นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การคืนพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าสิ่งที่ตนข้องใจคือ หากรัฐบาลยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำไมต้องพยายามบิดเบือน และที่บอกเตรียมจะให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาส ปีใหม่ ทำไมเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ที่สำคัญคือ สถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษหลบหลบหนีคดี คำถามคือมีรัฐไหนบ้างที่ต้องอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ที่กำลังหนีคดี
ส่วนที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้เรื่องนี้ แล้วใครเป็นคนไปขอหนังสือเดินทาง ทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงความมีพิรุธ ซึ่งที่สุดก็มีการออกมายอมรับกลายๆ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีการแสดงเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม หวังว่าจะจุดทางให้ผู้มีอำนาจต้องไปทบทวนว่า ยังยืนยันว่าจะออกหรือไม่ เพราะมีกฎมีระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องท้าทายเพราะเป็นเรื่องเราจับตา และเตรียมการอยู่แล้ว
" เบื้องต้นผู้มีอำนาจทั้งหลายตามสายงานที่จะต้องอนุมัติหนังสือเดินทาง เพราะฉะนั้นฝ่ายข้าราชการประจำ ก็คงหลีกหนีความรับผิดชอบไปยาก แต่ต้องดูว่าการดำเนินการที่ผิดปกติ มันมีปัญหาเชิงนโยบายหรือเปล่า โดยเฉพาะคำพูดของรมว.ต่างประเทศ ที่บอกว่าจะให้เป็นของขวัญนั้น ชัดยิ่งกว่าชัดอยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายการเมืองปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และอีกขั้วหนึ่งก็จะเป็นคนรู้ทุกเรื่อง พูดทุกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องในหน้าที่ แต่อีกขั้วหนึ่งก็คือท่านนายกฯบอกไม่รู้เลยสักเรื่อง"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชาของรมว.ต่างประเทศ ต้องแสดงจุดยืนออกมา จะเอาอย่างไร เพราะฉะนั้นต้องไล่ดูความรับผิดชอบก็จะไล่กันไปเป็นทอดๆ ตอนแรกบอกว่าไม่ทราบ ก็ต้องยกประโยชน์ให้ แต่เมื่อมันมีปัญหาขึ้นมาแล้ว และก็ถูกซักถามก็ต้องเข้าไปแก้ไข หรือต้องพูดออกมาตรงๆ เลยว่าเห็นชอบกับการออกหนังสือเดินทาง จะบอกว่าไม่รู้ไปเรื่อยๆ คงไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ประเด็นไม่ใช่เรื่องการเพิกถอนหนังสือเดินทาง แต่อยู่ที่การขอ และออกหนังสือเดินทางฉบับใหม่ ตนมั่นใจว่าคดีของกำนันเป๊าะ หรือคนอื่น ๆ ถ้าขอหนังสือเดินทางมารัฐบาลชุดที่แล้ว ก็คงไม่อนุมัติให้
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รับทราบกรณีกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือเดินทางให้ ทั้งๆ ที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นคำร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ จึงออกหนังสือเดินทางให้ในวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งนายนพดล ไม่ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ แต่กลับบิดเบือนประเด็น กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะเป็นรัฐบาลว่า มีการถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ แบบไม่เป็นธรรม เพราะไม่ได้ถอนพาสปอร์ต กำนันเป๊าะ และนายวัฒนา อัศวเหม ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก และหนีคดีอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า นายนพดล มีปัญหาในเรื่องความเข้าใจด้านกฎหมาย จนไม่น่าเชื่อว่าจะจบกฎหมายจากอ๊อกฟอร์ด
" ผมเคยคิดว่า คุณนพดลแกล้งโง่ แต่วันนี้ผมเชื่อแล้วว่า คุณนพดลไม่ได้แกล้ง การเพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ใช้ระเบียบกระทรวง ข้อ 23 (7) เกี่ยวกับการเดินทางของบุคคลในต่างประเทศ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง ซึ่งทั้ง กำนันเป๊าะ และ นายวัฒนา ไม่ได้มีพฤติกรรมในลักษณะที่จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ จากการเดินทางเหมือที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำ จึงไม่มีการเพิกถอนพาสปอร์ต ตามข้อ 23 วงเล็บ 7 ส่วนการจะคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ต้องใช้ระเบียบข้อ 21 ซึ่งระบุชัดว่า ผู้ที่ต้องคดีมีหมายจับอยู่ในเงื่อนไขที่กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ออกหนังสือเดินทางให้ ถ้าคุณนพดล นำเรื่องกำนันเป๊าะ และนายวัฒนา มาเปรียบเทียบต้องถามกระทรวงการต่างประเทศ ว่า วันนี้ถ้าบุคคลทั้งสองทำเรื่องขอหนังสือเดินทาง จะอนุมัติออกหนังสือเดินทางเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นอยู่ในขณะนี้หรือไม่ " นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ยังตำหนิ นายนพดล ที่กล่าวอ้างถึงคำชี้แจงของ นายสิทธิศักดิ์ วนชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม ที่ระบุว่า ศาลไม่ได้มีหน้าที่ในการห้ามกระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ใคร เพราะการออกหนังสือเดินทางเป็นหน้ที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบของกระทรวง โดยนำมาบิดเบือนว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งห้ามออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ความจริง อำนาจการออกหนังสือเดินทางเป็นของกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกศาลยุติธรรม ก็ระบุชัดว่า กระทรวงจะต้องปฏิบัติตามระเบียบที่มีอยู่ ซึ่งในกรณีนี้กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ทำตามระเบียบกระทรวง มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
" ที่สำคัญคือ นอกจากทำผิดระเบียบกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ยังมีหนังสือจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำหน่งทางการเมือง ยืนยันสถานะความเป็นผู้ต้องหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ สตช. และ กระทรวงการต่างประเทศ ก็เคยส่งหมายจับกุมขอจับกุมตัวชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ ไปยังหลายประเทศ เป็นหนังสือยืนยันสถานะของทักษิณ ในฐานะนักโทษหนีคดีอย่างชัดเจน และหนังสือเหล่านี้ ก็อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ถ้าจะไปทำลายก็รีบทำให้ทัน เพราะจะมีคนส่งหนังสือดังกล่าวให้ผมภายในวันนี้ คุณสุรพงษ์ ไม่ต้องท้าครับ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าทางกฎหมายเพื่อเนินคดีกับ คนที่ทำผิดกฎหมายแน่ และให้ระวังตัวเอาไว้ว่า การรับใช้นายใหญ่อย่างไม่ลืมหูลืมตาจะทำให้ติดคุกติดตารางในอนาคต" นายชวนนท์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังเรียกร้องให้อัยการสอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ถึงที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุในพาสปอร์ต เพื่อจะได้นำมาเป็นหลักฐานในการทำหนังสือขอจับกุมตัวชั่วคราวไปยังประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ หากไม่มีการดำเนินการก็ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้เรื่องนี้ แล้วใครเป็นคนไปขอหนังสือเดินทาง ทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงความมีพิรุธ ซึ่งที่สุดก็มีการออกมายอมรับกลายๆ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีการแสดงเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม หวังว่าจะจุดทางให้ผู้มีอำนาจต้องไปทบทวนว่า ยังยืนยันว่าจะออกหรือไม่ เพราะมีกฎมีระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องท้าทายเพราะเป็นเรื่องเราจับตา และเตรียมการอยู่แล้ว
" เบื้องต้นผู้มีอำนาจทั้งหลายตามสายงานที่จะต้องอนุมัติหนังสือเดินทาง เพราะฉะนั้นฝ่ายข้าราชการประจำ ก็คงหลีกหนีความรับผิดชอบไปยาก แต่ต้องดูว่าการดำเนินการที่ผิดปกติ มันมีปัญหาเชิงนโยบายหรือเปล่า โดยเฉพาะคำพูดของรมว.ต่างประเทศ ที่บอกว่าจะให้เป็นของขวัญนั้น ชัดยิ่งกว่าชัดอยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายการเมืองปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และอีกขั้วหนึ่งก็จะเป็นคนรู้ทุกเรื่อง พูดทุกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องในหน้าที่ แต่อีกขั้วหนึ่งก็คือท่านนายกฯบอกไม่รู้เลยสักเรื่อง"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชาของรมว.ต่างประเทศ ต้องแสดงจุดยืนออกมา จะเอาอย่างไร เพราะฉะนั้นต้องไล่ดูความรับผิดชอบก็จะไล่กันไปเป็นทอดๆ ตอนแรกบอกว่าไม่ทราบ ก็ต้องยกประโยชน์ให้ แต่เมื่อมันมีปัญหาขึ้นมาแล้ว และก็ถูกซักถามก็ต้องเข้าไปแก้ไข หรือต้องพูดออกมาตรงๆ เลยว่าเห็นชอบกับการออกหนังสือเดินทาง จะบอกว่าไม่รู้ไปเรื่อยๆ คงไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ประเด็นไม่ใช่เรื่องการเพิกถอนหนังสือเดินทาง แต่อยู่ที่การขอ และออกหนังสือเดินทางฉบับใหม่ ตนมั่นใจว่าคดีของกำนันเป๊าะ หรือคนอื่น ๆ ถ้าขอหนังสือเดินทางมารัฐบาลชุดที่แล้ว ก็คงไม่อนุมัติให้
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รับทราบกรณีกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือเดินทางให้ ทั้งๆ ที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นคำร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ จึงออกหนังสือเดินทางให้ในวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งนายนพดล ไม่ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ แต่กลับบิดเบือนประเด็น กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะเป็นรัฐบาลว่า มีการถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ แบบไม่เป็นธรรม เพราะไม่ได้ถอนพาสปอร์ต กำนันเป๊าะ และนายวัฒนา อัศวเหม ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก และหนีคดีอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า นายนพดล มีปัญหาในเรื่องความเข้าใจด้านกฎหมาย จนไม่น่าเชื่อว่าจะจบกฎหมายจากอ๊อกฟอร์ด
" ผมเคยคิดว่า คุณนพดลแกล้งโง่ แต่วันนี้ผมเชื่อแล้วว่า คุณนพดลไม่ได้แกล้ง การเพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ใช้ระเบียบกระทรวง ข้อ 23 (7) เกี่ยวกับการเดินทางของบุคคลในต่างประเทศ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง ซึ่งทั้ง กำนันเป๊าะ และ นายวัฒนา ไม่ได้มีพฤติกรรมในลักษณะที่จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ จากการเดินทางเหมือที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำ จึงไม่มีการเพิกถอนพาสปอร์ต ตามข้อ 23 วงเล็บ 7 ส่วนการจะคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ต้องใช้ระเบียบข้อ 21 ซึ่งระบุชัดว่า ผู้ที่ต้องคดีมีหมายจับอยู่ในเงื่อนไขที่กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ออกหนังสือเดินทางให้ ถ้าคุณนพดล นำเรื่องกำนันเป๊าะ และนายวัฒนา มาเปรียบเทียบต้องถามกระทรวงการต่างประเทศ ว่า วันนี้ถ้าบุคคลทั้งสองทำเรื่องขอหนังสือเดินทาง จะอนุมัติออกหนังสือเดินทางเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นอยู่ในขณะนี้หรือไม่ " นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ ยังตำหนิ นายนพดล ที่กล่าวอ้างถึงคำชี้แจงของ นายสิทธิศักดิ์ วนชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม ที่ระบุว่า ศาลไม่ได้มีหน้าที่ในการห้ามกระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือเดินทางให้ใคร เพราะการออกหนังสือเดินทางเป็นหน้ที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบของกระทรวง โดยนำมาบิดเบือนว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งห้ามออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ความจริง อำนาจการออกหนังสือเดินทางเป็นของกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกศาลยุติธรรม ก็ระบุชัดว่า กระทรวงจะต้องปฏิบัติตามระเบียบที่มีอยู่ ซึ่งในกรณีนี้กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ทำตามระเบียบกระทรวง มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
" ที่สำคัญคือ นอกจากทำผิดระเบียบกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ยังมีหนังสือจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำหน่งทางการเมือง ยืนยันสถานะความเป็นผู้ต้องหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ สตช. และ กระทรวงการต่างประเทศ ก็เคยส่งหมายจับกุมขอจับกุมตัวชั่วคราว พ.ต.ท.ทักษิณ ไปยังหลายประเทศ เป็นหนังสือยืนยันสถานะของทักษิณ ในฐานะนักโทษหนีคดีอย่างชัดเจน และหนังสือเหล่านี้ ก็อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ถ้าจะไปทำลายก็รีบทำให้ทัน เพราะจะมีคนส่งหนังสือดังกล่าวให้ผมภายในวันนี้ คุณสุรพงษ์ ไม่ต้องท้าครับ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าทางกฎหมายเพื่อเนินคดีกับ คนที่ทำผิดกฎหมายแน่ และให้ระวังตัวเอาไว้ว่า การรับใช้นายใหญ่อย่างไม่ลืมหูลืมตาจะทำให้ติดคุกติดตารางในอนาคต" นายชวนนท์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังเรียกร้องให้อัยการสอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ถึงที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุในพาสปอร์ต เพื่อจะได้นำมาเป็นหลักฐานในการทำหนังสือขอจับกุมตัวชั่วคราวไปยังประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ หากไม่มีการดำเนินการก็ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
