“มาร์ค” ชี้ “ใจ” ปลุกแดงตามแนวทางตน ซัดรัฐเมินเบรกพวกป่วนชาติ เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ถ้าทำจริงก็ทำได้ เตือน “ณัฐวุฒิ” อย่าเอามวลชนกดดันทำบ้านเมืองไร้ขือแป ฉะรัฐไม่ทำอะไรรังแต่สร้างความเดือดร้อนเพิ่ม ถามคืนพาสปอร์ต “นช.แม้ว” สำคัญกว่าแก้น้ำท่วมหรือชี้ถ้าช่วยคนหนีคดีก็ต้องมีมาตรฐานให้เหมือนกัน
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ จ.สุโขทัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ นายใจ อึ๊งภากรณ์ ผู้ต้องหาหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการตั้งกลุ่มแดงก้าวหน้าเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของประเทศ ว่า ความคิดของนายใจ เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่ามีแนวคิดและเป้าหมายอะไร ตนเชื่อว่า ในกลุ่มของคนเสื้อแดงเองมีความคิดเห็นที่หลากหลาย นายใจล์ คงมองว่าหลายอย่างที่ทำอยู่ยังไม่ตรงกับความคิดของเขา จึงชักชวนเรียกร้องให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ แต่ตนคิดว่า รัฐบาลในฐานะที่สนับสนุนคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ต้น ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ปัญหาของบ้านเมืองในขณะนี้สิ่งที่ควรได้รับการแก้ไข คือ การทำงานตามระบบ ส่วนประเด็นความไม่เป็นธรรมควรให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการ อะไรบกพร่องก็แก้ไขตามกระบวนการขั้นตอน ไม่ควรมีการแบ่งแยกประชาชน หรือทำให้เกิดควมแตกแยก ความวุ่นวายสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงไม่ใช่สิ่งที่สังคมต้องการ ซึ่งรัฐบาลอยู่ในฐานะที่จะชี้นำหรือขอร้องคนเหล่านี้ได้ แต่เราไม่เคยได้ยินสิ่งเหล่านี้จากรัฐบาลเลย
“ผมคิดว่า ถ้าคุณยิ่งลักษณ์จะทำจริงๆ ก็หยุดคนเหล่านี้ได้ เพราะเป็นหนึ่งในบุคคลที่สนับสนุนคนเหล่านี้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ก็มีการชุมนุมสนับสนุนทางการเมือง ก็อยู่ในฐานะที่พูดคุยได้ และความจริงทุกคนก็มีส่วนทำได้ โดยเฉพาะในวันที่เราบอกว่าทำอย่างไรให้เกิดความปรองดองทุกคนก็ต้องทำเต็มที่เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมทำทุกมิติเพื่อช่วยเหลือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย ที่ถูก กกต.ลงมติให้ขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรต่อสู้ในทางกฎหมาย นายจตุพร มีสิทธิ์โต้แย้งทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในคำวินิจฉัยที่เกิดขึ้น แต่ไม่ควรมีการต่อสู้รูปแบบอื่น เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็หมายความว่าต่อไปนี้ใครถูกกล่าวหาอะไรก็มีสิทธิ์ใช้การต่อสู้ในทุกรูปแบบเท่ากับบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่มีขื่อไม่มีแป ไม่มีกติกากลายเป็นเรื่องการนำมวลชนมากดดันอยากทำอะไรก็ได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้สังคมก็อยู่กันยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำให้กฎหมายอยู่เหนือกฎหมู่ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงออกให้ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะขณะนี้รัฐบาลไม่พยายามทำเลยสะท้อนได้จากการบริหารเรื่องน้ำ ที่ ศปภ.ไม่ทำอะไรในการชี้ให้เห็นว่าการแก้ปัญหาเป็นเรื่องของส่วนรวม กลับปล่อยให้เป็นเรื่องของมวลชนและการต่อรองกดดันไปเรื่อยๆ ตนคิดว่า รัฐบาลกำลังสร้างปัญหาและความเดือดร้อนเพิ่มเติมจากการไม่ทำอะไรให้ชัดเจนในรูปแบบที่ควรจะเป็น ความจริงแล้วนายกและรัฐบาลน่าจะอยากให้การบริหารบ้านเมืองราบรื่น แต่แนวทางที่ทำอยู่ตรงกันข้าม ซึ่งโดยธรรมชาติพี่น้องคนไทยอยากรวมจิตใจเมื่อเกิดปัญหาภัยธรรมชาติแต่รัฐบาลกลับสร้างเงื่อนไขความแตกแยกให้เกิดขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เตรียมคืนพาสปอร์ตแดงให้พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีดินรัชดา ภายในสิ้นปีนี้ ว่า เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามที่จะทำให้เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญกว่าการฟื้นฟูน้ำท่วมหรืออย่างไร ผลกระทบของชาวบ้านที่รอการเยียวยาเพิ่มเติม รอความหวังว่าการฟื้นฟู และการป้องกันในอนาคตจะเป็นอย่างไร ภาคธุรกิจต้องการความเชื่อมั่น แต่รัฐบาลกลับซ้ำเติมด้วยการหยิบยกเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเทียบสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประโยชน์จากรัฐบาลชุดนี้กับการดูแลประชาชนของรัฐบาลมีความแตกต่างกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ควรต้องเปรียบเทียบกันมาตั้งแต่ต้น ทำไมรัฐบาลต้องสาละวนอยู่กับเรื่องของคนๆ เดียว ทำไม ครม.ไม่ส่งสัญญาณให้ชัดเจนเด็ดขาดว่าวันนี้ทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่แทนการหาช่องทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงอย่างเดียว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงหลักการถือพาสปอร์ตแดงว่ามีหลักเกณฑ์ของกระทรวงการต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ต้องเข้าใจข้อเท็จจริงว่าในกรณีที่มีคนไทยหนีคดี จะปฏิบัติกับคนเหล่านี้อย่างไรก็ต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน ส่วนการคืนพาสปอร์ตแดงให้พันตำรวจโท ทักษิณ จะมีเหตุผลอย่างไรเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศต้องชี้แจง