xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชำแหละถุงยังชีพ-พ.ร.ฎ.ลับลวงเล่ห์ เชื่อ “เหลิม” สับขาหลอกจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม รัฐมนตรีหนึ่งเดียวที่ถูกอภิปรายในครั้งนี้
ประธานสภาฯ เชื่อศึกซักฟอกเสร็จคืนนี้ตามกำหนด เหตุฝ่ายค้านวางคิวอภิปรายเพียง 10 คน ด้าน “ขวัญชัย” เกณฑ์เสื้อแดงอีสานเชียร์ “ประชา” เพียบ “จุรินทร์” เปิดฉากชำแหละถุงยังชีพไม่โปร่งใส พร้อมชี้พิรุธออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ฉบับ “ลับ-ลวง-เล่ห์” เชื่อ “เฉลิม” สับขาหลอกจริง เพราะโดนจับได้เลยต้องกลับลำ



วันนี้ (27 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ว่า ตนยืนยันว่าการอภิปรายจะให้เสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนดภายใน 24.00 น. และลงมติไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีการอภิปรายรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และฝ่ายค้านก็เตรียมผู้อภิปรายไว้เพียง 10 คนเท่านั้น ทั้งหากมีการพาดพิงบุคคลอื่นแต่อยู่ในข้อบังคับและไม่เป็นจงใจก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องยึดข้อบังคับการประชุมฯ เป็นหลัก

ด้าน พล.ต.อ.ประชากล่าวถึงการอภิปรายวันนี้ว่า จะให้พรรคฝ่ายค้านถามก่อนและตนจะชี้แจง อย่างไรก็ตาม ก่อนการเข้าประชุมสภา พล.ต.อ.ประชาได้ไปพบกับกลุ่มเสื้อแดงอุดรธานีที่เดินทางมาให้กำลังใจด้านหน้ารัฐสภาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ส่วนบรรรยากาศที่รัฐสภาเช้าวันนี้ ส.ส.เริ่มทยอยกันเดินทางมาแต่เช้า โดยส.ส.คนแรกที่เดินทางมาถึง คือนายวิรัตน์ ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งยังมีกลุ่มต่างๆ เดินทางมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ประชา โดยมีกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านจากจังหวัดในภาคอีสาน เช่น จังหวัดยโสธร จังหวัดนครพนมร่วม 100 คน อีกทั้งยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงชมรมเสียงสตรีจากจังหวัดอุดรธานีประมาณ 50 คนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย นอจากนี้ ยังบริจาคข้าวสารอาหารแห้งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุกทัย ขณะที่กลุ่มสหพันธ์ครูจาก 16 จังหวัดภาคเหนือ ประมาณ 400 คน ได้นำข้าวสารอาหารแห้งและผักสด จำนวนกว่า 20 คันรถ มามอบให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยผ่านนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อไป

สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษวันนี้ เป็นการพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยในญัตติระบุว่า พล.ต.อ.ประชา กระทำการทุจริต จงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายบริหารราชการแผ่นดินบกพร่องล้มเหลว และละเลยให้มีการทุจริตบริหารราชการแผ่นดิน โดยขาดคุณธรรม และขาดหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่ม ทำให้ประชาชนเดือดร้อน นำไปสู่ความแตกแยกรุนแรง โดยฝ่ายค้านจะเน้นการอภิปรายถึงบทบาทหน้าที่ของ พ.ต.อ.ประชา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เป็นหลัก ทั้งการทุจริตคอร์รัปชัน และการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการจัดซื้อถุงยังชีพ และอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งการมีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ส.ให้ดูแลจัดการเรื่องถุงยังชีพ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นต้น นอกจากนี้ ฝ่ายค้านจะมุ่งเน้นโจมตีในประเด็นการตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในเวลาประมาณ 09.40 น. การอภิปรายได้เริ่มขึ้น โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มาร่วมฟังการอภิปรายด้วย โดยการอภิปรายเริ่มจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้่าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้เปิดการอภิปรายว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประชา เพราะได้พบมีการกระทำทุจริต จงใจผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย บริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ล้มเหลวปล่อยให้มีการทุจริต บริหารขาดความยุติธรรม และนิติรัฐเพื่อให้บุคคลบางกลุ่มเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทำให้ชาติเสียหาย ในส่วนของฐานะ ผอ.ศปภ.พบว่า มีการบริหารงานที่บกพร่องล้มเหลวในทุกมิติ ทั้งในการจัดการน้ำ เงิน คนและสิ่งของบริจาค รู้เห็นเป็นใจให้นักการเมือง หาผลประโยชน์โดยทางนิตินัยและพฤตินัย โดยการประเมินสถานการณ์น้ำมีความผิดพลาด เหมือนกันการบริหารสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการพูดว่า “เอาอยู่ทุกครั้ง” แต่กลับทำให้น้ำท่วมทุกพื้นที่ เพราะมีความคิดว่าเหมือนเป็นการทำการตลาดแล้วประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจนสถานการณ์น้ำบานปลาย ต่อมามีการตั้ง ศปภ.เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2554 ซึ่งทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแต่งตั้งรมว.ยุติธรรมเข้ามาทำหน้าที่ แต่สุดท้ายก็พบว่ามีเหตุผลเดียว คือ “ต้องการกระจายน้ำทุกพื้นที่อย่างยุติธรรม”

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ความชัดเจนของความล้มเหลวของศปภ. ซึ่งดูได้จากประเทศใกล้เคียงประสบปัญหาพายุถล่มเช่นเดียวกับประเทศไทยแต่ไม่มีความเสียหายเทียบเท่า การระบายน้ำลงทะเลมี 3 ทาง แต่กลับให้มีการปล่อยน้ำเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพียงเส้นทางเดียว เพราะมีการปล่อยให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยทุกคนต่างปกป้องพื้นที่ของตัวเอง ขณะที่นักวิชาการที่มีความรู้กลับให้ไปนั่งทำงานอยู่แถวหลัง

นอกจากนี้ได้พบเอกสารชิ้นเล็กๆ ที่สะท้อนปัญหาการทำงานของศปภ.ไม่มีประสิทธิภาพ คือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำลงทะเล ที่มีนายวัลลภ ยันตรง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กลุ่มบ้านเลขที่ 111 ซึ่งเป็น ส.ส.ในด้านตะวันออก แต่กลับไม่ยอมบริหารจัดการน้ำลงในพื้นที่ของตัวเอง หรือการออกคำสั่งที่ไม่ชัดเจนโดยมีการเปลี่ยนคำสั่งในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งการจัดตั้งบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมืองสูงมาอยู่ในกรรมการศปภ.ที่มีตำแหน่งต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น พล.ต.อ.ประชา เป็น ผอ.ศปภ. แต่นายกรัฐมนตรีกลับมาเป็นรอง ผอ.ศปภ. เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการปรับเอาคนที่ไม่ใช่พวกของตัวเองออก เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ที่เดิมทีมีรองผู้ว่ากรุงเทพมหานครฯ แต่ภายหลังมีการปรับออก ซึ่งคำสั่งที่สะเปะสะปะ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อยากถามว่า การจัดทัพดังกล่าวจะไปรบกับน้ำได้อย่างไร

นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.ประชา ยังปล่อยให้ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยเข้าไปแทรกแซงการทำงานของหน่วยงานรัฐโดยมีการทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงๆ หนึ่งเพื่อมาช่วยงานใน ศปภ. ทั้งนี้ยังพบเอกสารการจัดซื้อเต็นท์ 700 หลังโดยมีใบสั่งของให้มาส่งที่ดอนเมือง อาคาร 2 พบว่าเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังพบว่าปล่อยให้ ส.ส.เข้าไปแทรกแซงพังคันดิน เปิดประตูระบายน้ำ อนุมัติของบริจาค ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ประจำ ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 และ มาตรา 266 โดยมี พล.อ.ประชา เป็นผู้ถูกแต่งตั้ง และลงนาม รายชื่อประกอบด้วย คือ 1.นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. 2. นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส. กทม.3. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ 4. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.อุตรดิสถ์ แม้ภายหลังนายประชาจะยกเลิกคำสั่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะพ้นความผิด เพราะความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งยังเป็นการแสดงว่า พล.ต.อ.ประชา ยอมรับผิดเพราะหากไม่ผิดจะมีคำสั่งยกเลิกได้อย่างไร

“ผมเห็นใจนายประชาที่อาจจะเมาหมัด ใครชงมาก็เซ็น แต่ท่านก็จะหนีความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะหลังจากนั้นยังมีการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยตั้งนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถือเป็นการกระทำความผิดซ้ำซาก”

นายจุรินทร์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ประชา บอกว่า การจัดซื้อได้ใช้เงินกองทุนจะปฏิเสธความรับผิดชอบเกี่ยวกับการทุจริตไม่ได้ เพราะศปภ.มีอำนาจในการบูรณาการทั้งหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชน โดยที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติงบประมาณจัดซื้อเรือ ให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และ สตช. รวมถึงการจัดซื้อน้ำมันเครื่อง แต่กลับบอกว่า ตัวเองไม่ได้อนุมัติเรื่องถุงยังชีพ และยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ แต่กลับมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถุงยังชีพ โดยให้สรุปผลภายใน3 วัน หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่กลับแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้อย่างไร และผลที่ตรวจสอบพบว่า ไม่มีการทุจริต แต่คนไทยทุกคนกลับเห็นว่าถุงยังชีพ ขนาด 800 บาท แพงทุกรายการ เมื่อแยกมาดูแล้วพบว่าของทุกชิ้นแพงกว่าราคาในท้องตลาด พล.ต.อ.ประชา ยอมรับผลการตรวจสอบได้อย่างไร หรือ พล.ต.อ.ประชา ไม่ใช่ตาถั่วอย่างเดียว ใจถั่วด้วย เพราะเป็นการหากินบนเงินกองทุนบริจาค ที่ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 2.5 พันล้านบาท โกงกระทั่งถุงยังชีพ ข้าว กินกระทั่งส้วม ขณะนี้น้ำเริ่มลด ตอเริ่มผุดแล้ว ถึงเวลาถอนรากถอนโคนผู้กระทำการทุจริต

นายจุรินทร์ยังกล่าวอภิปรายในส่วนของ รมว.ยุติธรรมในการออกร่าง พ.ร.ฎ. พระราชทานอภัยโทษ ว่า เดิมมีการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมราชทัณฑ์และเอารองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปทำหน้าที่แทน โดยเป็นคนที่มีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเป็นคนทำคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยการเปลี่ยนตัวดังกล่าวนั้น เพื่อหวังผลเพื่อช่วยเหลือบุคคลคนหนึ่ง เพราะหน่วยงานดังกล่าวเป็นต้นเรื่องในการดำเนินขอพระราชทานอภัยโทษ ก่อนที่ พล.ต.อ.ประชา จะนำเข้า ครม.แล้ว เป็นหลักการเดียวกับร่างฉบับที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอไปแล้ว คือ จะไม่ช่วยเหลือผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับการทุจริต ช่วยเหลือผู้ถูกจำคุกที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปแต่เมื่อนำเข้า ครม. กลับมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยพบพิรุธ 5 ข้อ ดังนี้ 1. ทำไมต้องมีการประชุมลับโดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการประชุม ครม.ออกจากห้องประชุม ทั้งที่แต่เดิมการพิจารณาร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่เคยทำเป็นเรื่องลับ อย่างมากก็เป็นวาระจร และขอเก็บเอกสารหลังการประชุม 2.ทำไมต้องห้ามไม่ให้ รมต.กล่าวกับบุคคลภายนอก 3. มีการตบตาให้นายกฯ เดินทางไปราชการที่จังหวัดสิงห์บุรีโดยค้างคืน อ้างว่าเฮลิคอปเตอร์ไม่มีเรด้าร์กลางคืน ทั้งที่ฝ่ายกองทัพยืนยันว่าสามารถบินได้ อีกทั้งเมื่อเดินทางกลับมาถึง กทม.ก็ไม่ยอมเข้าร่วมประชุม ครม. เป็นที่สังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้กับญาติพี่น้องของตนเองหรือไม่ 4. ทำไม พล.ต.อ.ประชา ไม่ยอมปฏิเสธข่าวตั้งแต่วันแรก รอให้ภาคประชาชนออกมาต่อต้านจึงกลับลำ 5.ทำไมต้องรอให้มีจดหมายจากต่างประเทศออกมาปฏิเสธเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ ก่อนที่ พล.ต.อ.ประชาจะออกมาแถลงว่าไม่มีการอะไร

ส่วนเรื่อง “สับขาหลอก” ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีการออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า “เรื่องการสับขาหลอก ผมเชื่อครับว่าท่านเฉลิมสับขาหลอกจริง เพราะท่านกำลังจะเลี้ยงเดี่ยวเข้าไปยิงประตู แต่มีคนมาขวาง จึงต้องกลับลำ 360 องศา หรือหยิบของไปแล้วถูกจับได้แล้วเอาไปคืน สุดท้ายจึงอยากตั้งคำถามว่า ระหว่างผลประโยชน์ประชาชนกับคนๆ เดียว รมว.ยุติธรรมจะเลือกใคร”นายจุรินทร์กล่าว

หลังจากนายจุรินทร์อภิปรายจบ ร.ต.อ.เฉลิมได้ลุกขึ้นพยายามชี้แจงว่า สิ่งที่นายจุรินทร์อภิปรายมาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง นายจุรินทร์คิดเอง รัฐบาลไม่ได้ทำ ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงกันไปมาระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล จนการอภิปรายไม่คืบหน้า

ขวัญชัยนำเสื้อแดงเข้ากรุงเชียร์ “ประชา”

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่าเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่อาณาจักรคนเสื้อแดง สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เมกะเฮิรตซ์ บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร พร้อมคนเสื้อแดง 400 คน ได้เตรียมเดินทางด้วยรถบัส รถ 6 ล้อ รวม 6 คัน เดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯ เพื่อไปให้กำลังใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และ ผอ.ศปภ.ที่พรรคฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ได้วางใจ กรณีเรื่องของการบริหารจัดการศูนย์ผิดพลาดกับกรณีการทุจริตถุงยังชีพ

นายขวัญชัยเปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเสื้อแดงโดยเฉพาะสมาชิกชมรมคนรักอุดร ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย จนได้จัดตั้งรัฐบาล และ พล.ต.อ.ประชา เท่ากับเป็น ส.ส.คนหนึ่งของ จ.อุดรธานี ที่พวกเราให้การสนับสนุน และได้เป็นรัฐมนตรีที่เป็นหน้าตาของชาวอุดรธานี การเดินทางไปที่กรุงเทพฯ เพื่อให้กำลังใจท่านที่จะต้องถูกพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากการบริหารจัดการเรื่องของน้ำท่วม ในฐานะหัวหน้าทีมทำงานของ ศปภ.ที่ฝ่ายค้านน้ำเรื่องน้ำท่วมมาเป็นเกมการเมือง

“เราไปเพื่อให้กำลังใจท่าน เพราะเราทราบว่าท่านทำงานเพื่อส่วนรวมเต็มที่ ซึ่งการที่เราจะไปให้กำลังใจ เพราะเราเคยบอกไว้แล้วว่า ชมรมคนรักอุดร และคนเสื้อแดงภาคอีสานทุกคนจะสนับสนุนการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ หากมีรัฐมนตรีคนไหนของพรรค ที่ทำงานไม่เข้าตา หรือทุจริต เราคนเสื้อแดงจะเป็นผู้ที่ดำเนินการขับไล่ออกเอง โดยพรุ่งนี้เราจะอยู่ที่หน้ารัฐสภาด้วยความสงบ จนเสร็จจึงจะเดินทางกลับ” นายขวัญชัยกล่าว
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมฟังการอภิปราย
คณะรัฐมนตรีร่วมฟังการอภิปราย

กำลังโหลดความคิดเห็น