xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” หอบแฟ้มกองโตเคลียร์สลายแก๊งแดง มั่นใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุ้มครอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
“เทพเทือก” หอบแฟ้มกองโต พร้อมคลิป แจงคดีสลายการชุมนุมแก๊งแดง มั่นใจดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุ้มครอง แต่ยังหนักใจฝ่ายตรงข้ามเหิมฤทธิ์แดงพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ พอใจเพื่อไทย ชะลอนิรโทษกรรม แก้ กม.กลาโหม เตือนถ้าปัดฝุ่นขึ้นมาอีกเกิดปัญหาแน่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎ์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ว่า มีพนักงานสอบสวน 2 ชุดที่เชิญให้ไปให้ปากคำกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ วันที่ 13 พ.ค.2553 ที่มีผู้เสียชีวิต และอีก 3 เหตุการณ์ วันที่ 14-16 และ 19 พ.ค.2553 ว่า ตนได้เรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเล่มทั้งภาพ และข้อเท็จจริง นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เห็นภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ และจะอธิบายถึงเหตุการณ์แต่ละวันจนกระทั่งเหตุการณ์กลับสู่ปกติได้ เพื่อให้เห็นว่าเราได้สั่งการอย่างไร และปฏิบัติการอย่างไร ซึ่งการให้ปากคำครั้งนี้เป็นคนละคดีกับเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.2553 ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งมาที่ตนว่า มีพยานบางปากไปให้การว่า กรณีที่มีผู้เสียชีวิต เพราะเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของตน ซึ่งการสั่งการของตนในฐานะ ผอ.ศอฉ.ทุกครั้งเป็นการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะผู้ปฏิบัติมีจำนวนนับหมื่นจะสั่งปากเปล่าไม่ได้ โดยก่อนที่จะสั่งการก็จะมีการประชุมหารือ ไตร่ตรองให้รอบคอบว่าจะปฏิบัติอย่างไร จึงเป็นคำสั่งที่ตนสั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ให้อำนาจเอาไว้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้จะสามารถทำอะไรได้บ้าง และตนก็ปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งกฎหมายก็จะคุ้มครองการกระทำของตน ทั้งเจ้าหน้าที่และรัฐบาล ตราบใดที่เราไม่มีการละเมิดต่อกฎหมายก็ไม่เป็นไร

ส่วนที่ นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มารองรับนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มีการโต้เถียงไปไกล วันนี้เมื่อมีผู้เสียชีวิตบางรายที่ดีเอสไอมีข้อสงสัยว่า เสียชีวิตเพราะการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่รับคำสั่งมาจากตน ดังนั้น เขาก็ต้องไต่สวนและดำเนินการตามวิธีการของกฎหมาย โดยให้เจ้าพนักงานท้องที่ที่เกิดเหตุทำการชันสูตรศพใหม่ หาข้อมูล หลักฐานต่างๆ และสอบพยานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ หรือไม่ หากเจ้าพนักงานมีความเห็นว่าน่าสงสัยก็มีสิทธิที่จะไปขอให้ศาลไต่สวนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน

“ยอมรับว่า มีความกังวลบ้าง เพราะอีกข้างพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์อยู่เรื่อย และหลายคนที่เข้ามามีอำนาจก็เป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อเหตุ เขาก็ต้องทำตามอำนาจ ตามฤทธิ์แดงที่มี แต่เราอย่าหวั่นไหว เพราะเราอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่ดีประเทศหนึ่ง เราต้องยึดหลักของกฎหมายและเชื่อในระบบที่มีอยู่ กระบวนการยุติธรรมของเราต้องเชื่อถือ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลใจ” นายสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในคลิปที่จะนำไปชี้แจงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ภาพและคลิปที่ตนนำไปแสดงเป็นภาพและสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างชาติบันทึกเอาไว้ เป็นภาพที่คนไทยได้เห็นมาก่อนแล้ว ตนจึงมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นพยานได้ดี แต่ตนก็เตรียมใจไว้อยู่ก่อนแล้ว

ต่อข้อถามว่า กรณีที่ศาลสั่งจำคุกมือยิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จำได้หรือไม่ในช่วงนั้นมีเหตุการณ์จะมีคนยิงจรวดอาร์พีจีกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนถูกกล่าวหาว่าสร้างเรื่อง จนในที่สุดก็ถูกจับกุมตัวได้ และเขาก็ได้สารภาพว่าไม่ได้มีคำสั่งให้ยิงกระทรวงกลาโหม แต่ให้ยิงวัดพระแก้ว เพื่อทำลายสัญลักษณ์ความเป็นศูนย์รวมของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่บ้า เพราะถือเป็นการก่อการร้าย ที่สุดศาลก็พิพากษาลงโทษ เพียงแต่เราไม่สามารถหาหลักฐานมาเชื่อมโยงกับผู้ว่าจ้าง และกระบวนการต่างๆ ได้ แต่ยังมีอีกหลายคดีที่ดำเนินการแล้วน่าจะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน ซึ่งแม้จะมีการเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มเสื้อแดงแต่ในชั้นพนักงานสอบสวนกลับไม่ได้เชื่อมโยงไปลึกขนาดนั้น โดยอ้างว่า พยานหลักฐานสาวไปไม่ถึง

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทย ชะลอการแก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ พ.ร.บ.กลาโหม ว่า ตนได้เคยขอร้องแล้วว่าอย่าทำเลย เพราะขณะนี้บ้านเมืองต้องการความสุข เพราะเป็นทุกข์จากที่พวกเขาก่อกันมานานแล้ว ยิ่งมาเจอน้ำท่วมก็ทุกข์ซ้ำไปอีก แล้วพวกเขายังจะมาก่อเรื่องอีก ไม่สงสารประชาชนบ้างหรืออย่างไร ดังนั้น เมื่อเขาเลื่อนหรือยกเลิกไปได้ ตนและประชาชนก็ดีใจด้วย แต่ถ้าเมื่อใดปัดฝุ่นเอามาทำอีกก็จะเกิดปัญหาอีก

กำลังโหลดความคิดเห็น