อดีตรองนายกรัฐมนตรีเตรียมให้ปากคำคดีสมรภูมิคอกวัว ยันไม่กลัวถูกเช็กบิลเพราะทำในสิ่งที่ถูก ลั่นไม่ยอมถูกยัดเหยียดคดีหวังเสนอ กม.นิรโทษกรรมทุกฝ่าย เชื่อชาวบ้านเห็นชัดใครผิดจริง ลั่นไม่หนีไปนอก ยังเชื่อระบบศาลไทย ไม่รู้รอยเตอร์จ้างนักสืบ ยังไม่เชื่อลมปาก “เฉลิม” สับตาบอดสมองไม่ดีมองไม่เห็นแก๊งชุดดำ ยันเปลี่ยนขาวเป็นดำคงไม่ได้ ชี้ “จอมตะกายตึก” มอบตัวตามคาด ยัน “นช.แม้ว” บงการรัฐทำปรองดองยาก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) เตรียมจะเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ว่า วันนี้ตนก็จะเตรียมตัวเตรียมเอกสารจะนำไปประกอบการให้ปากคำ ซึ่งก็จะเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับวันที่ 10 เม.ย.53 ไปชี้แจงด้วย อย่างไรก็ตาม ตนไม่กังวลและไม่กลัวว่าจะถูกเช็กบิล เพราะเราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ปกป้องบ้านเมืองรักษาความสงบเรียบร้อย แล้วไม่ต้องคิดเลยเถิดจะไปนิรโทษกรรมให้ตนและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ ก็พยายามจะยัดเยียดให้เรากลายเป็นผู้ต้องหา เพื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมจะได้อ้างว่าทำเพื่อทุกฝ่าย ดังนั้น อย่าเพิ่งไปสรุป ขอให้ดูกันไปก่อน เพราะเขาอาจจะมีเจตนาบริสุทธิ์ใจก็ได้ ซึ่งตนก็จะให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน
“ผมจะไม่ยอมที่จะถูกนำไปอ้างเรื่องนิรโทษกรรม ผมจะพูดความจริง และไม่กลัวที่จะพูดความจริง ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะมีเสียงน้อยก็จะพูดความจริง เพราะผมเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 52 และ 53 ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ผมเป็นผู้รักษากฎหมาย จะถูกยัดเยียดความผิดให้ก็ต้องต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าไม่หนีออกนอกประเทศ และพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่ออำนาจเปลี่ยนคิดว่าความยุติธรรมจะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเชื่อในระบบยุติธรรมและศาลไทย ไม่กังวลใจ เพราะบุคคลนั้นมาชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็ไป แต่ระบบยังอยู่ ดังนั้น เราต้องเชื่อมั่นในเรื่องนี้ ประเทศเราถึงจะอยู่ได้ ซึ่งตนยังให้ความเคารพนับถือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตทุกฝ่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จะไม่รีบไปทึกทักว่าเขาทำเพื่อรับใช้นักการเมืองหรือไม่ แต่ตนจะร่วมมือกับเขา
เมื่อถามว่า กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ระบุทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้ส่งนักสืบมา แล้วได้ส่งข้อสรุปให้กับทางรัฐบาลชุดนี้โดยไม่ได้ให้ไว้กับรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่เคยรับทราบเรื่องนี้มาก่อน และขอบอกว่าไม่เคยเชื่อถือคำพูด ร.ต.อ.เฉลิม และก็เชื่อว่าคนไทยจำนวนมากไม่เชื่อถือด้วย ดังนั้น ไม่หวั่นไหวอะไร ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาระบุว่าไม่มีชายชุดดำในการสลายการชุมนุมนั้น ตนคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิมอาจจะตาบอด และสมองไม่ดี ไม่รู้จะแปลว่าอะไร เพราะคนเขาเห็นกันทั้งประเทศ มีแต่ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ไม่เห็นอยู่คนเดียว ซึ่งถือเป็นความพยายามในการบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ตนเห็นว่าเขาคงทำไม่ได้ เพราะประชาชนเขาเห็นทั้งประเทศ มาเปลี่ยนจากขาวให้เป็นดำ จากดำให้เป็นขาวคงทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดคิดได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อฝ่ายเสื้อแดงชนะมาเป็นรัฐบาลก็ต้องมั่นใจว่าถ้ามามอบตัวแล้วจะได้รับการเอื้อเฟื้อ เกื้อหนุน ช่วยเหลือ ส่วนรัฐบาลควรจะคิดอย่างไร ส่งสัญญาณอย่างไรให้ประชาชนสบายใจในสถานการณ์แบบนี้นั้น ตนคงแนะนำไม่ได้ เพราะกุนซือที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลสำคัญมากกว่า ไม่เห็นหรือว่าเขาทะเลาะกันที่กระทรวงคมนาคมก็ต้องไปหาคนที่ต่างประเทศช่วยคลี่คลาย ซึ่งตนยังคิดว่าการตัดสินใจต่างๆ ยังคงขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ เพียงคนเดียว และหากเป็นอย่างนี้ต่อไปความปรองดองคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะเขาก็มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องได้อำนาจ ทรัพย์สินคืน ตรงนี้จะเป็นปัญหา ล่าสุดที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะกลับมาเป็นคนบริหารประเทศเองอีกครั้งนั้น ก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมาตลอดเวลาเพื่อเป้าหมายอย่างนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีโอกาสได้กลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่ก็อยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะคิดอย่างไร ถ้าตนภาวนาก็อยากให้เขาเปลี่ยนความคิด บ้านเมืองจะได้สงบสุข แต่หากจะดึงดันต่อไปก็น่ากังวลใจ เพราะสิ่งที่เขาพยายามทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น ทำร้ายจิตใจคนไทย ทำร้ายหลักการ โดยเฉพาะหลักการปกครอง หลักกฎหมายทำให้คนไทยไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีการตัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันพ่อออก รวมทั้งการลงภาพพระฉายาลักษณ์ในเฟซบุ๊กของนายกฯ ผิดนั้น จะส่งผลกระทบต่อคนไทยอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจเขาจริงๆ ว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่อยากไปวิจารณ์ ซึ่งตนกังวลว่าสิ่งที่รัฐบาลทำแบบมีลับลมคมในตั้งแต่เรื่องการทำร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราขทานอภัยโทษ มาจนถึงเรื่องเหล่านี้ทำให้คนไทยไม่สบายใจ และไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลที่ไม่ไว้วางใจมากๆ เข้ามันก็ไม่ดี เมื่อถามว่าจะนำไปสู่การเมืองบนถนนอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนอยากให้เป็นการเมืองที่สู้กันในระบบมากกว่า