00 แน่นอนแล้วว่า สิ่งที่เป็นผลงานชิ้นเอกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีนายกฯชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีรองนายกฯชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็คือการช่วยเหลือให้ ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิด และงุบงิบกันผลักดันพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ให้ครม.ตรายางปั๊มตราจนผ่านออกมาในท่ามกลางบรรยากาศที่คนไทยกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสกับปัญหาน้ำท่วม แต่คนพวกนี้ก็ไม่สนใจ เพราะถือเป็นโอกาสในการทำภารกิจส่วนตัวของครอบครัวของตัวเอง ให้ได้รับประโยชนสูงสุด และนี่คือผลงานของ ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นผลงานอันน่าอัปยศที่สุด เท่าที่ประเทศนี้เคยมีผู้นำมาทั้งหมด
00 ที่พูดแบบนี้เพราะเมื่อพิสูจน์จากสถานการณ์จริง การแก้ปัญหาทั้งในภาวะปกติ และวิกฤติ นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่อาจเป็นความหวังได้เลย เธอยิ่งพูดออกมามากเท่าไร ก็ยิ่งเห็นความอ่อนด้อย อ่อนหัดออกมามากเท่านั้น เพราะขาดความรู้ ขาดแม้กระทั่งความรู้รอบตัว คำพูดที่ผิดพลาดออกมาในตอนแรกๆ คิดว่าเป็นความพลั้งเผลอพออภัยกันได้ ทุกคนก็เป็นเหมือนกัน แต่นานวันเข้ามันยิ่งชัดเจนว่าเธอไม่เหมาะสำหรับการบริหารประเทศ แต่เหมาะสำหรับ ทักษิณ ที่ใช้เธอเป็น “หุ่นเชิด” เพื่อทำภารกิจลับบางอย่าง นั่นคือการใช้อำนาจนายกฯ และอำนาจรัฐช่วยเหลือทำให้ตัวเองพ้นผิด และกำลังผลักดัน พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นผลสำเร็จให้ได้
00 ความถูกผิดต้องตัดสินกันตามกระบวนการยุติธรรม ตามคำพิพากษา ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ถูกตัดสินให้มีความผิดต้องไม่พอใจ แต่ก็ต้องยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ แต่สำหรับ ทักษิณ กลับตรงกันข้าม เห็นแก่ตัว ไม่เคยยอมรับกติกาที่ตัวเองไม่ได้เปรียบ เหมือนกับคดีที่ตัวเองถูกศาลจำคุก 2 ปี ในคดีซื้อที่ดินรัชดาฯ ในตอนแรกคิดว่าตัวเองได้เปรียบ มี "สมัคร-สมชาย" เป็นหุ่นเชิดของตัวเอง ก็กลับเข้ามาจูบแผ่นดินสู้คดี ทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นคดี ไม่ว่าจะเป็นกรณี “ถุงขนม 2 ล้าน” แต่งตั้งโยกย้ายคนของตัวเองเข้าไปดูแลในตำแหน่งสำคัญมากมาย แต่พอเห็นท่าไม่ดี แพ้คดีแน่ ก็หลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วหันกลับมา “แว้งกัด” ทำลายบ้านเกิดของตัวเองจนยับเยิน
00 สำหรับเหตุผลสารพัดที่ไม่อาจอภัยโทษให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้เลย เป็นเพราะ หนึ่ง ทักษิณ ไม่เคยยอมรับคำพิพากษาของศาล สอง ไม่เคยรับโทษถูกคุมขังในคุกแม้สักวันเดียว สาม ไม่เคยสำนึกความผิดที่ตัวเองทำขึ้น ตรงกันข้าม กลับกล่าวหาโจมตีกระบวนการยุติธรรมของประเทศตัวเองอย่างรุนแรง ใช้คำว่า กระบวนการ “ยุติความเป็นธรรม” และที่ให้อภัยโทษไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็คือ เขาได้ “บังอาจ” กล่าวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างที่ไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน โดยมีหลักฐานปรากฏชัดเจนหลายครั้ง นอกจากนี้ยังปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ก่อจลาจลเผาเมืองมาอย่างต่อเนื่อง และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมที่ไม่อาจให้คนแบบนี้ได้พ้นผิดด้วยวิธีการฉ้อฉล และเอาเปรียบชาวบ้าน เอาเปรียบนักโทษคนอื่น
00 ความอัปยศที่เกิดขึ้นคราวนี้ หากต้องจดบันทึกขึ้นบัญชีเอาไว้ว่ามีใครร่วมขบวนการอัปยศ เป็นตัวกระตุ้นให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายนอกจาก ทักษิณ ที่เป็นหัวหน้าขบวนการชั่วแล้ว ยังต้องจำชื่อ เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเคยฝากผลงานแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค “น้าชาติ” ยุค “ไอ้ปื๊ด ยุคกูลูกใคร” จนมาถึงปัจจุบัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่สมคบสมรู้ร่วมคิด เปิดทางสะดวก !!
00 ที่พูดแบบนี้เพราะเมื่อพิสูจน์จากสถานการณ์จริง การแก้ปัญหาทั้งในภาวะปกติ และวิกฤติ นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่อาจเป็นความหวังได้เลย เธอยิ่งพูดออกมามากเท่าไร ก็ยิ่งเห็นความอ่อนด้อย อ่อนหัดออกมามากเท่านั้น เพราะขาดความรู้ ขาดแม้กระทั่งความรู้รอบตัว คำพูดที่ผิดพลาดออกมาในตอนแรกๆ คิดว่าเป็นความพลั้งเผลอพออภัยกันได้ ทุกคนก็เป็นเหมือนกัน แต่นานวันเข้ามันยิ่งชัดเจนว่าเธอไม่เหมาะสำหรับการบริหารประเทศ แต่เหมาะสำหรับ ทักษิณ ที่ใช้เธอเป็น “หุ่นเชิด” เพื่อทำภารกิจลับบางอย่าง นั่นคือการใช้อำนาจนายกฯ และอำนาจรัฐช่วยเหลือทำให้ตัวเองพ้นผิด และกำลังผลักดัน พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นผลสำเร็จให้ได้
00 ความถูกผิดต้องตัดสินกันตามกระบวนการยุติธรรม ตามคำพิพากษา ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ถูกตัดสินให้มีความผิดต้องไม่พอใจ แต่ก็ต้องยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ แต่สำหรับ ทักษิณ กลับตรงกันข้าม เห็นแก่ตัว ไม่เคยยอมรับกติกาที่ตัวเองไม่ได้เปรียบ เหมือนกับคดีที่ตัวเองถูกศาลจำคุก 2 ปี ในคดีซื้อที่ดินรัชดาฯ ในตอนแรกคิดว่าตัวเองได้เปรียบ มี "สมัคร-สมชาย" เป็นหุ่นเชิดของตัวเอง ก็กลับเข้ามาจูบแผ่นดินสู้คดี ทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นคดี ไม่ว่าจะเป็นกรณี “ถุงขนม 2 ล้าน” แต่งตั้งโยกย้ายคนของตัวเองเข้าไปดูแลในตำแหน่งสำคัญมากมาย แต่พอเห็นท่าไม่ดี แพ้คดีแน่ ก็หลบหนีออกไปนอกประเทศแล้วหันกลับมา “แว้งกัด” ทำลายบ้านเกิดของตัวเองจนยับเยิน
00 สำหรับเหตุผลสารพัดที่ไม่อาจอภัยโทษให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้เลย เป็นเพราะ หนึ่ง ทักษิณ ไม่เคยยอมรับคำพิพากษาของศาล สอง ไม่เคยรับโทษถูกคุมขังในคุกแม้สักวันเดียว สาม ไม่เคยสำนึกความผิดที่ตัวเองทำขึ้น ตรงกันข้าม กลับกล่าวหาโจมตีกระบวนการยุติธรรมของประเทศตัวเองอย่างรุนแรง ใช้คำว่า กระบวนการ “ยุติความเป็นธรรม” และที่ให้อภัยโทษไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็คือ เขาได้ “บังอาจ” กล่าวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างที่ไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน โดยมีหลักฐานปรากฏชัดเจนหลายครั้ง นอกจากนี้ยังปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ก่อจลาจลเผาเมืองมาอย่างต่อเนื่อง และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมที่ไม่อาจให้คนแบบนี้ได้พ้นผิดด้วยวิธีการฉ้อฉล และเอาเปรียบชาวบ้าน เอาเปรียบนักโทษคนอื่น
00 ความอัปยศที่เกิดขึ้นคราวนี้ หากต้องจดบันทึกขึ้นบัญชีเอาไว้ว่ามีใครร่วมขบวนการอัปยศ เป็นตัวกระตุ้นให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายนอกจาก ทักษิณ ที่เป็นหัวหน้าขบวนการชั่วแล้ว ยังต้องจำชื่อ เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเคยฝากผลงานแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค “น้าชาติ” ยุค “ไอ้ปื๊ด ยุคกูลูกใคร” จนมาถึงปัจจุบัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่สมคบสมรู้ร่วมคิด เปิดทางสะดวก !!