างมาก”

หรือที่ร้ายแรงอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการทะนงตนจากการมีเสียงข้างมาก ก็คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มมีการเปิดโปงออกมาให้เห็นเรื่อยๆ ทั้งจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จำนวนเงินไม่กี่ล้านบาท ในการจัดซื้อถุงยังชีพ ช่วงน้ำท่วม แต่มันก็กระทบกับความรู้สึกของชาวบ้าน

รวมไปถึงข่าวคราวเรื่อง “คนในครอบครัว” ที่เป็นระดับ “เจ๊” และ “ผัวของเจ๊” ที่เริ่มทำธุรกิจแบบ “จับเสือมือเปล่า” เก็บค่าหัวคิวจากตำแหน่งรัฐมนตรี การแต่งตั้งโยกย้าย สิ่งแบบนี้ถ้า “แดง” ออกมาเรื่อยๆ เมื่อไหร่ รับรองว่า “ดูไม่จืด” แน่

กรณีทุจริตนี่แหละที่ทำให้รัฐบาลหลายยุค หลายสมัยพังมาแล้วนักต่อนัก แม้แต่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในอดีตก็ล้มคว่ำมาแล้ว ส่วนสำคัญก็มาจากเรื่องเห็นแก่ตัว ทุจริตทำนองนี้แหละ ทั้งที่หากว่าไปแล้ว กระแสความรู้สึกของชาวบ้านยังเห็นว่า “มีผลงาน” แต่เมื่อโกงและเห็นแก่ตัว มันก็มีกระแสต่อต้านที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน

สำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็น “โคลนนิ่ง” ของ ทักษิณ ทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของ ทักษิณ ซึ่งในปีที่แล้ว ก็เพิ่งได้รับสมญานามจากสื่อเปรียบเทียบว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ต่างจาก “กองบัญชาการทักษิณส่วนหน้า” ความหมายก็คือทำงานเพื่อคนคนเดียว

ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันแล้วว่าในปีใหม่นี้ วาระสำคัญที่ต้องทำก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีเป้าหมายที่ “ซ่อนเร้น” เอาไว้ก็คือ ต้องการลบล้างความผิด กลับมามีอำนาจและคืนเงินให้กับ ทักษิณ เท่านั้น
 

ขณะเดียวกัน ยังมีพวกแนวร่วมฝ่ายซ้ายประเภท “แดงล้มเจ้า” ผสมโรงเข้ามาแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์โกรธให้กับสังคมมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ยังมีเรื่องกรณีขายชาติ ยกดินแดนให้กับกัมพูชา เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางด้านพลังงาน รวมไปถึงผลประโยชน์ด้านสัมปทานอื่นๆ โดยอ้างว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถ้าสังเกตให้ดี เป็นความสัมพันธ์ที่ประเทศไทยเสียเปรียบ ซึ่งไม่ถูกต้อง และภายในต้นปีนี้ จะมีการตัดสินของศาลโลกในกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งไม่ว่าผลออกมาอย่างไร ฝ่ายไทยก็เสียเปรียบวันยังค่ำ

ปัจจัยที่เกิดขึ้นล้วนเป็นปัจจัยที่อ่อนไหว สร้างกระแสความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน ทำให้เกิดบานปลายจนเอาไม่อยู่ก็เป็นได้ และที่ผ่านมาก็เคยปรากฏให้เห็นมาแล้ว

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เป็นปัจจัยใกล้ตัวมากที่สุด และเป็นความอ่อนไหวมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่อง “ปัญหาปากท้อง” ของชาวบ้าน เรื่อง “ข้าวของแพง” นั่นแหละ ซึ่งในปีนี้มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงเสียด้วย เนื่องจากมีผลต่อเนื่องมาจากกรณีปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปีที่แล้ว

แต่ปัญหาก็คือ เรามีผู้นำคือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ไม่เอาไหน ฝีมือที่ผ่านมาได้รับการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ไร้มาตรฐาน” พึ่งพาอาศัยไม่ได้เลย เพราะขนาดจะพูดจากับใครยังต้องท่องสคริปต์ ท่องจำ ราวกับนกแก้วนกขุนทอง อยู่ตลอดเวลา

อย่างนี้มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน และเมื่อพิจารณาจากปัจจัยธรรมชาติในปีนี้ก็มีการทำนายทางวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุเป็นผลออกมาว่าโอกาสที่ประเทศไทยจะเกิดภัยพิบัติต่อเนื่องจากปี 2554 เป็นไปได้สูงยิ่ง ซึ่งก็กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ เกิดเหตุน้ำท่วมเกิดความโกลาหลขึ้นมา ช่วงปีใหม่พอดี

ดังนั้น แม้ว่าในปีนี้ยังมีประเด็นอ่อนไหวประดังเข้ามามากมาย ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไข มาตรา 112 และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่มีความเสี่ยงสูงไม่แพ้ปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าปัจจัยอ่อนไหวที่สุด และเป็นการชี้อนาคตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะสามารถอยู่รอดผ่านไปได้หรือไม่ก็คือ ผลงานของรัฐบาลนั่นแหละ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของชาวบ้านที่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด

หากพิจารณาจากศักยภาพส่วนตัวของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วถือว่ายังมองไม่เห็นอนาคต สิ่งเหล่านี้ อย่าคิดไปทำเรื่องใหญ่อื่นๆ ให้น่ารำคาญเพิ่มขึ้นมาเลย แค่เอาตัวรอดไปวันๆ ก็ลำบากแล้ว

โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ต้องเจอศึกหนักรอบด้าน คราวนี้แหละของจริง ดีแต่โม้สร้างภาพ ความจริงก็ต้องประจานออกมาจนได้ อย่าว่าแต่ ยิ่งลักษณ์ เลย ต่อให้ สิบทักษิณ มันก็ไม่หมูหรอก!!
กำลังโหลดความคิดเห็น