“โฆษก ปชป.” ขวางรัฐบาลมีแผนโอนย้าย “ไอ้กี้ร์” ไปนอนคุกการเมือง จี้รัฐบาลแจงเหตุผลให้ชัดเจน ระบุคดีผู้ก่อการร้ายถือเป็นความผิดทางอาญา จะโอนไปคดีการเมืองไม่ได้ แขวะสร้างคุกติดแอร์ เตรียมไว้รับ “นช.แม้ว” ชี้ บ.ญี่ปุ่นเบรกลงทุนในไทย เพราะรัฐบาลไร้แผนรองรับน้ำท่วมในอนาคต เชื่อยังมีทุนไหลออกอีกหลายราย ย้ำหมดเวลาบริหารประเทศแล้ว
วันนี้ (9 ธ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีการตั้งคุกการเมืองที่จะมีการย้ายผู้ต้องหาทางการเมืองจำนวน 32 คนไปในวันที่ 21 ธ.ค.ว่า ขอให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจนว่ามีมาตรการอย่างไร จึงเป็นนักโทษการเมือง และมีความผิดแค่ไหน จึงจะได้รับการย้ายไปอยู่คุกการเมือง โดยเฉพาะกรณีของ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย หากระหว่างที่ดำเนินคดีอยู่นี้จะมีการโอนตัวไปอยู่คุกการเมืองหรือไม่ และผู้ที่กระทำผิดในข้อหาก่อการร้ายเรียกว่าเป็นคดีการเมืองหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลได้อ้างว่าทำตามคำสั่งของ คอป. ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ คอป.ออกมาแถลงให้ชัดเจนว่า มีข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่ เพราะรัฐบาลก็นำมาอ้างว่าข้อเสนอของ คอป.ต้องการให้เกิดความปองดองในประเทศและประเทศจะเดินหน้าไปได้ ความจริงเป็นอย่างไร
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ยากถาม คอป.ว่า คดีการบุกที่ประชุมอาเซียนที่พัทยา จ.ชลบุรี จนประเทศไทยขายหน้าไปทั่วโลก คดีเผาบ้านเผาเมือง คดีการยิงเอ็ม 79 เข้าไปที่ชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย เป็นคดีการเมืองหรือไม่ และหากว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วยกับ คอป.แล้วไปขวางระเบิดเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม หรือ คอป.จะเป็นคดีการเมืองหรือไม่ ซึ่งในทางกฎหมายคดีการเมืองคือการผ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น ส่วนผู้ที่มาร่วมชุมนุมกระทำผิดต่างๆ จะต้องได้รับโทษทางอาญา ที่ต้องได้รับโทษจนถึงที่สุด ไม่ใช่อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาใช้ดุลพินิจของตัวเองว่า คดีของนายอริสมันต์ ไม่ใช่คดีก่อการร้าย เป็นเพียงคดีการเมืองเท่านั้น ซึ่งการแสดงความเห็นของคนที่เป็นรองนายกฯ ที่เป็นผู้บังคับใช้และปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ควรจะออกมาชี้นำสังคม หรือออกมาบอกว่าคนที่มาวางระเบิดแต่มันไม่ระเบิดก็ยังต้องให้โอกาสอยู่ ซึ่งจะต้องให้เกิดความชัดเจนว่ากฎหมายอะไรจะต้องใช้ให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ากับพวกของตัวเองแล้วก็พยายามที่จะใช้กฎหมายให้น้อยที่สุด ถือว่าเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง เหมือนที่พวกคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยทำมาตลอด
“ผมได้ข่าวมาว่า คุกการเมืองนั้นหรูมาก มีทั้งแอร์ วอลเปเปอร์อย่างดี ไม่ทราบว่าเตรียมไว้ต้อนรับพี่ชายนายกฯ หรือไม่ ทั้งที่คุกไม่จำเป็นจะต้องหรูขนาดนี้ และไม่จำเป็นต้องตั้งแห่งใหม่ เพราะในอดีตการที่แยกนักโทษการเมืองออกมาอีกห้องหนึ่งเท่านั้น เพราะเป็นพวกที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ หากไปรวมกับนักโทษทั่วไปจะเข้าไปยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลในคุกได้ และคุกการเมืองก็ไม่ต้องรับรองใครเป็นพิเศษ” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์แถลงกรณีบริษัทญี่ปุ่นประกาศยกเลิกการลงทุนและเลิกจ้างแรงงานทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีแผนใดรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อุทกภัยเหมือนในปีนี้อีกว่า เรื่องนี้รัฐบาลรู้ดีมาตั้งแต่ต้นว่าจะมีบริษัทญี่ปุ่นประกาศหยุดการลงทุนในประเทศไทย แต่ไม่มีการบอกล่วงหน้าหรือมีมาตราการใดๆ รองรับคนงานที่ถูกเลิกจ้างมาก่อนเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เป็นเหมือนกับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ที่รัฐบาลปล่อยให้ประชาชนไปดิ้นตายกันเองโดยทำตัวลอยอยู่เหนือปัญหา ซึ่งตลอดเวลาบริษัทต่างๆ เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศแผนป้องกันอุทกภัย แต่เป็นเพราะความไร้ประสิทธิภาพ และรัฐมนตรีทุกคนก็พูดพร้อมกันว่าขะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมอีก ซึ่งเป้นเพียงแต่ลมปาก จนถึงขระนี้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว รัฐบาลก็ยังไม่มีมาตราใดๆ ออกมารองรับนักลงทุนเลย
“ผมขอทำนายว่าบริษัทต่างชาติจะประกาศยกเลิกการลงทุนในไทยอีกจำนวนหลาย 10 แห่ง เพราะได้เห็นการทำงานของรัฐบาลชุดนี้แล้วว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็เพียงแต่บอกว่าเอาอยู่ แล้วปล่อยให้นิคมของพวกเขาเสียหายอย่างย่อยยับ ตอนนี้ก็ได้แต่เดินสายไปพูดกับต่างประเทศว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นและต้องการที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป ซึ่งน่าเสียดายงบประมาณ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ยังไม่มีโครงการอะไรเป็นรูปธรรมที่จะดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ มีเพียงแต่การโกหกประชาชนให้หลงเชื่อไปวันๆ เท่านั้น จึงเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้หมดเวลาแล้วที่จะบริหารประเทศต่อไป” นายชวนนท์กล่าว