xs
xsm
sm
md
lg

อัดดีเอสไอส่อปล่อยแดงล้มเจ้า เตือนบ้านเมืองลุกเป็นไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (1 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจนครบาล ระบุว่า ส่งหนังสือเชิญให้ปากคำ ในคดีการเสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 53 ในวันที่ 2 ธ.ค.แล้วว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือเชิญไปให้ปากคำดังกล่าว จึงไม่ทราบว่ามีการส่งหนังสือไปที่ไหน อย่างไร และได้สอบถาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังไม่ได้รับหนังสือเช่นกัน โดยในวันนี้( 2 พ.ย.) ตนมีกำหนดการไป จ.สุโขทัย
ทั้งนี้ ยืนยันว่า พวกตนพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ข้อเท็จจริงอยู่แล้ว แต่แปลกใจว่า เรื่องการเชิญไม่เชิญอย่างไร กลายเป็นว่าสื่อบางฉบับ กับนักการเมืองบางฝ่าย ทราบก่อนเจ้าตัว ซึ่งเป็นเรื่องแปลก
"ผมต้องถามว่า ถ้ากระบวนการแจ้ง กลายเป็นการแจ้งสื่อกับนัการเมืองฝ่ายตรงข้ามก่อน กรรมการจะมีความเป็นกลางหรือเปล่า กรรมการต้องมาชี้แจงตรงนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทางตำรวจอ้างว่า ควรจะได้รับทราบจากสื่อ แล้วการไม่ไปพบตำรวจในวันนี้ จะถูกกล่าวหว่าบิดพลิ้วได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีระบบนี้ และถ้าจะใช้ระบบนี้ ตนจะได้ให้การผ่านสื่อบ้าง วันนี้ตนยังไม่ได้รับหนังสือ ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต้องถามทางกรรมการว่า จัดระบบยังไง
" ผมคิดว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า พยายามจะลากมาเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดนิรโทษกรรม แต่ทุกอย่างต้องทำตรงไปตรงมา พวกผมให้ความร่วมมือเต็มที่ และไม่เคยกดดัน จึงอยากให้ชี้แจงว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่รองนายกฯ บอกได้ล่วงหน้า ฟันธงเรียบร้อย ทั้งที่ยังไม่มีการไปให้ข้อเท็จจริงเลย ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอย่างตรงไปตรงมา ตัวเจ้าหน้าที่ก็จะมีปัญหาเอง เพราะฝ่ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องใช้สิทธิ์ด้านอื่น ผมคิดว่าการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม มีลักษณะชี้นำมากขึ้นทุกวัน จึงอยากให้ระมัดระวังด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเร่งรัดดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะเป็นแรงกดดันให้ต้องเห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนิรโทษกรรม เป็นคนละเรื่องกัน เพราะคนที่คัดค้านเรื่องนี้ ไม่ได้ดูว่าผลประโยชน์จะตกอยู่กับใคร แต่ดูผลประโยชน์ส่วนรวม ว่า มีความเหมาะสมแค่ไหน จะกระทบกับระบบกฎหมาย ระบบนิติรัฐอย่างไร เรื่องนี้คณะกรรมการต่างๆ ก็ยังทำงานไม่เสร็จ ควรให้คนเหล่านี้ทำงานไปก่อน
ต่อข้อถามที่ว่า การที่รัฐบาลเร่งทำเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ควบคู่ไปกับการกดดันในทางคดี จะมีผลอะไรในทางสังคมบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีความพยายามจะบอกว่า ต้องทำเรื่องนี้ไม่อย่างนั้นจะไม่จบ แต่ตนอยากให้เข้าใจว่า การทำเรื่องนี้โดยไม่มีความชัดเจนในเหตุผลที่จะรองรับให้เป็นที่ยอมรับได้ของสังคม มีแต่จะสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ ปัญหาหลายครั้งที่ผ่านมาคนมองที่ตัวบุคคลว่า ใครเกี่ยวข้องอย่างไร และดูประโยชน์ตรงนั้นแทนที่จะดูภาพรวมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นกับส่วนรวมควรแก้ไขอย่างไร ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และจะคัดค้านถึงที่สุด เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาให้ส่วนรวม แต่เป็นเรื่องของบุคคล
ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดง เริ่มเคลื่อนไหวโดยประกาศจะรวมมวลชน 1 แสนเพื่อสนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใครอยากแสดงออกว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ควรเคลื่อนไหวในลักษณะทำให้เกิดความรู้สึกว่า มีการคุกคาม หรือมีผลกระทบต่อคนที่มีหน้าที่ที่ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา การใช้มวลชนกดดันมีแต่จะกระทบความน่าเชื่อถือในการทำงานของทุกหน่วยงาน ขณะนี้ต้องเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล น่าจะทำในสิ่งที่ทำให้เกิดความมั่นใจความน่าเชื่อถือมากกว่า

** ข้องใจDSIทบทวนนปช.หมิ่นในหลวง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีเอสไอ กำลังจะทบทวนคดีแกนนำ นปช.ปราศรัยหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะทำให้เกิดปัญหาตามมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องมีคำตอบว่า เหตุผลคืออะไร ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า กระบวนการยุติธรรมในช่วงต้นน้ำเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายผู้มีอำนาจเข้าไปกำหนดได้ ซึ่งจะเป็นอันตราย และตนมีความเป็นห่วงว่า ที่รัฐบาลพยายามเดินอยู่ในขณะนี้ จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้น เพราะขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมประชนต้องการเห็นความสามัคคีให้ประเทศเดินหน้า แต่น้ำยังไม่ทันลด รัฐบาลก็หยิบประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งขึ้นมา ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์กับใคร
ต่อข้อถามที่ว่า หากยังดำเนินการเช่นนี้ หลังน้ำลด แทนที่บ้านเมืองจะสงบจะกลายเป็นลุกเป็นไฟหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ ซึ่งในที่ประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า มีกรรมการหลายคนบอกว่า ถ้าต้องการให้เกิดควมสงบ ความปรองดองมันมีหลายเรื่องที่ต้องทำ และลดความขัดแย้งได้ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการระดมทุกภาคส่วนมาฟื้นฟูประเทศหลังประสบภัยครั้งใหญ่ จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย หลีกเลี่ยงการนำเอาประเด็นปัญหาและเป็นผลประโยชน์ของคนเพียงบางกลุ่มขึ้นมา

** ตร.ยันเรียก"มาร์ค-เทือก"สอบวันนี้

ด้านพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ของเจ้าหน้าที่รัฐช่วงเดือนเม.ย.–พ.ค. 53 เปิดเผยว่า สำนวนคดีที่ทางบชน. ดำเนินการสอบสวนใหม่ทั้งหมด มีอยู่ 16 คดี โดยมีความคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซนต์แล้ว 12 คดี และอีก 4 คดี ขณะนี้ได้รวบรวม และส่งต่อไปให้อัยการพิจารณา
ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เรียกเข้ามาสอบปากคำเกือบจะทั้งหมดแล้ว ซึ่งเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยคาดว่าสำนวนคดีที่เหลือ จะสอบสวนแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ธ.ค.นี้
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ อดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ (ศอฉ.) โดยเชิญมาให้ข้อมูลในวันนี้ ( 2 ธ.ค.) ในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา ส่วนทางด้านบชน.ได้มีการจัดเตรียมห้อง เพื่อสอบปากคำบุคคลทั้งสองไว้แล้ว โดยเชิญนายอภิสิทธิ์ มาในเวลา 10.00 น. และนายสุเทพ เชิญมาในเวลา 14.00 น.
รองผบช.น. กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องเรียกทั้ง 2 คน มาสอบปากคำนั้น เป็นเพราะในคดีของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมฯ ที่ผ่านมา ทางศาลอาญาใต้ระบุว่า ข้อมูลยังไม่รัดกุมพอ จึงต้องขอสอบปากคำเพิ่มเติม

**เย้ย"มาร์ค"อย่าปากกล้า ขาสั่น

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนได้เรียกนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ไปให้ปากคำ กรณี 91 ศพในวันนี้ ว่า นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าเรื่องดังกล่าวมีการแทรกแซง กดดันจากฝ่ายการเมือง แต่นายอภิสิทธิ์ เคยพูดเองว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ดังนั้นต้องให้ความร่วมมือ ทำอะไรไว้ต้องยอมรับ สมัยเป็นนายกฯ มีคนตายถึง 91 คน จะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ การกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงนั้น ยืนยันว่าไม่มีแน่ คนเคยเป็นถึงนายกฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน คงไม่มีใครไปแทรกแซง กดดันให้ร้ายนายอภิสิทธิ์ได้ การพูดของนายอภิสิทธิ์น่าจะเป็นการตีตนไปก่อนไข้ ย้ำแล้วย้ำอีกว่าตัวเองบริสุทธิ์ แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ เคารพกระบวนการยุติธรรม อย่าออกอาการหวั่นไหวจนเกินเหตุ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องตกใจ ถ้าเป็นทองแท้ก็อย่ากลัวไฟลน เพียงแต่ตนกลัวว่าจะเป็นของปลอมเท่านั้น ทั้งนี้ทราบว่าจะมีการขอเลื่อนการให้ปากคำ โดยอ้างว่าถูกกดดัน ตนไม่อยากให้ทำเช่นั้น เพราะประชาชนจะมองว่าปากกล้า แต่ขาสั่น
กำลังโหลดความคิดเห็น