รัฐบาลเดินหน้าประชานิยมกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถตู้ร่วม ขสมก. NGV นำร่องบัตรเครดิตพลังงาน วงเงิน 3 พันบาท นายกฯ นั่งแท็กซี่ ทะเบียน ทศ 6018 เปิดงาน คนขับแท็กซี่บ่นแค่ 3 พันไม่พอ “ปู” บอกให้ใช้ไปก่อน ส่วนสถานีเติม NGV มีน้อย จะเร่งเพิ่มให้
ที่ฮอลล์ 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี วันนี้ (15 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบัตรเครดิตพลังงาน NGV ซึ่งจัดโดยกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้การต้อนรับ ซึ่งก่อนการเปิดงานนายกรัฐมนตรีได้เดินทางโดยรถแท็กซี่สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทศ 6018 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยขบวนรถสามล้อ และรถตู้ร่วม ขสมก.ที่ใช้ก๊าส NGV มายังบริเวณด้านหน้าฮอลล์ 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
นายพิชัยกล่าวรายงานว่า ตามที่กระทรวงพลังงานร่วมกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย (จำกัด) ดำเนินโครงการนำร่องบัตรเคดิตพลังงาน NGV ให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี รถสามล้อ และรถตู้ร่วม ขสมก. NGV ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ในช่วงที่มีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซ NGV เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามนโยบายรัฐบาล และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นด้วยการให้วงเงินเคดิต 3,000 บาทต่อเดือน สำหรับชำระค่าก๊าซแทนเงินสด และสิทธิส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซ จำนวน 50 สตางค์ถึง 2 บาทต่อกิโลกรัมแล้วแต่ช่วงเวลา แต่วงเงินส่วนลดได้ไม่เกินมูลค่ายอดซื้อก๊าซ 9,000 บาทต่อเดือน
โดยผู้ใช้สามารถใช้บัตรเครดิตพลังงาน ซึ่งเป็นบัตรประจำบุคคลควบคู่กับรถ NGV ทุกคันที่มีบัตรเติมก๊าซ NGV สีเงินที่ใช้สิทธิของรถที่เข้าร่วมโครงการฯ ในการเติมก๊าซ NGV ที่สถานีบริการ ทั้งนี้เริ่มใช้วงเงินเครดิตได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.54 สำหรับส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซ NGV จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.55 เป็นต้นไป จนถึงสิ้นปี 2258
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนของการบรรเทาความทุกข์ยากในการใช้พลังงาน เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาในเรื่องของการมีบัตรเครดิตพลังงาน โดยเฉพาะพี่น้องซึ่งเป็นผู้ขับแท็กซี่และผู้ที่ใช้พลังงาน วัตถุประสงค์ของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นในการที่จะดูแลความเป็นอยู่ รายได้ประชาชน เราเล็งเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจต่างๆ โดยทั่วโลกนั้น เรายังพึ่งพิงเศรษฐกิจจากภาคส่งออก สิ่งที่รัฐบาลต้องการเห็นคือการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ คือการทำอย่างไรให้รายได้หรือความเป็นอยู่ในครัวเรือนมีความมั่นคง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า วันนี้ส่วนหนึ่งของนโยบายนอกเหนือจากรายได้ครัวเรือนแล้ว การดูแลค่าใช้จ่ายหรือการลดค่าใช้จ่ายของพี่ของพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลคาดอยากจะดูแล และแบ่งเบาความทุกยากของประชาชน ประกอบกับปัญหาอุทกภัยต่างๆที่เข้ามา ดังนั้นการดูแลในเรื่องของผลกระทบของผู้ใช้พลังงาน เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการช่วยลดภาระของประชาชน ซึ่งในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับแท็กซี่ สามล้อ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้โดยสาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง น้ำมันถือเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาชีพ รัฐบาลจึงได้ตระหนักให้มีบัตรเครดิตพลังงาน ซึ่งจะให้วงเงินสำหรับผู้ใช้ เพื่อลดปัญหาของต้นทุนในการประกองบอาชีพ โดยไม่มีดอกเบี้ย และเรื่องของราคาน้ำมันก็มีการปรับไปตามกลไกลการตลาด และรัฐบาลก็ได้คำนึงถึงผลกระทบนี้ บัตรเครดิตพลังงานจึงเป็นหนึ่งวิธีในการเข้ามาดูแลประชาชน และดูเรื่องผลกระทบของก๊าซเอ็นจีวีในภาคครัวเรือน ซึ่งเราพยายามดูแลสิ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณกระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่รับนโยบายนี้สะท้อนออกมาเป็นรูปธรรม และปตท.ยังมอบส่วนลดในส่วนของเอ็นจีวี และหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และในอนาคตจะไปถึงผู้ใช้พลังงานอื่นๆ ด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูทต่างๆ ที่มาจัดแสดงภายในงาน พร้อมทั้งได้พูดคุยกับผู้ขับแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งผู้ขับขี่แท็กซี่ได้บอกกับนายกฯว่า วงเงินที่ให้ในบัตรเครดิตพลังงานคงไม่พอในการประกอบอาชีพ ขณะที่นายกฯ ได้ระบุว่า เอาแค่ตรงนี้ไปก่อนก็แล้วกัน ใช้ไปสักพักแล้วค่อยดูว่าธนาคารจะสามารถขยายวงเงินเพิ่มได้หรือไม่ รัฐบาลจะดูแลผลกระทบผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะรู้ว่ามีผลกับรายได้ ซึ่งจะเป็นหนึ่งมาตรการที่จะดูแล และในอนาคตก็จะหามาตรการอื่นในการช่วยเหลือ ซึ่งผู้ขับแท็กซี่ ระบุอีกว่า ปัญหาของเอ็นจีวีคือสถานีบริการในการเติมก๊าซนั้นไม่พอ ผู้ขับแท็กซี่ต้องจอดรอถึง 2 ชั่วโมง ทั้งนี้นายกฯ กล่าว่า เรื่องนี้ตรงใจกัน ตนจะประสานให้รัฐมนตรีพลังงานไปเพิ่มสถานีบริการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ