xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” ขึงขัง นายกฯมอบปราบเว็บหมิ่น ปัดตอบรูป ร.8 ที่ขอนแก่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เฉลิม” โชว์คำสั่งนายกฯ มอบหมายปราบเว็บหมิ่น ลั่นฟันจริง สกัดจริง ย้ำ ทำตามหน้าที่ไม่ใช่ทำเพื่อตอบโต้กลับจุดอ่อนของรัฐบาล หรือโดนฝ่ายตรงข้ามโจมตี เตรียมเรียกประชุมกรรมการและเดินเครื่องทันที ไม่กังวล นปช.จะเข้าใจผิด บอกทำสิ่งถูกต้อง น้ำท่วมปากไม่ตอบกรณี จ.ขอนแก่น นำพระฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 8 มาติดตั้งในวันพ่อ แถเป็นเรื่องปกติทุกคนที่มีพระฉายาลักษณ์พระบรมวงศ์ในบ้าน ถือว่าจงรักภักดีแล้ว

วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากเรียก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.เข้าพบว่า ตนได้รับคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 285/2554 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย หรือไม่เหมาะสมผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ลงนามโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยกรรมการชุดนี้ มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และกรรมการรวมทั้งสิ้นรวม 22 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้บังคับการปราบปราม ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ที่ปรึกษา (สบ10) รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ คือ 1.กำหนดนโยบายการป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 2.อำนวยการและสั่งการให้หน่วยงานของรัฐ องค์กร หน่วยงานต่างๆ ตลอดจนผู้ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต และบุคคลอื่น ให้ดำเนินการป้องกันมิให้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม 3.สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อมูล ข้อคิดเห็น ตลอดทั้งขอเอกสารต่างๆ เพื่อประกอบการปฏิบัติภารกิจ 4.ออกระเบียบตลอดจนข้อปฏิบัติอื่นใด เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปฏิบัติภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย 5.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลเพื่อมอบหมายให้ดำเนินการใดตามความจำเป็น และ6.ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกรัฐบาลไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ส่งข้อความทางเว็บไซต์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง และระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ตนไปร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.นั้น ผบ.ทบ.ปรารภว่า กองทัพห่วงใยเรื่องนี้ยิ่งและแก้ไขปัญหาระกับหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีสื่อสารและกำลังพล กองทัพเห็นว่าเรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่รัฐบาล ตนรับฟังเรื่องนี้แล้วจึงแจ้งกับนายกฯ นายกฯจึงลงนามในคำสั่งดังกล่าว และแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานกรรมการและมีกรรมการทั้งสิ้น 22 คน มาจากผู้บังคับบัญชาจากทุกหน่วยงาน จากนั้นในวันที่ 9 ธ.ค.เวลา 11.00 น.จะเรียกประชุมกรรมการชุดนี้เป็นครั้งแรก โดยกำหนดว่าบุคคลที่แต่งตั้งต้องมาร่วมประชุมทุกครั้ง หากมาไม่ได้ต้องมอบให้บุคคลที่มีอำนาจตัดสินใจมาประชุมแทน โดยสถานที่ทำงานของกรรมการชุดนี้จะอยู่ที่ สตช.โดยมีเครื่องมือและเทคโนโลยี รวมทั้งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และจะลุยทันทีหลังประชุมเสร็จ

“เรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรที่จะดำเนินการนั้น จะแจ้งนายกฯและประชาชนให้ทราบเป็นระยะ ว่าใครทำแต่ไม่บอกเนื้อหา และย้ำว่า จะไม่เหมือนรัฐบาลที่แล้ว” รองนายกฯ กล่าวและว่า ตนมอบให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.รับผิดชอบทางสายตำรวจ และรองผบ.ตร.คนนี้จะประสานงานด้านกำลังทั้งหมด โดยทำทุกภาคส่วนพร้อมกัน เทคโนโลยีของตำรวจ มหาดไทยและไอซีที รวมทั้งกลาโหมจะมารวมกัน โดยมีตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ชุดเฝ้าระวัง ชุดเข้าขอตรวจค้น ตนจะกำกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หากเจ้าของเว็บไซต์คนใดหัวหมอและดื้อ จะเจรจา สิ่งใดใช้นิติศาสตร์ได้ก็จะใช้ สิ่งใดใช้ไม่ได้ก็ใช้รัฐศาสตร์ โดยคนที่ทำผิดเรื่องนี้ตนจะประจานผู้กระทำแต่จะไม่ประจานเนื้อหา

“เพราะถึงเวลาแล้วที่ต้องร่วมมือร่วมใจรักษาพระเกียรติยศ พระเกียรติศักดิ์อย่างจริงจัง ไม่บกพร่อง ห้ามมีข้ออ้างว่าทำไม่ได้ หากอ้างว่าเนื้อหาในเว็บไซต์มาจากต่างประเทศ แต่สามารถหยุดให้อยู่เฉยๆ และไม่เผยแพร่ต่อได้ หากไม่เชื่อและไม่ทำ ตนจะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด งานนี้ท้าทาย แต่ตนเต็มใจและตั้งใจทำ ตำรวจและกรรมการทุกคนรอวันนี้มานานแต่ไม่เคยมีใครคิดบูรณาการทุกส่วนมาร่วมกัน” รองนายกฯ ระบุ และว่า แต่เดิมนั้นมันติดขัดการเข้าตรวจสอบของตำรวจที่ต้องไปขอกระทรวงไอซีทีก่อน ครั้งนี้ตนบอกแล้วว่าเทคโนโลยีของตำรวจติดขัดด้านใดตนจะประสานกับกระทรวงไอซีทีให้ และตนจะเปิดสายตลอดเวลา หากหน่วยงานใดขัดแย้งตนจะไปดูแลเอง และจะทำแบบขอไปทีนั้นไม่ได้ มันต้องทำตามภารกิจหน้าที่ ขั้นตอนธุรการต้องยกเลิกและขั้นตอนนี้อย่ามามากนัก เพื่อความสำเร็จของงานขั้นตอนต้องลดลง เมื่อจับผู้กระทำผิดให้ได้ก่อน เมื่อขั้นตอนไปถึงศาลแล้ว ต้องเร่งดำเนินการทันที ทุกหน่วยงานต้องมีเวรยามทำในเรื่องนี้ด้วย

รองนายกฯ กล่าวว่า แม้กรรมการชุดนี้จะมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมเพียงใดแต่มันต้องสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วยว่าอนุญาตให้กำจัด สกัด เว็บไซต์ที่กระทบสถาบันว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้และต้องแก้กฎหมายเพื่อให้ดำเนินการได้เพื่อไปสู่ความสำเร็จ และตนอยากให้เรื่องนี้สำเร็จในวันพรุ่งนี้เลย แต่มันเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยรัฐบาลนี้เริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรมที่แตกต่างกับรัฐบาลก่อนๆ ที่เป็นนามธรรมในการแต่งตั้งกรรมการขึ้นมา แต่ครั้งนี้นายกฯระบุบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการเลย

เมื่อถามว่า เว็บไซต์จากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จะจัดการอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเข้าใจและศึกษามาระดับหนึ่งในช่วงเป็นรมว.มหาดไทย มันมีเพียงว่าสถานที่ในเมืองไทยอย่าเผยแพร่ต่อเท่านั้น จะปฏิเสธว่า มันส่งมาจากต่างประเทศ แต่มีหน้าที่ไม่เผยแพร่ต่อ เท่านี้จะถือว่าให้ความร่วมมือแล้ว หากส่งมาอีกก็ลบทิ้ง มันก็ไม่มีอะไร และเจ้าของเว็บไซต์ต่างๆ ตนกราบขอความร่วมมือ และขอความกรุณาว่าเลิกพฤติกรรมที่แล้วมา หากใครไม่เลิก และทำผิดกฎหมายจะดำเนินการเด็ดขาด ห้ามอ้างว่าไม่เข้าใจและไม่รู้ เมื่อรู้แล้วแต่ปล่อยปละละเลยจะติดคุกด้วย ไม่ได้ขู่ เพราะเอาจริง ที่ผ่านมาเหลาะแหละแล้วเอาไปพูด แต่เรื่องแบบนี้มันต้องสกัดกั้นไม่ต้องพูด เพราะตนไม่พูดแต่จะสกัดกั้นเลย

เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีบางกลุ่มการเมืองยื่นหนังสือต่อรัฐบาลให้จัดการการหมิ่นสถาบันโดยไม่ทราบจุดประสงค์เพื่อให้เกิดข่าว รองนายกฯ กล่าวว่า มีคนหลายพวก เช่น บางพวกนึกว่าชนะเลือกตั้งแต่แพ้และทำใจไม่ได้ บางพวกเดินผิด เพราะไปอุ้มไก่แพ้จึงแพ้ตาม บางพวกใจร้อน รัฐบาลนี้เพิ่งทำงานสี่เดือนเมื่อเห็นน้ำท่วมนึกว่าได้เวลา และหาวิธีเปลี่ยนรัฐบาลแบบเก่า แต่ประชาชนไม่ยอม และเลือกตั้งครั้งที่สี่นี้ทำบางคนผิดหวัง เพราะพรรคเพื่อไทยมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะเล่นแร่แปรธาตุแบบเก่ามันไม่ได้แล้ว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการทำงานของกรรมการชุดนี้อาจจะผิดใจกับ นปช.ได้ และอาจไม่สนับสนุนรัฐบาลนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีผิดใจ คนเสื้อแดงรักพรรคเพื่อไทยชั่วฟ้าดินสลาย เพราะมาร่วมกันทำความดี จะผิดใจอะไร และตนจะโทรศัพท์ไปหานายชวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร เพราะชอบพอกัน คนเสื้อแดงมีเหตุผลนะ และวันนี้มีความสุข เพราะมีความคืบหน้าในคดีต่างๆ

เมื่อถามว่า ตรวจสอบเรื่องการนำพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 8 มาติดตั้งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา แทนพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันพ่อแห่ชาติ ที่วันป่าสวนเขากวาง จ.ขอนแก่น แล้วหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่แสดงความเห็นเพราะยังไม่ทราบเรื่อง เมื่อถามว่า ตอนนี้ในสังคมออนไลน์นำเรื่องนี้มาโจมตีหมู่บ้านคนเสื้อแดงด้วยว่าไม่เคารพสถาบัน รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก การมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระราชวงศ์ไว้ในบ้านพักนั้น คือ การแสดงความจงรักภักดีอยู่แล้ว บ้านของตนมีทั้ง 9 รัชกาล เรื่องแบบนี้ไม่มีหรอก เว้นแต่จะตั้งแง่หาเรื่องกัน ตนขอบอกฝ่ายตรงข้ามว่าการกล่าวหาพวกตนว่าไม่จงรักภักดี ยังไม่รู้สึกตัวว่าโดนชาวบ้านตบหน้าไปสองครั้งแล้วอีกหรือ ชาวบ้านรู้ว่าพวกตนจงรักภักดี เพราะตนรับเสด็จตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าปีมาแล้ว และเถ้าแก่บางคนที่มาเล่นการเมืองนั้น ถามว่าทำอะไรมาบ้าง

ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้อาจเป็นจุดอ่อนของรัฐบาล รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้จะปราบให้ชัด เมื่อถามว่าเป็นการตอบโต้ของรัฐบาลหลังโดนโจมตีว่าไม่จงรักภักดีหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ตอบโต้ ไม่ได้ต้องการผลงาน แต่มันเป็นหน้าที่ ตอนนี้มอบหน้าที่นี้ให้ตนแล้ว เมื่อถามว่ากรรมการชุดนี้จะติดตามคดีความของกลุ่มเสื้อสีต่างๆ ด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มันเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น