“เหลิม” นำทีมขวาง “ป.ป.ช.” เสนอระเบียบให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยราคากลาง อัด ลุแก่อำนาจ ทำตัวใหญ่คับเมือง ขุดอดีตได้ตำแหน่งเพราะ คมช.ใช้ความเชื่อว่าผิดตัดสินคดี จ้องเล่นงานแต่คนเพื่อไทย เผย เตรียมสางแค้นเปิดสภา กลางเดือนนี้ เสนอแก้กฎหมายรื้ออำนาจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ ประเด็นซึ่ง ครม.มีการอภิปรายกันอย่างดุเดือดร้อนแรงมากที่สุด คือ เรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้ ครม.รับทราบและเห็นชอบข้อเสนอที่ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้ รวมถึงข้อเสนอที่บอกว่า หากการประกาศราคากลางการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีปัญหาในทางปฏิบัติ การบริหารราชการแผ่นดินติดขัดไม่คล่องตัว ให้สำนักงาน ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานวินิจฉัยปัญหา และแจ้งให้หน่วยงานของรัฐรับไปปฏิบัติ และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานหน่วยงานรัฐ โดยไม่ต้องนำเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบในส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้อีก
จากข้อเสนอดังกล่าวทำให้รัฐมนตรีหลายคน มองว่า ป.ป.ช.ออกหลักเกณฑ์ให้อำนาจตัวเองเบ็ดเสร็จ เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้อภิปรายในที่ประชุมว่า ข้อเสนอของ ป.ป.ช.มากเกินไป แสดงให้เห็นว่า ป.ป.ช.ลุแก่อำนาจ ต้องการสั่ง ครม.ให้ทำตามที่ต้องการ ทำตัวเป็นรัฐอิสระ ออกอำนาจให้ตนเองแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเป็นคำสั่งที่ไม่ควรแล้ว ยังมาสั่งให้หน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติการหลักเกณฑ์นี้ใน 180 วัน นับแต่ ครม.เห็นชอบอีก วันนี้ถ้า ป.ป.ช.ชุดนี้ได้รับการสรรหา และลงมติคัดเลือกมาจากวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญจะไม่ว่าเลย อย่างไรก็ดี เรื่องการให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยราคากลาง รัฐบาลไม่ขัดข้อง แต่ก่อนนำไปปฏิบัติทุกข้อตามระเบียบนี้รัฐบาลต้องให้กระทรวงการคลังไปปรึกษาหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน
“อย่างให้เปิดเผยราคากลางการก่อสร้างแล้วเกิดเหตุน้ำท่วม หากวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก ทราย มีการเปลี่ยนแปลงจะทำอย่างไร เมื่อราคาเปลี่ยนแปลง แล้วล็อกราคากลางไว้ ถ้าทำตามก็จะถูกกล่าวหาว่าทุจริต ผมพร้อมเป็นโจทย์กับ ป.ป.ช.เพราะ ป.ป.ช.ทำแบบนี้ไม่สวย ดูการกระทำแล้วไม่ใช่ ความประพฤติก็ไม่ใช่ การทำงานที่ผ่านมาของ ป.ป.ช.หลายเรื่องก็เห็นกันอยู่ เช่น คดีที่สลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ป.ป.ช.มาเอาผิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เอาผิดท่านสมัคร สุนทรเวช ทั้งที่อัยการบอกไม่ผิด ใครก็บอกไม่ผิด แต่ ป.ป.ช.มาเอาผิด มันเรื่องอะไรที่จะมาบังคับเราให้ทำโน่นทำนี่ รัฐบาลเรารู้อยู่แล้วว่าเราถูกจับตามอง เราไม่ทำ แต่รัฐบาลหน้าหล่อโกงกันเยอะ”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า เมื่อ ป.ป.ช.ไม่ได้มาจากการสรรหา ลงมติของวุฒิสภา ด้วยความกลัวทำให้เสื่อม อย่างเรื่องเขาวิหาร กฤษฎีกาบอกไม่ผิด ใครก็บอกไม่ผิด สุดท้ายเอาผิดนายสมัคร สุนทรเวช กับ นายนพดล ปัทมะ เรื่อง 91 ศพ ก็รู้เลยว่า ป.ป.ช.จะเอายังไง รัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องไปแกล้งในคดี 91 ศพ ป.ป.ช.เสนอได้แต่อย่าแอ็กอาร์ต อยากให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น รัฐบาลไม่ให้ค่าการตัดสินใจคดีของ ป.ป.ช.ชุดนี้ ก็เล่นตัดสินดูเพียงว่า เชื่อว่าผิด นั่งประชุมกัน 9 คน 8 บอกไม่ผิด อีกคนหนึ่งบอกอาจจะผิดเปลี่ยนเป็นผิดเลย
ทำให้ต่อมา นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเสริมในที่ประชุม ครม.ว่า เห็นด้วยกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูด ป.ป.ช.ทำงานเหมือน กกต.ที่ตัดสินยุบพรรคการเมืองเพียงเพราะเชื่อว่าผิด
จากนั้น นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเป็นแบบนี้การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยนิติบัญญัติ ในวันที่ 21 ธันวาคม เราควรจะมีการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กำลังมีการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.อยู่ ถามเลขาธิการกฤษฎีกาได้ เพราะมันเรื่องอะไรเราสร้างขึ้นมา เสกออกมาจากตะเกียงออกมาเป็นยักษ์ แล้วมาทำไม่ดีกับเรา เมื่อทำไม่ดีแบบนี้ก็ต้องยกเลิก ป.ป.ช.ทำแบบนี้ได้อย่างไร
“ใหญ่โตกัน คับบ้าน คับเมือง คับรัฐสภา ไม่ควรจะมาตัดสินใครถูกใครผิดแบบนี้ ถ้า ป.ป.ช.ไม่ได้มาจากการสรรหาและลงมติเลือกของวุฒิสภา เราไม่ต้องฟัง เราไม่ต้องยอม” ร.ต.อ.เฉลิมระบุ
ต่อมา ช่วงท้าย นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวสรุปว่า มติ ครม.จะให้ออกมาแบบไหน ถ้าบอกว่า ครม.ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอทั้งหมดของ ป.ป.ช.เกรงว่า จะออกมาไม่ดี คนจะมอง ครม.มีมติรุนแรงกับ ป.ป.ช.ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวบอกว่า ไม่เป็นไร ก็บอกว่าเห็นด้วยและสนับสุนนเรื่องข้อเสนอเปิดเผยราคากลาง แต่บางเรื่องเช่น เรื่องให้อำนาจ ป.ป.ช.ชี้ขาด หากเกิดปัญหาทางปฏิบัติคนยอมไม่ได้จะต้องให้กระทรวงการคลังไปปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน
