xs
xsm
sm
md
lg

ประณาม แม้วเห็นแก่ตัว-ไม่รู้จักพอถ้าดันทุรังแก้รธน.!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ยังไม่แน่ชัดว่าจริงหรือไม่ที่ พรรคเพื่อไทยสั่งถอยยังไม่เสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แก้ไขพระราชบัญญัติกลาโหม รวมไปถึงพระราชบัญญัติล้างมลทิน ในช่วงเปิดสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติที่เริ่มเปิดสภาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมเป็นต้นไป แม้ว่าจับอาการแล้วออกมาตรงกันว่าน่ายืดเวลาออกไปก่อน อย่างน้อยก็เป็นการถอยชั่วคราว เพื่อรอจังหวะ

เพราะแม้กระทั่ง นพดล ปัทมะ ซึ่งรับรู้กันว่าเป็นคนรับใช้ส่วนตัวด้านกฎหมายของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังออกมาบอกว่าที่เคยยื่นเงื่อนไข 6 ข้ออ้างเรื่องความปรองดอง(แก้ไขรัฐธรรมนูญ) นั้นเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวแบบพลการ ไม่ได้เกี่ยวกับ ทักษิณ

อาการถอยกรูดดังกล่าวอาจเป็นเพราะเป็นการ “สับขาหลอก” อย่างที่เคยมีการกล่าวกันก่อนหน้านี้หรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีความพยายามผลักดันเรื่องดังกล่าวออกมานั่นคืออารมณ์โกรธของคนไทยจำนวนมาก และยิ่งนานไปก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะในบรรยากาศที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนกับเรื่องน้ำท่วม และกังวลว่าเมื่อน้ำลดแล้วต้องมาเจอกับภัยแล้งหนักหนาสาหัสไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะกินอยู่อย่างไร แต่นี่ดันมาได้ยินว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังหาทางช่วย ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด ให้ได้ทรัพย์สินคืนมา แทนที่จะกุลีกุจอช่วยเหลือดับทุกข์ร้อนของคนส่วนใหญ่มาก่อน แต่นี่ดัน “เจือก” คิดแต่จะช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว เป็นใครก็ต้องมีอารมณ์โกรธ “จี๊ด” ขึ้นสมองแน่นอน เพราะหากทำแบบนั้นมันก็เป็นการใช้ “อภิสิทธิ์ชน” ย่ำยีกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองอย่างให้อภัยกันไม่ได้เลย

ทั้งที่หากจะว่าไปแล้ว เวลานี้ถือว่า ทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทยกำลังได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่พวกเขาโจมตีว่ามาจากเผด็จการนั่นแหละ เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวสามารถชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี ควบคุมอำนาจรัฐอยู่ในมือได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ขณะที่ ทักษิณ ก็แสดงบทบาทเป็น “คนบงการ” ชักใยอยู่หลังม่าน ทุกอย่างอยู่ในกำมือหมดแล้ว เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีตำแหน่งสำคัญล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการคัดเลือกจากเขาทั้งสิ้น มีทั้งอำนาจและบารมีอยู่เต็มเปี่ยม

ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งเขาก็น่าใช้โอกาสดังกล่าวสร้างคุณูปการให้กับบ้านเมือง ด้วยการผลักดันให้รัฐบาลในอารักขาของตัวเองสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชนคนไทยทุกคนทุกกลุ่ม ทำตัวให้เป็นรัฐบุรุษเสียที

อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่ตัวตนของ ทักษิณ เพราะ หากยังดึงดันที่จะส่งสัญญาณให้ลิ่วล้อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมให้เขา โดยอ้างแบบ “เนียนๆมั่วๆ”ว่าเพื่อความปรองดอง มันก็สะท้อนให้เห็นว่าเป็นคนที่ “เห็นแก่ตัว” เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองอย่างร้ายกาจที่สุด และที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาเป็นคนที่ไม่รู้จักพอ คิดจะกินรวบทั้งหมดคนเดียว

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า ในปัจจุบันเขาได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 อย่างเต็มที่และมากกว่าใครในประเทศนี้ มีรัฐบาลเป็นของตัวเอง มีรัฐมนตรีที่สามารถชี้นิ้วสั่งการได้ตลอดเวลา มีข้าราชการที่คอยค้อมกายกุมเป้าคอยรับใช้ไม่ขัดขืน แต่ในเมื่อไม่รู้จักพอดังกล่าวก็ต้องดิ้นรนเพื่อ “เอาเปรียบ” ไม่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน

เพราะหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่หลายคนมองเห็นตรงกันก็คือเป้าหมายของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือรื้อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็คือ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ไม่ต้องรับโทษ ได้กลับเข้ามามีอำนาจ และที่สำคัญจะขาดไปไม่ได้ก็คือต้องการให้ได้ทรัพย์สินที่ถูกศาลสั่งริบไปกลับคืนมาเท่านั้น

ความเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวหากเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะผลักดันเข้าสภาโดยตรงจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือผ่านทางเครือข่ายใดๆก็ตาม ไม่จำเป็นต้องใช้สติปัญญาซับซ้อนอะไรมากมายย่อมมองออกว่าทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ เท่านั้น เพราะถ้าตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญรวมไปถึงกฎหมายฉบับอื่นนั้นมีปัญหาอุปสรรคต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล หรือไม่คำตอบก็คือเปล่าเลย ตรงข้ามหากมีเจตนาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ทำให้เกิดความโปร่งใส มีการตรวจสอบก็ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันล้วนต่อยอดมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ทั้งสิ้น ถ้าไปอ่านในเนื้อหาแทบทุกตัวอักษรที่เคยเขียนเอาไว้ก็ยังอยู่ครบเพียงแต่ว่ามีการเพิ่มเติมให้มีความรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ก็เช่นเดียวกัน นาทีนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วว่ามีเจตนา เพื่อทักษิณ คนเดียว แต่ก็พยายามพ่วงคนอื่นเข้าไปด้วย เพียงเพื่อให้ดูแนบเนียน

ดังนั้นแม้หลายคนมองว่าการถอยของพรรคเพื่อไทยดังกล่าว อาจเป็นแค่การ “สับขาหลอก” ให้ตายใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากยังดึงดันเสนอเข้ามาไม่ว่าจะใช้ช่วงเวลาไหนก็ตามก็คงจะได้เห็นการผนึกกำลังตอบโต้ของคนไทยกันครั้งใหญ่และสาสม เพราะสรุปตรงกันแล้วว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ของคนๆเดียว ประเภทได้คืบจะเอาศอกไม่สิ้นสุด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น