ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้จ้างนักสืบสากล ทำการสืบสวนสอบสวนกรณีนักข่าวญี่ปุ่นตายที่สี่แยกคอกวัว ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเขาระบุว่า ได้รายละเอียดครบถ้วน เป็นเอกสารประมาณ 60 หน้า ส่งมาให้ตำรวจไทยแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเขาบอกว่า ไม่ส่ง เพราะรัฐบาลชุดที่แล้ววางแนวทางการสืบสวน สอบสวนไม่ตรงกับนักสืบอิสระของเขาที่ทำการสืบ แต่เมื่อเขาเห็นว่าตนจริงจังเรื่องนี้ จึงส่งมาให้ ซึ่งทางตำรวจก็ได้ส่งกองการต่างประเทศไปแล้ว
" ผมอยากบอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ท่านเข้าใจผิดว่า ผมชี้นำตำรวจไม่ใช่ คนที่ชี้นำตำรวจให้สอบสวนท่าน คือพนักงานอัยการ ที่เห็นว่าท่าน และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนสำคัญ และเรื่องนี้มันเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ท่านอย่าคิดว่าบางเรื่องคนหนึ่งทำ แล้วบางเรื่องคนหนึ่งจะทำ ผมไม่ทำผิด และที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ตอนนั้นที่มีข่าวออกมาว่ามีการสอบพยาน มีปืนทราโวล พยานคนนั้นออกมายืนยันเเล้วว่า ไม่มีปืนทราโวล มีเเต่เจ้าหน้าที่แอบไปให้เขา แล้วเห็นสอบสวนชายชุดดำก็ไม่มี ซึ่งความจริงจะต้องพิสูจน์ เเต่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง หน้า 4 เเนวหน้า คอลัมน์ เสือไทย เมื่อเช้าเขียนว่า ที่รัฐบาลเร่งรัดคดี 91 ศพ เพื่อเอาเป็นเรื่องนิรโทษกรรม การฆ่าคนตาย กับเรื่องการเมืองมันคนละเรื่อง ไอ้พวกเขียนเพ้อเจ้อ นั่งเทียนเขียน ผมไม่อยากเปิดศึกกับหนังสือพิมพ์ เเต่เเนวหน้าร้ายกาจ ด่าท่านทักษิณ ทั้งนั้น มันไม่เข้าท่า คดี 91 ศพ มันฆ่าคนตาย ที่ผมจะทำเนี่ยหลังปฏิวัติแล้วเกิดผลกระทบ คดี 91 ศพ ไปนิรโทษใครเขาจะยอม ทั่วโลกเขาก็ไม่ยอม "
ผู้สือข่าวถามว่า สำนักข่าวรอยเอตร์เขาไม่วางมือ ติดตามตลอด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่วาง เขาตั้งนักสืบสากล งานนี้สนุก ตำรวจญี่ปุ่นบอกตนเอง ตอนนี้ตนกลายเป็นขวัญใจญี่ปุ่นขวัญใจจีน เรื่องนี้ไม่ควรปล่อยปละละเลย มันเป็นเรื่องการฆ่าคนตาย และทหารก็บอกชัด หลายท่านที่ไปให้การ บอกที่ไปปฏิบัติหน้าที่ทำตามคำสั่ง ศอฉ.
ผู้สื่อถามว่า ข้อมูลที่ตำรวจญี่ปุ่นส่งมา จะเปิดเผยให้สังคมทราบเมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เดี๋ยวตำรวจเขาจัดการเอง เเต่เขาบอกกับตนว่า มันเป็นเเนวทางเดียวกันกับที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ ที่ตนได้สั่งการ เขาก็เลยส่งมาให้
เมื่อถามว่า ระบุชี้ชัดเลยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้ เอารายละเอียดมาบอกไม่ได้ เเต่เเนวทางเดียวกันก็ชัด ตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ พยานบุคคล 5-6 ปาก พยานนิติวิทยาศาสตร์ชัดเจน ฟันธง และ 5 สำนวนที่ส่งไปแล้ว ตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนเรื่องชายชุดดำ ที่เจ้าหน้าที่สอบๆ กันมา ก็ไม่มีหลักฐาน เจ้าหน้าที่บางคนไปให้การ ให้เขาเซ็นต์ชื่อรับรองได้ยังไง ก็มันออกมาจาก ศอฉ. และปืนทราโวล พยานก็ยืนยันเเล้วว่า ไม่มี
** อัด"เหลิม" ชี้นำ หวังโยงการเมือง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ใครมีหลักฐานอะไรก็ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนได้ เพราะเป็นการสอบสวนในรัฐบาลนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมกลับมาใช้วิธีการพูดจาชี้นำ
เมื่อถามว่า การชี้นำเช่นนี้มีเจตนาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าเจตนาทั้งหมด ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ตน และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมที่จะให้ข้มูลข้อเท็จจริงต่างๆ อยู่แล้ว จึงขอให้รัฐบาลปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานสอบสวน ถ้าท่านรู้จักใคร หรือมีหลักฐานอะไร ก็ให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ มิฉะนั้นกระบวนการสรุปผลการสอบสวนทั้งหลาย ก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่น มันจะกลายเป็นเรื่องของการเมืองเข้ามาชี้นำ ว่าให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่ต้องไม่หวั่นไหว เพราะท่านต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบในที่สุด เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม คงไม่ได้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งตนก็คาดหวังว่า การสอบสวนจะเป็นไปอย่างตรงไป ตรงมา เราเองก็อยากให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้รับข้อเท็จจริง และความเป็นธรรมจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายสุเทพ หรือไม่ ในกรณีที่จะต้องไปชี้แจงกับทางตำรวจนครบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เพราะต่างคนก็ต่างรวบรวมเอกสารหลักฐานอยู่
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าจะมีการนำรายละเอียดของคำชี้แจง ไปขยายผลต่อสาธารณะ เช่นเดียวกับกรณีของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีต โฆษกศอฉ. หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่า เรื่องนี้มีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หากการเมืองถอยออกไปซะ ให้คนที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาค้นหาความจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายจะดีที่สุด
เมื่อถามว่า คิดว่าการเคลื่อนไหวของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ออกมาในเรื่องนี้ต้องการอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า " คุณเฉลิม ก็อยากแสดงตนน่ะครับ เอาอกเอาใจ ก็ว่ากันไป"
เมื่อถามย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการที่จะเอาใจใคร นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า " เขาก็เอาใจคนที่เขาอยากจะเอาใจน่ะครับ"
เมื่อถามอีกว่า การกระทำเช่นนี้จะทำให้กระบวนการปรองดองสมานฉันท์ จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องกลับไปย้อนถามรัฐบาลว่า ถ้าอยากให้เกิดความปรองดอง ก็มาร่วมกันให้ผู้ที่มีหน้าที่ในการค้นหาความจริงเข้ามาทำหน้าที่หาความจริง ไม่ใช่นำเรื่องมาเป็นประเด็น สร้างเรื่องกล่าวหาทางการเมือง
** ยันไม่เกี่ยวกม.นิรโทษกรรม
ส่วนการกระทำเช่นนี้ จะเป็นการกดดันและทำให้ต้องยอมรับเรื่องเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า " ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ ผมก็มีหน้าที่ให้ข้อเท็จจริง ส่วนความเหมาะสมที่จะมีกฏหมายนิรโทษกรรม หรือไม่ มันไม่เกี่ยวว่า ผมหรือใคร จะเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว การพิจารณาเกี่ยวกับกฏหมายนิรโทษกรรม ต้องอยู่บนหลักการ"
เมื่อถามอีกว่า ยังมีความพยายามที่จะทำให้ทุกฝ่ายดูเหมือนว่าผิดหมด เพื่อที่จะออกกฏหมายนิรโทษกรรม มาใช้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีแน่นอน นั่นคือความพยายามของผู้ที่จะผลักดันเรื่องนี้ แต่จริงๆแล้ว ขอย้ำว่าในรายงานฉบับแรกของคณะกรรมการ คอป. ระบุชัดว่า กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่านจะเป็นทางออก แต่ไม่ใช่เรื่องการนิรโทษกรรม และไม่ใช่การบังคับใช้กฏหมายที่ไม่คำนึงถึงบริบททางการเมือง
ส่วนจะกลายมาเป็นข้อกล่าวอ้างที่จะถูกนำมาใช้โยงสร้างประเด็นทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น ตนก็มีหน้าที่ในการต่อสู้ตามข้อเท็จจริง และตนก็ใม่นำเรื่องนี้ไปปะปนกับจุดยืนทางการเมือง
"ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน อย่าสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง สิ่งที่ดีที่สุดคือ การเดินหน้าแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน เพราะในกระแสพระราชดำรัสที่ให้ไว้ คือ ความมั่นคงของประเทศชาติ จะอยู่ได้ ด้วยการที่ประชาชนอยู่ดี มีสุข" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** “ดาว์พงษ์” พร้อมให้ข้อมูล“91 ศพ”ต่อป.ป.ช.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรับผิดชอบสำนวนคดีสั่งสลายม็อบเสื้อแดงในปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 ราย เตรียมขอข้อมูลจากกองทัพว่า ข้อมูลเราได้มอบให้ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ( คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานฯไปหมดแล้ว โดยช่วงนั้นนายสมชาย หอมลออ คณะกรรมการ คอป. ได้เข้ามาที่กองทัพบก เราก็ให้ข้อมูลไป แต่ถ้าทาง ป.ป.ช. ต้องการข้อมูลเพิ่ม ก็ทำหนังสือมาเราไม่มีอะไรปิดบัง กองทัพพร้อมส่งข้อมูลไปให้
เมื่อถามว่านายวิชา อาจเชิญ เสธ.ทบ.ห้วงเวลานั้น คือท่าน ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีหนังสือมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะเป็นผู้พิจารณาดู แต่รับรองได้ว่า เราไม่มีอะไรปิดบัง
" ผมอยากบอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ท่านเข้าใจผิดว่า ผมชี้นำตำรวจไม่ใช่ คนที่ชี้นำตำรวจให้สอบสวนท่าน คือพนักงานอัยการ ที่เห็นว่าท่าน และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนสำคัญ และเรื่องนี้มันเป็นการตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ท่านอย่าคิดว่าบางเรื่องคนหนึ่งทำ แล้วบางเรื่องคนหนึ่งจะทำ ผมไม่ทำผิด และที่ซ้ำร้ายกว่านั้น ตอนนั้นที่มีข่าวออกมาว่ามีการสอบพยาน มีปืนทราโวล พยานคนนั้นออกมายืนยันเเล้วว่า ไม่มีปืนทราโวล มีเเต่เจ้าหน้าที่แอบไปให้เขา แล้วเห็นสอบสวนชายชุดดำก็ไม่มี ซึ่งความจริงจะต้องพิสูจน์ เเต่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง หน้า 4 เเนวหน้า คอลัมน์ เสือไทย เมื่อเช้าเขียนว่า ที่รัฐบาลเร่งรัดคดี 91 ศพ เพื่อเอาเป็นเรื่องนิรโทษกรรม การฆ่าคนตาย กับเรื่องการเมืองมันคนละเรื่อง ไอ้พวกเขียนเพ้อเจ้อ นั่งเทียนเขียน ผมไม่อยากเปิดศึกกับหนังสือพิมพ์ เเต่เเนวหน้าร้ายกาจ ด่าท่านทักษิณ ทั้งนั้น มันไม่เข้าท่า คดี 91 ศพ มันฆ่าคนตาย ที่ผมจะทำเนี่ยหลังปฏิวัติแล้วเกิดผลกระทบ คดี 91 ศพ ไปนิรโทษใครเขาจะยอม ทั่วโลกเขาก็ไม่ยอม "
ผู้สือข่าวถามว่า สำนักข่าวรอยเอตร์เขาไม่วางมือ ติดตามตลอด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่วาง เขาตั้งนักสืบสากล งานนี้สนุก ตำรวจญี่ปุ่นบอกตนเอง ตอนนี้ตนกลายเป็นขวัญใจญี่ปุ่นขวัญใจจีน เรื่องนี้ไม่ควรปล่อยปละละเลย มันเป็นเรื่องการฆ่าคนตาย และทหารก็บอกชัด หลายท่านที่ไปให้การ บอกที่ไปปฏิบัติหน้าที่ทำตามคำสั่ง ศอฉ.
ผู้สื่อถามว่า ข้อมูลที่ตำรวจญี่ปุ่นส่งมา จะเปิดเผยให้สังคมทราบเมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เดี๋ยวตำรวจเขาจัดการเอง เเต่เขาบอกกับตนว่า มันเป็นเเนวทางเดียวกันกับที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ ที่ตนได้สั่งการ เขาก็เลยส่งมาให้
เมื่อถามว่า ระบุชี้ชัดเลยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้ เอารายละเอียดมาบอกไม่ได้ เเต่เเนวทางเดียวกันก็ชัด ตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ พยานบุคคล 5-6 ปาก พยานนิติวิทยาศาสตร์ชัดเจน ฟันธง และ 5 สำนวนที่ส่งไปแล้ว ตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนเรื่องชายชุดดำ ที่เจ้าหน้าที่สอบๆ กันมา ก็ไม่มีหลักฐาน เจ้าหน้าที่บางคนไปให้การ ให้เขาเซ็นต์ชื่อรับรองได้ยังไง ก็มันออกมาจาก ศอฉ. และปืนทราโวล พยานก็ยืนยันเเล้วว่า ไม่มี
** อัด"เหลิม" ชี้นำ หวังโยงการเมือง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ใครมีหลักฐานอะไรก็ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนได้ เพราะเป็นการสอบสวนในรัฐบาลนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมกลับมาใช้วิธีการพูดจาชี้นำ
เมื่อถามว่า การชี้นำเช่นนี้มีเจตนาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าเจตนาทั้งหมด ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่ตน และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมที่จะให้ข้มูลข้อเท็จจริงต่างๆ อยู่แล้ว จึงขอให้รัฐบาลปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานสอบสวน ถ้าท่านรู้จักใคร หรือมีหลักฐานอะไร ก็ให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ มิฉะนั้นกระบวนการสรุปผลการสอบสวนทั้งหลาย ก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่น มันจะกลายเป็นเรื่องของการเมืองเข้ามาชี้นำ ว่าให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่ต้องไม่หวั่นไหว เพราะท่านต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบในที่สุด เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม คงไม่ได้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งตนก็คาดหวังว่า การสอบสวนจะเป็นไปอย่างตรงไป ตรงมา เราเองก็อยากให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้รับข้อเท็จจริง และความเป็นธรรมจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายสุเทพ หรือไม่ ในกรณีที่จะต้องไปชี้แจงกับทางตำรวจนครบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เพราะต่างคนก็ต่างรวบรวมเอกสารหลักฐานอยู่
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าจะมีการนำรายละเอียดของคำชี้แจง ไปขยายผลต่อสาธารณะ เช่นเดียวกับกรณีของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีต โฆษกศอฉ. หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่า เรื่องนี้มีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หากการเมืองถอยออกไปซะ ให้คนที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาค้นหาความจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายจะดีที่สุด
เมื่อถามว่า คิดว่าการเคลื่อนไหวของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ออกมาในเรื่องนี้ต้องการอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า " คุณเฉลิม ก็อยากแสดงตนน่ะครับ เอาอกเอาใจ ก็ว่ากันไป"
เมื่อถามย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการที่จะเอาใจใคร นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า " เขาก็เอาใจคนที่เขาอยากจะเอาใจน่ะครับ"
เมื่อถามอีกว่า การกระทำเช่นนี้จะทำให้กระบวนการปรองดองสมานฉันท์ จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องกลับไปย้อนถามรัฐบาลว่า ถ้าอยากให้เกิดความปรองดอง ก็มาร่วมกันให้ผู้ที่มีหน้าที่ในการค้นหาความจริงเข้ามาทำหน้าที่หาความจริง ไม่ใช่นำเรื่องมาเป็นประเด็น สร้างเรื่องกล่าวหาทางการเมือง
** ยันไม่เกี่ยวกม.นิรโทษกรรม
ส่วนการกระทำเช่นนี้ จะเป็นการกดดันและทำให้ต้องยอมรับเรื่องเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า " ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ ผมก็มีหน้าที่ให้ข้อเท็จจริง ส่วนความเหมาะสมที่จะมีกฏหมายนิรโทษกรรม หรือไม่ มันไม่เกี่ยวว่า ผมหรือใคร จะเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว การพิจารณาเกี่ยวกับกฏหมายนิรโทษกรรม ต้องอยู่บนหลักการ"
เมื่อถามอีกว่า ยังมีความพยายามที่จะทำให้ทุกฝ่ายดูเหมือนว่าผิดหมด เพื่อที่จะออกกฏหมายนิรโทษกรรม มาใช้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีแน่นอน นั่นคือความพยายามของผู้ที่จะผลักดันเรื่องนี้ แต่จริงๆแล้ว ขอย้ำว่าในรายงานฉบับแรกของคณะกรรมการ คอป. ระบุชัดว่า กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่านจะเป็นทางออก แต่ไม่ใช่เรื่องการนิรโทษกรรม และไม่ใช่การบังคับใช้กฏหมายที่ไม่คำนึงถึงบริบททางการเมือง
ส่วนจะกลายมาเป็นข้อกล่าวอ้างที่จะถูกนำมาใช้โยงสร้างประเด็นทางการเมืองเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น ตนก็มีหน้าที่ในการต่อสู้ตามข้อเท็จจริง และตนก็ใม่นำเรื่องนี้ไปปะปนกับจุดยืนทางการเมือง
"ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน อย่าสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง สิ่งที่ดีที่สุดคือ การเดินหน้าแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน เพราะในกระแสพระราชดำรัสที่ให้ไว้ คือ ความมั่นคงของประเทศชาติ จะอยู่ได้ ด้วยการที่ประชาชนอยู่ดี มีสุข" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** “ดาว์พงษ์” พร้อมให้ข้อมูล“91 ศพ”ต่อป.ป.ช.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรับผิดชอบสำนวนคดีสั่งสลายม็อบเสื้อแดงในปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 ราย เตรียมขอข้อมูลจากกองทัพว่า ข้อมูลเราได้มอบให้ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ( คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานฯไปหมดแล้ว โดยช่วงนั้นนายสมชาย หอมลออ คณะกรรมการ คอป. ได้เข้ามาที่กองทัพบก เราก็ให้ข้อมูลไป แต่ถ้าทาง ป.ป.ช. ต้องการข้อมูลเพิ่ม ก็ทำหนังสือมาเราไม่มีอะไรปิดบัง กองทัพพร้อมส่งข้อมูลไปให้
เมื่อถามว่านายวิชา อาจเชิญ เสธ.ทบ.ห้วงเวลานั้น คือท่าน ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีหนังสือมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะเป็นผู้พิจารณาดู แต่รับรองได้ว่า เราไม่มีอะไรปิดบัง