“ยุทธศักดิ์” ให้กำลังใจทหารผ่านศึก สละร่างกายเพื่อชาติ สั่งสำนักปลัด กห.แจง กมธ.งบฯ ขออย่าตัดงบ รพ.ยันอวัยวะเทียมทัดเทียมต่างชาติ แต่ราคาต่ำกว่า หนุน “สุเมธ” ค้านแก้อาญา ม.112
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการเดินทางไปเยี่ยมทหารผ่านศึกทุพพลภาพ และ ทหารบาดเจ็บจากการสู้รบ ว่า ต้องการให้กำลังใจให้ทหารที่ยอมเสียสละชีวิตและร่างกายเพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างสุขสบายจนถึงทุกวันนี้ โดยได้พูดคุยกับผู้อำนวยโรงพยาบาลเกี่ยวกับงบประมาณ อัตราการบรรจุของแพทย์กับจำนวนผู้ป่วยว่ามีความพอเพียงหรือไม่ ซึ่งทราบว่ายังขาดอัตราแพทย์และพยาบาล เพราะมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาปีละประมาณ 15,000 ราย ในขณะที่มีผู้ป่วยนอกอีกประมาณวันละ 500 ราย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณว่าเครื่องมือบางอย่างมีความสำคัญต่อการดูแลผู้ป่วยจริงๆ หากไปตัดงบประมาณเขาสมรรถนะของโรงพยาบาลก็ลดลงไป การดูแลผู้ป่วยก็ด้อยลงไป ในส่วนของอัตราเงินเดือน ค่าตอบแทนของแพทย์และ พยาบาลได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงกลาโหมไปดูแลให้เหมาะสมกับงานที่หนัก เพราะต้องดูแลผู้ทุพพลภาพ 24 ชั่วโมง
“ปัญหาเรื่องขาเทียม อวัยวะเทียมที่เป็นข่าวว่า คุณภาพของเราด้อย ตอนนี้เราได้รับการยืนยันมาแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยทำได้เหมือนกับต่างประเทศ แลละผู้ป่วยที่ต้องการขาเทียมสามารถมาใช้ขาเทียมที่โรงงพยาบาลทหารผ่านศึกได้เหมือนกับต่างประเทศแต่ราคาถูกกว่า นอกจากนี้อยากให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างโรงพยาบาลพระมงกุฎ กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เพราะเป็นโรงพยาบาลทหารด้วยกัน อยากให้ผู้ป่วยทุพพลภาพเดินไปพร้อมๆ กัน อย่าได้มีความเหลื่อมล้ำกันในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ทั้ง 2 ส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สามารถหยิบยืมเครื่องมือแพทย์กันได้ พึ่งพากันได้ และให้ความเป็นอยู่ของทหารผ่านศึกทั้ง 2 โรงพยาบาลมีความเท่าเทียมกัน” พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา แสดงความเป็นห่วงต่อการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า ตนก็คิดอย่างที่ ดร.สุเมธ พูด อย่าไปยุ่งมัน มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา หากเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่หากทำอะไรที่ผิดกฎหมายก็จะเกี่ยว ส่วนกรณีที่ประเทศต่างๆ มีกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิ์นั้นตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เนื่องจากเป็นเรื่องทางการเมือง