ส.ส.สุราษฎร์ธานี ปชป. รับครัวชาวใต้ทำอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยเฉลี่ยวันละหมื่นกล่อง ใช้ข้าวสาร 120 ตัน งบไม่อั้นเพราะเป็นเงินบริจาค หวังน้ำท่วมใหญ่เป็นบทเรียนคนไทยรับมือภัยพิบัติ เผยกังวลเยียวยา ชี้ถุงยังชีพหมดอายุโหดร้าย จี้รัฐสอบ ยันเงินแค่ 5 พันชาวอะไรไม่ได้มาก แนะชดเชยตามความเป็นจริง ติงปิด ศปภ.ยันงานยังไม่เสร็จ
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดโรงครัวชาวใต้น้ำใจช่วยน้ำท่วมของพรคประชาธิปัตย์ว่า ปัจจุบันนี้ยังมีผู้ประสบภัยที่เดือดร้อนในบางพื้นที่ โดยเฉลี่ยแล้วขณะนี้ทำอาหารเลี้ยงกว่า 10,000 กล่องส่งไปให้ ซึ่งเมื่อน้ำลดลง ประชาชนไม่จำเป็นต้องพึ่งเราแล้วก็จะปิดโรงครัว โดยตนจะประเมินสถานการณ์จนถึงวันที่ 10 ธ.ค. จากนั้นก็จะประเมินอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค.เป็นช่วงๆ ไป และตอนนี้เหลือโรงครัวอยู่ทั้งหมด 3 แห่งจากทั้งหมด 20 กว่าแห่ง ตรงไหนที่น้ำลดประชาชนช่วยตัวเองได้แล้วเราก็ปิด แต่ครัวส่วนกลางที่พรรคยังเปิดอยู่คอยช่วยในจุดที่ลำบากและมาขอความช่วยเหลือ
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ในเรื่องของงบประมาณค่าใช้จ่ายคงจะไม่มีการสรุป เพราะเราไม่ได้เอางบของใครมา แต่เป็นเงินของพวกเราชาวใต้ที่มาช่วยคน กทม.ช่วยเหลือกันไป บางคนก็ช่วยเหลือเรื่องข้าวสารที่ตอนนี้เราใช้ไปกว่า 120 ตัน บางคนก็ให้กุ้ง ให้ผัก รวมทั้งมีอาสาสมัครมาช่วยทำครัว ก็น่าชื่นชมที่คนไทยมีน้ำใจ ห่วงใยซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะมาร่วมแบ่งปันบรรเทาความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นจุดอ่อนของรัฐบาลในการช่วยผู้ประสบภัยอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่อยากวิจารณ์รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ เพราะถือว่าเวลาแบบนี้ใครช่วยอะไรได้ก็ช่วย ไม่ประสงค์จะไปตำหนิใคร แต่คิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับคนไทย ประเทศไทย และรัฐบาล เราคงต้องมีแผนที่รัดกุมมากกว่านี้ในการรับมือภัยพิบัติขนาดใหญ่ว่าจะดูแลประชาชนอย่างไร ทั้งนี้ สิ่งที่ตนกังวลใจตอนนี้คือ เราจะเยียวยาความเสียหายอย่างไร เมื่อถามว่า นอกจากจะมมีความชัดเจนเรื่องเยียวยาแล้ว ล่าสุดนำของหมดอายุใส่ในถุงยังชีพนำไปให้กับประชาชนที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเกิดขึ้นจริงมันโหดร้ายไปหน่อย เพราะคนกำลังมีความทุกข์ เหมือนกับเป็นการซ้ำเติม รัฐบาลควรตรวจสอบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นคนทำ ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนเคยอภิปรายในสภา และเสนอไปหลายอย่างว่าควรจะดูแลประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอย่างไร โดยเฉพาะที่รัฐบาลบอกว่าจะช่วยเหลือเงิน 5,000 บาทนั้น ในสภาพความเป็นจริงนั้นไม่พอ เพราะประชาชนที่ถูกน้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ท่วมมา 2-3 เดือนแล้วยังไม่แห้ง เงิน 5,000 บาทจะไปช่วยอะไรได้ ตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลชดเชยตามความเป็นจริง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในจังหวัดเหล่านี้ รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในเขตที่ทวีวัฒนา รังสิต เมืองเอก ดอนเมือง ถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละเพราะร่วมมือกับรัฐบาลในการป้องกันไม่ให้ กทม.ชั้นในน้ำท่วม ดังนั้น ต้องเยียวยาให้เป็นพิเศษ ซึ่งหวังว่ารัฐบาลจะนำไปพิจารณา
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า ศปภ.เตรียมที่จะปิดตัวนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์ขณะนี้งานของ ศปภ.ยังไม่เสร็จสิ้น ไม่ใช่ว่าน้ำลดแล้วจบกัน แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องทำหลังจากน้ำลดแล้วมากกว่าตอนที่น้ำยังท่วมอยู่คือ การเยียวยา ฟื้นฟูบ้านเรือนและไร่นาต่างๆ ของประชาชน ต้องทำอย่างมีแผน ควรระดมกำลังมาทำสิ่งนี้