รัฐมนตรีกลาโหม เผย ถกจีบีซีเขมรพรุ่งนี้ คุยปัญหารายจุดตามคำสั่งศาลโลก รวม 17 ข้อ เน้นแสวงหาแนวทางร่วมไม่ให้สูญอธิปไตย 2 ฝ่าย จ่อชง ครม.ต่อ หากสรุปแนวทางปฏิบัติได้
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) ว่า จะมีการพูดคุยกันทีละข้อ ว่า มีปัญหาจุดใดบ้าง ทั้งทางบก ทางทะเล และอากาศ ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้เป็นวาระที่เราจะดำเนินการตามคำสั่งชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ว่าทั้ง 2 ประเทศจะดำเนินการอย่างไรบ้าง โดยสาระการประชุมทั้ง 17 ข้อที่สำคัญ อาทิ ความร่วมมือการส่งเสริมความปลอดภัย การค้าบริเวณชายแดน สาธารณสุข การเกษตร พัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาภัยพิบัติ ฯลฯ ซึ่งหลังการประชุมจีบีซีช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) หลังเดินทางกลับตนจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง
“ทุกคนสนใจการปฏิบัติตามคำสั่งชั่วคราวศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ว่า เราจะดำเนินการอย่างไร คือ การปรับกำลัง เป็นต้น ดังนั้น เราจึงไปแสวงหาแนวทางในการปฏิบัติ โดยแต่ละคำสั่งของศาลเราจะปฏิบัติอย่างไรถึงเกิดความยุติธรรม และไม่เป็นการสูญเสียอธิปไตยของทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้แนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาล ผมยังไม่มีมติ แต่จะนำแนวทางปฏิบัตินั้นมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เพื่อพิจารณา หาก ครม.เห็นว่า ต้องเข้า ม.190 ก็จะเสนอต่อไปถึงจะนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งศาล” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ
โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะนำคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ฝ่ายไทย ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมด้วย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ฯลฯ เดินทางไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล พนมเปญ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมี พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นประธาน จีบีซี ฝ่ายกัมพูชา
สำหรับประเด็นและวัตถุประสงค์ในการหารือ ก็เพื่อรายงานการพัฒนาความคืบหน้า ความร่วมมือระหว่างกองทัพแห่งชาติกัมพูชา กับ กองทัพไทย รวมทั้งเพื่อพิจารณาข้อตกลง 2 ด้าน ครอบคลุม 17 ประเด็นสำคัญ ซึ่งได้ผ่านกรอบการหารือในที่ประชุมรัฐสภาแล้ว ประกอบด้วย ทางด้านความมั่นคงและรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ได้แก่ 1.ความร่วมมือด้านแรงงาน 2.การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 3.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมอื่นๆ ในพื้นที่ชายแดน 4.ความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย 5.ความร่วมมือในการเก็บกู้ กวาดล้างทุ่นระเบิด 6.ส่งเสริมความมั่นคงทางทะเล 7.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทหารและตำรวจของกัมพูชากัมพูชากับหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดน 8.ประเด็นอื่นๆ ทางด้านความร่วมมือด้านอื่นๆ ประกอบด้วย 1.ด้านการค้าบริเวณชายแดน 2.ด้านเกษตร 3.การสาธารณสุข 4.ท่องเที่ยว 5.รักษาสิ่งแวดล้อม 6.พัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษาและศาสนา 7. บรรเทาภัยพิบัติ 8.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ 9.เรื่องอื่นๆ
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องหารือในที่ประชุม คือ การดำเนินการเพื่อปฏิบัติการตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) 5 ข้อ คือ 1.การปรับกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายที่ประจำการในพื้นที่เขตปลอดทหาร 17.3 ตางรางกิโลเมตร ในขณะที่กัมพูชามีกำลังทหารประมาณ 1,000 นาย 2.รายละเอียดในการเข้าปฏิบัติงานของผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซีย-ไทย-กัมพูชา 3.จุดตรวจร่วม 3 จุด 4.การจัดระเบียบวัดแก้วศิขาคีรีสวาระ ตลาด และชุมชนโดยรอบปราสาทพระวิหาร 5.การออกหลักเกณฑ์ในการเข้าออกพื้นที่ปราสาทพระวิหารของเจ้าหน้าที่องค์การยูเนสโก
