“พล.อ.ท.วัชระ” ย้ำเตือนรัฐบาล “ห้ามแตะมาตรา 112 - แก้รัฐธรรมนูญช่วยคนคนเดียว” ชี้เป็น 2 ประเด็นอ่อนไหวที่จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น ไล่พวกฝรั่งวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ให้กลับไปอ่านประวัติศาสตร์ แล้วจะเห็นว่าสถาบันฯ มีความผูกพันกับประชาชนมาช้านาน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อจิตใจของคนไทย กรุณาอย่าแทรกแซง
วันที่ 27 ธ.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. ในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี นักวิชาการด้านทหารและรัฐศาสตร์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญฯปรองดองแห่งชาติ เสนอใช้คำสั่ง 66/23 เพื่อช่วยในการสร้างความปรองดอง ว่า 66/23 นั้นเป็นคำสั่งให้ข้าราชการที่ข่มเหงประชาชนเลิกการกระทำ เพราะจากการสอบถามคนที่หนีไปอยู่ในป่า ทุกคนมีความกดดันจากข้าราชการชั่ว ออก 66/23 ก็เพื่อขจัดเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความแตกแยก 66/23 นั้นเป็นเพียงคำสั่งสำนักนายกฯให้ข้าราชการยุติความชั่ว อย่านำมาอ้างโดยยังไม่ศึกษาให้ดี
พล.อ.ท.วัชระยังกล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามลากทุกฝ่ายให้เข้าสู่เกมปรองดอง โดยเร่งคดีสอบสวนทหาร ซึ่งกรณีนี้ตนเชื่อว่าความลับไม่มีในโลก ผู้บังคับบัญชาคนไหนสั่งก็ต้องมีคนออกมาพูดอยู่ดี แต่ถ้าวิเคราะห์ดีๆ อาจมีทหารที่รับงานมาเป็นมือที่ 3 แต่ในแง่ของผู้บังคับบัญชา ไม่มีคนไหนหรอกที่สั่งลูกน้องให้ไปฆ่าคน
เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ต้องมีการสอบสวนถึงคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษร เชื่อว่าผู้บังคับหน่วย ที่จะสั่งโง่ๆ อย่างนี้ไม่มีหรอก แต่ป้องกันตัวนั้นจำเป็นเพราะสู้กับกลุ่มติดอาวุธ ส่วนฝ่ายติดอาวุธก็ใช้กลยุทธ์ทิ้งศพไว้แต่เก็บปืนไป ให้เห็นว่ามีคนตายแต่คนตายไม่ได้ถืออาวุธ ไม่อย่างนั้นพลเอกร่มเกล้าจะตายหรือ
พล.อ.ท.วัชระกล่าวต่อว่า กรณียูเอ็นวิจารณ์มาตรา 112 ของประเทศไทย ควรต้องศึกษาก่อนว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร อย่ามาแทรกแซงเรา เพราะเรามีประเพณีปฏิบัติมาช้านาน ความผูกพันของคนไทยที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี มาจนถึงราชวงศ์จักรี ซึ่งในราชวงจักรีได้เปลี่ยนเป็นใช้ระบอบธรรมาธิปไตย มีกฎระเบียบที่ใช้บังคับพระมหากษัตริย์ ก็คือ ทศพิธราชธรรม สังคหวัตถุ 4 จักรวรรดิวัตร 8 และ ศีล 5 ที่ถือสืบทอดกันมา ตรงนี้ฝรั่งทั้งหลายต้องศึกษาเพราะละเอียดอ่อนต่อจิตใจคนไทย
อีกทั้งพระมาหกษัตริย์ของไทยทรงใช้ความเมตตานำเสมอ อาทิ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เกิดกบฏ ร.ศ. 130 จะลอบปลงพระชนม์ แต่คนที่จับฉลากว่าต้องเป็นคนลงมือเกิดความเกรงกลัวพระบารมี ก็เลยไม่กล้าทำ จึงนำความไปแจ้งหม่อมเจ้าพันธุ์ประวัติ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ และพากันนำความไปแจ้ง สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ความทราบไปถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้คณะตุลาการศาลทหารมีการพิจารณาตัดสินลงโทษให้จำคุกและประหารชีวิต แต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯทรงมีพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษ ละเว้นโทษประหารชีวิต
มาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2475 คณะราษฎรได้นำกำลังเข้ายึดพระราชอำนาจเพื่อให้เปลี่ยนแปลงการปกครอง ท่านสามารถรวบรวมกำลังต่อต้านคณะราษฎรได้แน่นอน และสามารถลงใต้แล้วไปสถาปนาอำนาจได้ แต่ไม่ทำ ท่านเผชิญหน้ากับคณะราษฎรเลย และเมื่อ พ.ศ. 2476 มีการบอกเล่าว่าคณะราษฎรจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งกบฏบวรเดชไม่ยอมให้ทำลายสถาบัน ก็เลยรวบรวมทหารมารบกับรัฐบาล ซึ่งถ้ารัชกาลที่ 7 หวงอำนาจ ไม่เข้าใจในประชาธิปไตย ก็จะเกิดสงครามกลางเมืองใหญ่ แต่นี่ไม่เกิด กรุณาไปอ่านประวัติศาสตร์ ทำไมท่านไม่ต่อสู้ ต่อต้าน เพราะท่านต้องการให้อำนาจประชาชนอยู่แล้ว
พล.อ.ท.วัชระยังกล่าวอีกว่า กรณีที่เห็นได้ว่าสหรัฐสองมาตรฐาน สหรัฐไม่กล้าแตะซาอุ ซึ่งเป็นประเทศปกครองโดยกษัตริย์เช่นกัน สิทธิสตรีก็แทบไม่มี แต่ไม่กล้าแตะเพราะมีผลประโยชน์มหาศาล รัฐบาลไทยควรมีมารตรการจัดการสิ่งเหล่านี้
สองประเด็นอ่อนไหวสำหรับรัฐบาลก็คือ อย่าแตะต้องมาตรา 112 และอย่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนคนเดียวและทำชาติเสียหาย